รศ.นพ.ภาวิน พัวพรพงษ์
? ? ? ? ? ? ? ? ? นมแม่มีสารต่างๆ มากมายกว่า 200 ชนิด ทั้งที่ทราบว่าเป็นประโยชน์ต่อทารกและยังไม่ทราบว่ามีประโยชน์อย่างไร เมื่อเร็วๆ นี้มีการศึกษาพบว่าในนมแม่มีสารที่ช่วยในการเจริญเติบโตของหลอดเลือด (angiogenesis) ซึ่งกระตุ้นการเจริญเติบโตของหลอดเลือด โดยจะเป็นประโยชน์ต่อทั้งในด้านการเจริญเติบโต พัฒนาการและการซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอ และพบว่านมแม่ของมารดาที่คลอดก่อนกำหนดจะมีโปรตีนที่ช่วยในการเจริญเติบโตของหลอดเลือด (angioproteins) ชนิดที่ 1 ต่ำกว่าในนมแม่ของมารดาที่คลอดครบกำหนด ขณะที่โปรตีนที่ช่วยในการเจริญเติบโตของหลอดเลือดชนิดที่ 2 ไม่พบว่ามีความแตกต่างกัน 1 อย่างไรก็ตาม ยังไม่ทราบถึงเหตุผลของระดับของโปรตีนที่ช่วยในการเจริญเติบโตของหลอดเลือดที่มีระดับแตกต่างกันในมารดาที่คลอดก่อนกำหนดและมารดาที่คลอดครบกำหนด ซึ่งจำเป็นต้องมีการศึกษาเพิ่มเติมต่อไป
เอกสารอ้างอิง
Yesildal F, Koc E, Tas A, Ozgurtas T. Angiopoietins in Human Breast Milk. Breastfeed Med 2016;11:366-9.
รศ.นพ.ภาวิน พัวพรพงษ์
? ? ? ? ? ? ? ?การที่มารดาอ้วนจะมีความเสี่ยงที่จะเกิดทารกที่มีภาวะอ้วนเพิ่มขึ้น และระหว่างการตั้งครรภ์จะมีภาวะแทรกซ้อนได้บ่อยกว่ามารดาที่มีดัชนีมวลกายอยู่ในเกณฑ์ปกติ ภาวะแทรกซ้อนที่พบเพิ่มขึ้นได้แก่ เบาหวานระหว่างตั้งครรภ์ ครรภ์เป็นพิษ การคลอดยาก ทารกตัวโต ทารกคลอดติดไหล่ ทารกมีภาวะน้ำตาลต่ำ การตกเลือดหลังคลอด การติดเชื้อหลังคลอด ซึ่งภาวะแทรกซ้อนเหล่านี้ อาจทำให้มารดาเริ่มการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ได้ช้า ร่วมกับการที่มารดามีภาวะอ้วนจะส่งผลต่อระดับของฮอร์โมนอินซูลิน ซึ่งจะมีผลทำให้นมแม่มาช้า (delayed lactogenesis) จึงมักพบว่า มารดาที่มีภาวะอ้วนจะเริ่มให้นมลูกได้ช้าและมีอัตราการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ต่ำกว่ามารดาที่มีดัชนีมวลกายปกติ อย่างไรก็ตาม หากมารดาสามารถเริ่มต้นการกระตุ้นดูดนมได้เร็วคือ ภายในหนึ่งชั่วโมงแรกหลังคลอดจะช่วยเพิ่มอัตราการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ได้ และในมารดาที่มีภาวะอ้วนหากเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ ลูกที่กินนมแม่จะมีโอกาสที่จะเกิดภาวะอ้วนได้น้อยกว่ามารดาที่ให้ลูกกินนมผงดัดแปลงสำหรับทารก 1
เอกสารอ้างอิง
Yeung H, Leff M, Rhee KE. Effect of Exclusive Breastfeeding Among Overweight and Obese Mothers on Infant Weight-for-Length Percentile at 1 Year. Breastfeed Med 2016.
