รศ.นพ.ภาวิน พัวพรพงษ์
? ? ? ? ? ? ?-หากมารดาต้องใช้ยา ควรแจ้งแพทย์ว่าให้นมลูกอยู่ โดยปกติแพทย์จะสามารถจะเลือกใช้ยาที่มีความปลอดภัยในการใช้ระหว่างการให้นมลูกได้ ยาส่วนใหญ่จะผ่านน้ำนมน้อยและมีผลต่อทารกน้อย ดังนั้นการหยุดให้นมแม่อาจจะมีอันตรายต่อทารกมากกว่าการใช้ยา
-ยาที่มารดาใช้มักมีผลต่อทารกที่ยังเจริญเติบโตไม่เต็มที่หรือทารกที่อายุอ่อนกว่า 2 เดือนมากกว่าทารกที่อายุแก่กว่า ดังนั้นในการรักษามารดาควรเลือกวิธีการรักษาให้เหมาะสมกับการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่
-หากมารดาต้องใช้ยาและบุคลากรทางการแพทย์ยังไม่มั่นใจ ควรปฏิบัติดังนี้
- กระตุ้นให้มารดายังคงให้นมแม่ไปก่อน ขณะที่หาข้อมูลเพิ่มเติม
- สังเกตอาการข้างเคียงในทารก ได้แก่ ง่วงนอนผิดปกติ ไม่อยากกินนมแม่ ตัวเหลือง โดยเฉพาะหากมารดาจำเป็นต้องใช้ยาเป็นช่วงเวลานาน
- ตรวจสอบข้อมูลรายละเอียดการใช้ยาระหว่างให้นมลูกจากรายการยาขององค์กรอนามัยโลกหรือฐานข้อมูลอื่นที่เชื่อถือได้
- สอบถามผู้เชี่ยวชาญด้านนมแม่หรือเภสัชกร ซึ่งจะทำให้พบทางเลือกในการรักษาที่ปลอดภัยในระหว่างการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่
- หากทารกได้รับอาการข้างเคียงของยาและยาของมารดาไม่สามารถปรับเปลี่ยนได้ การพิจารณาการป้อนนมผสมด้วยถ้วยชั่วคราว อาจเป็นทางเลือกหนึ่ง
-การใช้ยาแผนโบราณ ยาสมุนไพรหรือวิธีการรักษาอื่นๆ อาจจะมีผลข้างเคียงกับทารก ควรจะหาข้อมูลรายละเอียดของการรักษาโดยเฉพาะที่ใช้บ่อยในแต่ละพื้นที่ของประเทศไทย ซึ่งการกระตุ้นให้มารดาคงการให้นมแม่ไปก่อนและสังเกตอาการข้างเคียงที่เกิดในทารกยังเป็นสิ่งที่จำเป็น
หนังสืออ้างอิง
- WHO/UNICEF. BFHI Section 3: Breastfeeding promotion and support in a baby-friendly hospital ? 20-hour course. ?2009
รศ.นพ.ภาวิน พัวพรพงษ์
? ? ? ? ? ? –มีสถานการณ์น้อยมากที่จำเป็นต้องให้อาหารอื่นทดแทนนมแม่ขณะที่มารดาป่วย สิ่งสำคัญจะต้องแยกให้ได้ว่า การเจ็บป่วยของมารดาเป็นข้อห้ามในการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่หรือไม่ หรือความเจ็บป่วยของมารดาทำให้สภาพแวดล้อมที่จะให้นมแม่ได้มีความยากลำบากมากขึ้น
-การนอนโรงพยาบาลไม่ได้เป็นข้อห้ามในการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ เมื่อมารดาป่วยและจำเป็นต้องนอนโรงพยาบาล ทารกสามารถจะอยู่ร่วมกับมารดาได้ โดยหากมีความช่วยเหลือของครอบครัวด้วย ความสำเร็จในการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่จะดีขึ้น
