? ?รศ.นพ.ภาวิน พัวพรพงษ์
? ? ? ? -บางครั้งบุคลากรทางการแพทย์จะแจ้งมารดาว่าควรมาปรึกษาหากมีปัญหาในการให้นมลูก แต่คุณแม่มือใหม่อาจจะไม่มีความรู้ว่าอะไรเป็นปกติหรืออะไรผิดปกติ ลักษณะที่จะบ่งบอกว่ามารดาและทารกมีการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ดี ได้แก่
- ทารกมีความแข็งแรงและตื่นตัว โดยมีการกินนมแม่อย่างน้อย 8 ครั้งใน 24 ชั่วโมง
- ทารกสงบและนอนหลับได้เป็นช่วงๆ ใน 24 ชั่วโมง
- ทารกปัสสาวะ 6 ครั้งหรือมากกว่าใน 24 ชั่วโมงโดยปัสสาวะสีไม่เข้ม และควรอุจจาระอย่างน้อย 3 ครั้งต่อวัน
- เต้านมควรตึงคัดก่อนให้นมและควรนิ่มลงหลังการให้นม และไม่ควรมีการเจ็บเต้านมหรือหัวนม
- มารดาควรมีความมั่นใจในการดูแลทารกโดยทั่วไป
หนังสืออ้างอิง
- WHO/UNICEF. BFHI Section 3: Breastfeeding promotion and support in a baby-friendly hospital ? 20-hour course. ?2009
รศ.นพ.ภาวิน พัวพรพงษ์
? ? ? ? ? ? -เมื่อมารดากลับบ้านอาจจะได้รับแรงกดดันให้ให้น้ำหรืออาหารเสริมกับทารก ดังนั้น มารดาต้องได้รับการย้ำเตือนให้เข้าใจถึงความสำคัญของการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่อย่างเดียวอย่างน้อยหกเดือนและการคงให้นมแม่อย่างต่อเนื่อง??
-หลังจากหกเดือนแรก? ทารกควรได้รับอาหารเสริมโดยการให้นมแม่จะยังคงมีสารอาหารที่มีประโยชน์ ช่วยป้องกันความเจ็บป่วยและช่วยให้มารดาและทารกใกล้ชิดกัน นมแม่ยังคงมีสารอาหารที่มีคุณค่าและดีต่อสุขภาพทารกจนกระทั่งสองปีหรือนานกว่านั้น
-หากมารดาติดเชื้อเอชไอวีและเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ มารดาควรเลี้ยงลูกด้วยนมแม่อย่างเดียว การให้นมผสมกันระหว่างนมแม่กับนมผสมจะเพิ่มความเสี่ยงในการติดเชื้อเอชไอวี
หนังสืออ้างอิง
- WHO/UNICEF. BFHI Section 3: Breastfeeding promotion and support in a baby-friendly hospital ? 20-hour course. ?2009
รศ.นพ.ภาวิน พัวพรพงษ์
? ? ? ? -ในมารดาที่ไม่ได้เลี้ยงลูกด้วยนมแม่? ก่อนกลับบ้าน มารดาควร
- เข้าใจว่าจะเลือกนมชนิดใดให้ในทารกโดยที่ชนิดของนมนั้นได้รับการยอมรับ มีความเป็นไปได้ จัดหาได้ ให้ได้ต่อเนื่อง และมีความปลอดภัยโดยที่มีความเหมาะสมกับมารดา
- รู้ว่าจะให้นมเท่าไรจึงจะเพียงพอสำหรับทารก
- รู้วิธีที่จะลดความเสี่ยงจากการเลือกใช้นมอื่นแทนนมแม่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งมารดาควรมีความสามารถในการเตรียมนมได้อย่างเหมาะสม ซึ่งบุคลากรทางการแพทย์ควรสังเกตและมั่นใจว่ามารดาสามารถเตรียมนมได้ถูกต้องและปลอดภัย
หนังสืออ้างอิง
- WHO/UNICEF. BFHI Section 3: Breastfeeding promotion and support in a baby-friendly hospital ? 20-hour course. ?2009
รศ.นพ.ภาวิน พัวพรพงษ์
? ? ? ? ? ? -บุคลากรทางการแพทย์ที่ได้รับการอบรมเรื่องการส่งเสริมการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ควรจะสังเกตมารดาขณะให้นมลูกโดยต้องมั่นใจว่ามารดาสามารถให้นมลูกด้วยตนเองได้
-ก่อนที่มารดาจะกลับบ้าน ในมารดาที่เลี้ยงลูกด้วยนมแม่ มารดาควร
- เข้าใจถึงการให้นมลูกโดยทารกเป็นผู้กำหนด รู้ความต้องการปริมาณน้ำนมและพฤติกรรมของทารก
- รู้ถึงอาการแสดงของทารกที่ต้องการกินนม
- สามารถจะจัดท่าที่เหมาะสมในการเข้าเต้าที่ดีได้
- รู้ถึงลักษณะของการกินนมที่มีประสิทธิภาพและลักษณะทารกที่เจริญเติบโตได้ดี
- รู้ว่าลักษณะใดที่แสดงว่าน้ำนมมารดามีไม่พอ
- สามารถที่จะให้บีบน้ำนมด้วยมือได้
หนังสืออ้างอิง
- WHO/UNICEF. BFHI Section 3: Breastfeeding promotion and support in a baby-friendly hospital ? 20-hour course. ?2009
รศ.นพ.ภาวิน พัวพรพงษ์
? ? ? ? ? ? ?-บันไดขั้นที่ 10 สู่ความสำเร็จในการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ เขียนไว้ว่า ?จัดตั้งกลุ่มสนับสนุนการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ และส่งต่อมารดาเข้ากลุ่มหลังออกจากโรงพยาบาลหรือคลินิก?
-สิ่งสนับสนุนการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่จะต้องมีอย่างต่อเนื่องในชุมชนและพร้อมรอรับการส่งต่อเมื่อมารดาได้กลับบ้าน
-ในบางชุมชน มารดาจะได้รับการสนับสนุนการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่อย่างดีจากเพื่อนและสมาชิกในครอบครัว แต่หากไม่มี การจัดกลุ่มสนับสนุนการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ในชุมชนจะช่วยส่งเสริมการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่
-ก่อนที่มารดาจะกลับบ้าน มารดาจะต้อง
- สามารถจะเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ได้ด้วยตนเอง
- เข้าใจความสำคัญของการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่อย่างเดียวอย่างน้อยหกเดือน และเริ่มอาหารเสริมโดยคงการให้นมแม่ต่อเนื่องต่อไปได้จนถึงสองปีหรือนานกว่านั้น
- สามารถจะสังเกตได้ว่า การให้นมแม่ทำได้ดีหรือไม่
- รู้วิธีที่จะขอความสนับสนุนเมื่อมารดาต้องการความช่วยเหลือหลังจากกลับบ้าน
หนังสืออ้างอิง
- WHO/UNICEF. BFHI Section 3: Breastfeeding promotion and support in a baby-friendly hospital ? 20-hour course. ?2009
แหล่งความรู้ เกี่ยวกับสูติ-นรีเวช (Obstetrics-Gynecology)