รศ.นพ.ภาวิน พัวพรพงษ์
????????????? บุคลากรทางการแพทย์ไม่รู้ว่าจะช่วยมารดาในการเรียนรู้การดูแลทารกได้อย่างไร การปลอบประโลมและการดูแลทารกเป็นสิ่งที่สำคัญสำหรับมารดา การช่วยมารดาที่จะเรียนรู้การดูแลทารกในช่วงกลางคืนจะเป็นประโยชน์กว่าการแยกทารกไปไว้หออภิบาลทารกแรกเกิด ซึ่งการแยกทารกไปไว้ที่หออภิบาลทารกแรกเกิดจะลดความมั่นใจของมารดาในการปรับตัวของมารดารับการเป็นแม่
หนังสืออ้างอิง
1.????? WHO/UNICEF. BFHI Section 3: Breastfeeding promotion and support in a baby-friendly hospital ? 20-hour course. ?2009
รศ.นพ.ภาวิน พัวพรพงษ์
????????????? ไม่มีพื้นที่ที่วางเตียงเล็กสาหรับทารก ทารกสามารถจะนอนร่วมเตียงกับมารดาได้ ซึ่งจะช่วยให้มารดาได้พักไปพร้อมๆ กับทารกและการให้นมลูกทำได้บ่อยขึ้น แต่อาจจำเป็นต้องมีราวกั้นเตียง เก้าอี้ หรืออาจวางเตียงติดกำแพงเพื่อป้องกันทารกตกเตียง
หนังสืออ้างอิง
1.????? WHO/UNICEF. BFHI Section 3: Breastfeeding promotion and support in a baby-friendly hospital ? 20-hour course. ?2009
รศ.นพ.ภาวิน พัวพรพงษ์
????????????? ความเชื่อที่ว่าทารกแรกเกิดต้องได้รับการสังเกตการ โดยปกติการสังเกตการทารกขณะที่อยู่ใกล้เตียงมารดาสามารถง่ายเช่นเดียวกับอยู่ในหออภิบาลทารก นอกจากนี้ มารดาที่อยู่ใกล้ลูกมักสังเกตความผิดปกติของทารกได้รวดเร็วกว่า และบ่อยครั้งที่สังเกตได้ดีกว่าพยาบาลที่ยุ่งอยู่ในหออภิบาลทารกแรกเกิด เช่นเดียวกันกับการสังเกตการใกล้ชิดไม่สามารถเป็นไปได้ที่หออภิบาลทารกแรกเกิด
หนังสืออ้างอิง
1.????? WHO/UNICEF. BFHI Section 3: Breastfeeding promotion and support in a baby-friendly hospital ? 20-hour course. ?2009
รศ.นพ.ภาวิน พัวพรพงษ์
??????????? การนำทารกไปที่หออภิบาลทารกแรกเกิดเพื่อทำหัตถการ วิธีการในการช่วยเหลือ ได้แก่ การดูแลทารกควรทำที่ข้างเตียงมารดาหรือขณะที่อยู่กับมารดา ซึ่งจะเป็นโอกาสที่จะสร้างความมั่นใจและสอนมารดาในการดูแลทารกที่มีภาวะเครียด
หนังสืออ้างอิง
1.????? WHO/UNICEF. BFHI Section 3: Breastfeeding promotion and support in a baby-friendly hospital ? 20-hour course. ?2009
รศ.นพ.ภาวิน พัวพรพงษ์
???????? -อุปสรรคต่างๆ ในการให้มารดาและทารกอยู่ร่วมกันตลอด 24 ชั่วโมงอาจเกิดขึ้นจาก
??????????? ความวิตกกังวลว่ามารดาเหนื่อย วิธีการในการช่วยเหลือ ได้แก่ การดูแลในลักษณะงานประจำโดยให้มารดาได้พักในบรรยากาศที่สงบเงียบปราศจากการเข้าไปทำความสะอาด การเข้าเยี่ยมของเพื่อนหรือญาติ และการตรวจหรือการทำหัตถการทางการแพทย์ที่ไม่จำเป็น ร่วมกับการทบทวนการดูแลในระหว่างคลอดที่อาจทำให้มารดาเหนื่อยและอ่อนเพลีย ได้แก่ การคลอดที่เนิ่นนาน การงดน้ำงดอาหาร การให้ยาแก้ปวดและการตัดฝีเย็บ ซึ่งความเครียดเหล่านี้จะทำให้มารดารู้สึกเหนื่อยมากเกินไปและไม่สบายตัว
หนังสืออ้างอิง
1.????? WHO/UNICEF. BFHI Section 3: Breastfeeding promotion and support in a baby-friendly hospital ? 20-hour course. ?2009
แหล่งความรู้ เกี่ยวกับสูติ-นรีเวช (Obstetrics-Gynecology)