-ในมารดาที่ใช้สารเสพติด ได้แก่ นิโคติน แอลกอฮอล์ ยาบ้า ฝิ่น โคเคน สารเหล่านี้จะผ่านทางน้ำนมและมีผลต่อทารกได้ มารดาควรจะหยุดสารเสพติดเหล่านี้ และจะใช้การเลี้ยงลูกด้วยนมแม่เป็นโอกาสดีในการเลิกสารเสพติดเหล่านี้
-หากมารดาป่วยเป็นโรคติดต่อที่พบบ่อย ได้แก่ เป็นหวัด เจ็บคอ ท้องเสีย ทารกจะมีความเสี่ยงบ้างในการติดเชื้อผ่านทางการสัมผัสและการไอจาม แต่การคงการให้นมลูกอย่างต่อเนื่อง ทารกจะได้ภูมิคุ้มกันที่จะป้องกันการติดเชื้อ ซึ่งความเสี่ยงอาจจะต่ำกว่าการหยุดการให้นมลูกและมารดายังมีการสัมผัสกับทารกอยู่ ในมารดาที่เป็นวัณโรค ไวรัสตับอักเสบบี หรือเต้านมอักเสบ ก็ไม่ได้เป็นข้อห้ามในการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่
-หากมารดาไม่สามารถเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ได้ การใช้แม่นม (ที่มีผลการตรวจเอชไอวีเป็นลบ) หรือการพลาสเจอไรส์นมแม่ อาจเป็นทางเลือกหนึ่ง
หนังสืออ้างอิง
- WHO/UNICEF. BFHI Section 3: Breastfeeding promotion and support in a baby-friendly hospital ? 20-hour course. ?2009
รศ.นพ.ภาวิน พัวพรพงษ์
การช่วยเหลือมารดาให้สามารถให้นมลูกได้ ขณะมารดาป่วย มีดังนี้
-อธิบายเกี่ยวกับประโยชน์ของการคงการให้นมลูก ขณะที่มารดาป่วย
-ให้มารดาและทารกได้อยู่ร่วมกัน ลดการพลัดพรากและแยกจากกัน
-ให้มารดาได้รับน้ำที่เพียงพอ โดยเฉพาะมารดาที่มีไข้
-ช่วยให้มารดาจัดท่าที่เหมาะสมในการให้นมลูกเพื่อความสบายในขณะให้นม
-หากการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ทำได้ยากหรือมารดาอ่อนแอเกินไป การบีบเก็บน้ำนมและป้อนนมด้วยถ้วยอาจจะช่วยได้ และทำให้มารดากลับมาให้นมลูกได้อีกครั้งเมื่ออาการดีขึ้น
-เลือกวิธีการรักษาหรือยาที่ปลอดภัยให้มารดาสามารถให้นมลูกต่อไปได้ขณะที่ป่วย
-ช่วยมารดาให้กลับมาสามารถเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ได้ หากในระหว่างที่มารดาเจ็บป่วยที่ต้องมีการลดหรือเว้นการให้นมบุตร
หนังสืออ้างอิง
- WHO/UNICEF. BFHI Section 3: Breastfeeding promotion and support in a baby-friendly hospital ? 20-hour course. ?2009
รศ.นพ.ภาวิน พัวพรพงษ์
คำถาม จะบอกมารดาเรื่องการให้นมลูกอย่างไร ขณะมารดาป่วย?
