วิตามิน B ในนมแม่

images3

รศ.นพ.ภาวิน พัวพรพงษ์

??????????? วิตามิน B1, B2, B3, B6 และ B12 จะไม่มีการเก็บสะสมในร่างกาย1 ดังนั้น การได้รับวิตามินเหล่านี้จากอาหารจึงมีความจำเป็น วิตามิน B จากมารดาจะผ่านเข้าสู่น้ำนมได้ดี การรับประทานอาหารที่มีธัญพืชน้อย เนื้อสัตว์ต่ำจะส่งผลต่อปริมาณวิตามิน B122,3 การกินยาคุมกำเนิดก่อนการตั้งครรภ์และช่วงให้นมบุตรจะมีผลต่อปริมาณวิตามิน B64 และหากมารดาเคยได้รับการผ่าตัดที่มีการทำ gastric bypass จะมีความเสี่ยงในการขาดวิตามิน B5

หนังสืออ้างอิง

1.???????????? Allen LH. B vitamins in breast milk: relative importance of maternal status and intake, and effects on infant status and function. Adv Nutr 2012;3:362-9.

2.???????????? Specker BL, Miller D, Norman EJ, Greene H, Hayes KC. Increased urinary methylmalonic acid excretion in breast-fed infants of vegetarian mothers and identification of an acceptable dietary source of vitamin B-12. Am J Clin Nutr 1988;47:89-92.

3.???????????? Deegan KL, Jones KM, Zuleta C, et al. Breast milk vitamin B-12 concentrations in Guatemalan women are correlated with maternal but not infant vitamin B-12 status at 12 months postpartum. J Nutr 2012;142:112-6.

4.???????????? Kirksey A, Ernst JA, Roepke JL, Tsai TL. Influence of mineral intake and use of oral contraceptives before pregnancy on the mineral content of human colostrum and of more mature milk. Am J Clin Nutr 1979;32:30-9.

5.???????????? Grange DK, Finlay JL. Nutritional vitamin B12 deficiency in a breastfed infant following maternal gastric bypass. Pediatr Hematol Oncol 1994;11:311-8.

?

 

วิตามิน A ในนมแม่

images3

รศ.นพ.ภาวิน พัวพรพงษ์

??????????? วิตามิน A พบในน้ำนมระยะแรกที่เป็น colostrum มาก1 ปริมาณของวิตามิน A จะขึ้นอยู่กับปริมาณที่เก็บสะสมในมารดาและการนำผ่านโดยส่วนของไขมันที่เป็นหลักคือ retinyl ester2 โดยพบว่าในช่วงหกเดือนแรกหลังคลอดทารกจะได้รับวิตามิน A ปริมาณมากถึงหกสิบเท่าเทียบกับในช่วงทารกอยู่ในครรภ์เก้าเดือน3 การขาดวิตามิน A ในมารดาจะทำให้ปริมาณวิตามิน A ในกระแสเลือดของมารดาและในน้ำนมต่ำ1 ดังนั้นการตรวจวิตามิน A ในกระแสเลือดมารดาจะเป็นตัวทำนายปริมาณวิตามิน A ได้ นอกจากนี้ การเสริมวิตามิน A อาจช่วยให้ภาวะโภชนาการของมารดาดีขึ้นในมารดาที่มีภาวะทุพโภชนาการ ป้องกันการเกิด xeropthalmia3 และสะสมไว้สำหรับทารกในระยะกินนมแม่4,5

หนังสืออ้างอิง

1.???????????? Strobel M, Tinz J, Biesalski HK. The importance of beta-carotene as a source of vitamin A with special regard to pregnant and breastfeeding women. Eur J Nutr 2007;46 Suppl 1:I1-20.

2.???????????? Stoltzfus RJ, Underwood BA. Breast-milk vitamin A as an indicator of the vitamin A status of women and infants. Bull World Health Organ 1995;73:703-11.

3.???????????? Bahl R, Bhandari N, Wahed MA, Kumar GT, Bhan MK. Vitamin A supplementation of women postpartum and of their infants at immunization alters breast milk retinol and infant vitamin A status. J Nutr 2002;132:3243-8.

4.???????????? Oliveira-Menegozzo JM, Bergamaschi DP, Middleton P, East CE. Vitamin A supplementation for postpartum women. Cochrane Database Syst Rev 2010:CD005944.

5.???????????? Agne-Djigo A, Idohou-Dossou N, Kwadjode KM, Tanumihardjo SA, Wade S. High prevalence of vitamin A deficiency is detected by the modified relative dose-response test in six-month-old Senegalese breast-fed infants. J Nutr 2012;142:1991-6.

?

