คลังเก็บป้ายกำกับ: การให้ยาระหว่างการตั้งครรภ์

เภสัชกลศาสตร์ของยาระหว่างการตั้งครรภ์

w52

รศ.นพ.ภาวิน พัวพรพงษ์

เภสัชกลศาสตร์ของยาระหว่างการตั้งครรภ์จะมีความแตกต่างจากสตรีก่อนตั้งครรภ์ โดยในสตรีตั้งครรภ์จะมีภาวะน้ำเลือดเพิ่มขึ้น การกรองของหน่วยไตเพิ่มขึ้น และภาวะอัลบูมินต่ำจากการเจือจาง การดูดซึมของยาชนิดรับประทานจะมีผลเปลี่ยนแปลงจากการที่มีการบีบตัวไล่อาหารในกระเพาะอาหารช้าลง แม้ว่าโดยทั่วไปไม่มีการปรับเปลี่ยนขนาดของยา แต่ยาที่บริหารโดยรับประทานวันละหลายครั้งจะมีช่วงระยะของผลของยายืดออกมากกว่ายาที่รับประทานวันหนึ่งครั้ง1

หนังสืออ้างอิง

1.???????????? Mehta N, Larson L. Pharmacotherapy in pregnancy and lactation. Clin Chest Med 2011;32:43-52, viii.

?

 

ช่วงเวลาที่ปลอดภัยในการให้ยาระหว่างการตั้งครรภ์

w52

รศ.นพ.ภาวิน พัวพรพงษ์

ช่วงเวลาที่ปลอดภัย ทารกจะมีความเสี่ยงเรื่องความผิดปกติทางร่างกายและอวัยวะสูงในช่วงของการตั้งครรภ์ในไตรมาสที่หนึ่ง สำหรับการพัฒนาระบบประสาท พฤติกรรม และอวัยวะบางอย่างอาจจะยังได้รับผลกระทบแม้หลังผ่านไตรมาสที่หนึ่งไปแล้ว มักจะแบ่งช่วงระยะของทารกในครรภ์ขณะที่ได้รับยาเป็นสามระยะ1 คือ

ระยะที่หนึ่งตั้งแต่ปฏิสนธิจนถึง 14 วัน ระยะนี้หากเซลล์ตัวอ่อนได้รับยาผลจะเป็นตามกฎ all or none คือแท้งหรือไม่มีผลต่อเซลล์ตัวอ่อน

ระยะที่สองตั้งแต่ 14 วันจนถึง 60 วันหลังปฏิสนธิ ระยะนี้จะเป็นช่วงที่ตัวอ่อนพัฒนาและสร้างอวัยวะ ความผิดปกติจะขึ้นอยู่กับยาเฉพาะแต่ละตัวที่จะมีผลเฉพาะในแต่ละช่วงเวลาของการพัฒนาการ เช่น ยา Thalidomide จะมีผลต่อทารกเฉพาะในช่วงตั้งแต่วันที่ 21-36 หลังการปฏิสนธิ Vaproic acid มีผลต่อ neural tube ในช่วงวันที่ 14-27 หลังการปฏิสนธิ

ระยะที่สามตั้งแต่วันที่ 60 หลังปฏิสนธิจนกระทั่งคลอด จะเป็นช่วงที่ทารกมีพัฒนาการในครรภ์ การได้รับยาในช่วงนี้จะมีผลต่อความผิดปกติของร่างกายและอวัยวะน้อยกว่า เช่น การได้รับ angiotension converting enzyme inhibitor ในระหว่างช่วงการตั้งครรภ์ไตรมาสที่สองและสาม จะทำให้เกิดภาวะน้ำคร่ำน้อย ทารกไม่ปัสสาวะ pulmonary hypoplasia ทารกในครรภ์เจริญเติบโตช้า และทารกเสียชีวิตได้

หนังสืออ้างอิง

1.???????????? Mehta N, Larson L. Pharmacotherapy in pregnancy and lactation. Clin Chest Med 2011;32:43-52, viii.

?

?