-มารดาสามารถให้นมลูกได้เกือบทุกกรณีในขณะที่มารดาป่วย มีประโยชน์หลายประการในการคงการให้นมลูกอย่างต่อเนื่องขณะมารดาป่วย ได้แก่
- มารดาจะสร้างภูมิคุ้มกันโรค ซึ่งจะผ่านจากน้ำนมไปสู่ลูก ทำให้ลูกมีภูมิคุ้มกันต่อโรคนั้นด้วย
- การหยุดให้นมทันทีจะทำให้มารดาเจ็บคัดเต้านม และอาจทำให้มีไข้ได้
- ทารกอาจจะแสดงอาการหงุดหงิด กระวนกระวาย หากมารดาหยุดให้นมทันที
- จะเป็นเรื่องยากที่มารดาจะกลับไปให้นมลูกอีกครั้งหลังจากหยุดให้นมเมื่อฟื้นตัวหายจากอาการเจ็บป่วยแล้ว ร่วมกับปริมาณน้ำนมที่สร้างก็ลดลงด้วย
- การหยุดเลี้ยงลูกด้วยนมแม่จะเป็นการปล่อยให้ทารกต้องผจญกับความเสี่ยงภัยในการกินนมผสม
- การเลี้ยงลูกด้วยนมแม่เป็นภาระงานที่น้อยกว่าการให้ลูกกินนมผสมที่มารดาจะชงนม นั่งประกบกับทารกขณะให้นมขวด และต้องดูแลความสะอาดพร้อมนึ่งขวดนม
- มารดาและทารกสามารถอยู่ร่วมกันได้ โดยมารดาจะรู้ว่าลูกปลอดภัยและมีความสุข
- ทารกยังคงได้รับประโยชน์จากการกินนมแม่ที่จะช่วยป้องกันโรค มีคุณค่าของสารอาหารครบถ้วน มีการเจริญเติบโตและการพัฒนาการที่ดี และมีความเสี่ยงในการเกิดโรคอ้วนหรือปัญหาสุขภาพอื่นๆ เมื่อททารกเติบโตขึ้นน้อยกว่า
-มารดาที่เจ็บป่วยเรื้อรังจำเป็นต้องได้รับการช่วยเหลือให้สามารถเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ได้ เช่น มารดาที่เป็นเบาหวานและมีภาวะแทรกซ้อนระหว่างการคลอดที่รบกวนการให้นมลูก แต่หากได้รับการแนะนำช่วยเหลืออย่างเหมาะก็สามารถให้นมลูกได้
หนังสืออ้างอิง
- WHO/UNICEF. BFHI Section 3: Breastfeeding promotion and support in a baby-friendly hospital ? 20-hour course. ?2009
รศ.นพ.ภาวิน พัวพรพงษ์
คำถาม จะบอกมารดาว่าอะไรเกี่ยวกับการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ที่ช่วยเว้นระยะการมีบุตรได้
-การเลี้ยงลูกด้วยนมแม่จะช่วยชะลอการตกไข่และการมีประจำเดือน จึงช่วยในการเว้นระยะการมีบุตรได้ วิธีการคุมกำเนิดโดยการให้นมลูก (Lactation Amenorrhea Method; LAM) สามารถช่วยให้มารดาที่ให้นมลูกเว้นระยะการมีบุตรได้
-ประสิทธิภาพของวิธีการคุมกำเนิดโดยการให้นมลูกจะสูงถึงร้อยละ 98 ในการป้องกันการตั้งครรภ์ โดยมีเงื่อนไข 3 ประการในการปฏิบัติ ดังนี้
- มารดาต้องไม่มีประจำเดือน
- มารดาต้องเลี้ยงลูกด้วยนมแม่อย่างเดียวทั้งกลางวันและกลางคืน และไม่เว้นช่วงการให้นมลูกที่นานเกินไป
- ทารกต้องอายุน้อยกว่าหกเดือน
-หากมารดาพบว่าไม่สามารถปฏิบัติตามเงื่อนไข 3 ประการได้ มารดาควรคุมกำเนิดด้วยวิธีการคุมกำเนิดอื่นเพิ่มเติมด้วยเพื่อช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในป้องกันการตั้งครรภ์
-วิธีการคุมกำเนิดส่วนใหญ่สามารถทำได้พร้อมกับการให้นมลูก ยกเว้นการกินยาคุมกำเนิดชนิดฮอร์โมนรวมที่มีฮอร์โมนเอสโตรเจน
หนังสืออ้างอิง
- WHO/UNICEF. BFHI Section 3: Breastfeeding promotion and support in a baby-friendly hospital ? 20-hour course. ?2009
แหล่งความรู้ เกี่ยวกับสูติ-นรีเวช (Obstetrics-Gynecology)