 

อาหารขณะที่มารดาเลี้ยงลูกด้วยนมแม่

images3

รศ.นพ.ภาวิน พัวพรพงษ์

??????????? ปัจจุบันแนะนำให้เลี้ยงลูกด้วยนมแม่อย่างเดียวหกเดือนหลังคลอด การดูแลเรื่องอาหารของมารดาในช่วงเลี้ยงลูกด้วยนมแม่จึงเป็นสิ่งสำคัญ เนื่องจากจะทำให้นมแม่มีสารอาหารที่จำเป็นครบถ้วนเพื่อการเจริญเติบโตและพัฒนาการของทารก โดยทั่วไประหว่างที่เลี้ยงลูกด้วยนมแม่ มารดาควรรับประทานอาหารที่หลากหลายและครบส่วน วิตามินและแร่ธาตุในนมแม่ที่มีปริมาณขึ้นอยู่กับอาหารของมารดาและปริมาณสารอาหารที่สะสมอยู่ในร่างกายได้แก่ วิตามิน A, B1, B2, B3, B6, B12, C, D กรดไขมัน และไอโอดีน ส่วนปริมาณแคลอรี่ โปรตีน โฟเลต และแร่ธาตุอื่นๆ ไม่ขึ้นอยู่กับอาหารของมารดาที่รับประทาน

??????????? สำหรับวิตามินที่แนะนำให้เสริมในทารก ได้แก่ วิตามิน D และวิตามิน K เนื่องจากในน้ำนมพบวิตามินเหล่านี้ต่ำ สมาคมกุมารแพทย์ของสหรัฐอเมริกาจึงแนะนำให้เสริมวิตามินเหล่านี้โดยไม่จำเป็นต้องพิจารณาถึงการรับประทานอาหารและอาหารเสริมที่ให้แก่มารดา1-5

หนังสืออ้างอิง

1.???????????? Butte NF, Garza C, Stuff JE, Smith EO, Nichols BL. Effect of maternal diet and body composition on lactational performance. Am J Clin Nutr 1984;39:296-306.

2.???????????? Greer FR, Marshall S, Cherry J, Suttie JW. Vitamin K status of lactating mothers, human milk, and breast-feeding infants. Pediatrics 1991;88:751-6.

3.???????????? Greer FR, Marshall S. Bone mineral content, serum vitamin D metabolite concentrations, and ultraviolet B light exposure in infants fed human milk with and without vitamin D2 supplements. J Pediatr 1989;114:204-12.

4.???????????? Pietschnig B, Haschke F, Vanura H, et al. Vitamin K in breast milk: no influence of maternal dietary intake. Eur J Clin Nutr 1993;47:209-15.

5.???????????? Greer FR, Mummah-Schendel LL, Marshall S, Suttie JW. Vitamin K1 (phylloquinone) and vitamin K2 (menaquinone) status in newborns during the first week of life. Pediatrics 1988;81:137-40.

?

 

การจำแนกกลุ่มยาตามประเภทของยาที่ใช้ระหว่างการตั้งครรภ์

w52

รศ.นพ.ภาวิน พัวพรพงษ์

การจำแนกกลุ่มยาตามประเภท ส่วนใหญ่อ้างอิงตามองค์การอาหารและยาของสหรัฐอเมริกา โดยองค์การอาหารและยาของสหรัฐอเมริกาได้จำแนกกลุ่มยาที่ใช้ระหว่างการตั้งครรภ์ตามความเสี่ยงน้อยไปมาก1 ดังนี้

Category A มีการศึกษาที่ได้รับการควบคุมพบว่าไม่มีความเสี่ยง

Category B ไม่พบหลักฐานว่ามีความเสี่ยงในมนุษย์

Category C ไม่สามารถจะตัดสินได้ว่าไม่มีความเสี่ยง

Category D มีหลักฐานว่ามีความเสี่ยงต่อทารก

Category X ห้ามใช้ในระหว่างการตั้งครรภ์

ในการสืบค้นยา หากบุคลากรทางการแพทย์ได้สืบค้นและได้ประเภทของยาที่ใช้ระหว่างการตั้งครรภ์ ประเภทของยาจะช่วยบอกถึงความเสี่ยงของการใช้ยาระหว่างการตั้งครรภ์ได้ร่วมกับการค้นหาข้อมูลเรื่องความปลอดภัยของยาเพิ่มเติมจะช่วยในการตัดสินใจในการเลือกใช้ยามากขึ้น

หนังสืออ้างอิง

1.???????????? Mehta N, Larson L. Pharmacotherapy in pregnancy and lactation. Clin Chest Med 2011;32:43-52, viii.

?

 

ข้อมูลความปลอดภัยของยาระหว่างการตั้งครรภ์

w52

รศ.นพ.ภาวิน พัวพรพงษ์

ข้อมูลความปลอดภัยของยาระหว่างการตั้งครรภ์ ข้อมูลเหล่านี้ส่วนใหญ่จะเป็นข้อมูลที่ได้จากการศึกษาในสัตว์ทดลอง การรายงานจากกรณีศึกษา ส่วนข้อมูลในมนุษย์ยังมีข้อมูลน้อย และยังมีข้อจำกัดว่า ความผิดปกติของทารกที่เกิดขึ้นเป็นผลจากการใช้ยาหรือเป็นผลมาจากตัวโรคที่เป็นของสตรีตั้งครรภ์1 ดังนั้น แพทย์ผู้ใช้ยาจำเป็นต้องทบทวนข้อมูลความปลอดภัยของยาระหว่างการตั้งครรภ์อย่างสม่ำเสมอเพื่อให้ข้อมูลที่จะนำไปใช้ในการให้คำปรึกษาและวางแผนในการรักษาผู้ป่วยมีความทันสมัยและให้ประโยชน์กับผู้ป่วยสูงสุด

หนังสืออ้างอิง

1.???????????? Mehta N, Larson L. Pharmacotherapy in pregnancy and lactation. Clin Chest Med 2011;32:43-52, viii.

?

 

แหล่งความรู้ เกี่ยวกับสูติ-นรีเวช (Obstetrics-Gynecology)