รศ.นพ.ภาวิน พัวพรพงษ์
? ? ? ? ? ? ? ?มะเร็งไทรอยด์เป็นมะเร็งที่พบมากขึ้นในช่วงสิบปีที่ผ่านมาโดยเฉพาะในสตรี โดยขณะตั้งครรภ์ ต่อมไทรอยด์ทำงานเพิ่มขึ้น และฮอร์โมนเอสโตรเจนมีผลต่อเซลล์มะเร็งไทรอยด์ ดังนั้น จึงมีการศึกษาถึงความสัมพันธ์ของการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่กับมะเร็งไทรอยด์ ซึ่งจากการวิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้ข้อมูลจากหลายงานวิจัย (meta-analysis) พบว่า มารดาที่เคยให้ลูกกินนมแม่จะมีความเสี่ยงในการเกิดมะเร็งไทรอยด์ลดลงร้อยละ 9? โดยหากมารดาให้ลูกกินนมแม่เพิ่มขึ้นทุกหนึ่งเดือนจะลดความเสี่ยงในการเกิดมะเร็งไทรอยด์ลงเพิ่มขึ้นร้อยละ 4 1 จะเห็นว่า การให้ลูกกินนมแม่นั้น ลดความเสี่ยงในการเกิดมะเร็งหลายอย่างในมารดา ได้แก่ มะเร็งรังไข่ มะเร็งเต้านม และรวมถึงมะเร็งไทรอยด์ด้วย
เอกสารอ้างอิง
Yi X, Zhu J, Zhu X, Liu GJ, Wu L. Breastfeeding and thyroid cancer risk in women: A dose-response meta-analysis of epidemiological studies. Clin Nutr 2016;35:1039-46.
รศ.นพ.ภาวิน พัวพรพงษ์
? ? ? ? ? ? ? ? ?ความใกล้ชิดและการดูแลอย่างต่อเนื่องหลังคลอดในชุมชน โดยเฉพาะการเยี่ยมบ้าน หากสามารถทำได้ในสัปดาห์แรกหลังคลอดจะช่วยในการสนับสนุนการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ได้เป็นอย่างดี เนื่องจากหลังจากการที่มารดาออกจากโรงพยาบาล เมื่อกลับมาที่บ้าน สิ่งแวดล้อมที่บ้าน บางส่วนอาจจะสนับสนุนการให้ลูกได้กินนมแม่ แต่บางส่วนอาจเป็นปัญหาหรืออุปสรรคในการที่มารดาจะดูแลให้ลูกได้กินนมแม่ ซึ่งการที่บุคลากรทางการแพทย์ได้เข้าไปเยี่ยมบ้านของมารดา ทราบบรรยากาศ ข้อจำกัด ปัญหาและอุปสรรคของมารดาที่ต้องเผชิญเมื่ออยู่ที่บ้าน จะทำให้สามารถให้คำแนะนำและให้คำปรึกษา รวมทั้งทางเลือกต่างๆ ในการดูแลทารกได้อย่างเหมาะสมกว่า มีการศึกษาเปรียบเทียบ การดูแลการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่และการเจริญเติบโตของทารกที่ติดตามดูแลที่แผนกผู้ป่วยนอกของโรงพยาบาลกับที่ติดตามดูแลในศูนย์สุขภาพในชุมชน พบว่า อัตราการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ในการติดตามดูแลที่ศูนย์สุขภาพชุมชนมีอัตราที่สูงกว่า 1 สิ่งนี้แสดงถึง ความใกล้ชิดและความเข้าใจในสิ่งแวดล้อม การแก้ปัญหาและลดอุปสรรคที่อาจจะเข้าถึงได้มากกว่าในศูนย์สุขภาพชุมชน ซึ่งส่งผลต่ออัตราการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ที่ดีกว่า
เอกสารอ้างอิง
Yu C, Binns CW, Lee AH. Comparison of breastfeeding rates and health outcomes for infants receiving care from hospital outpatient clinic and community health centres in China. J Child Health Care 2016;20:286-93.
รศ.นพ.ภาวิน พัวพรพงษ์
? ? ? ? ? ? ? ? ? ในการส่งเสริมการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ การให้ความสนใจกับทารกแรกเกิดที่ป่วยหรือต้องการการดูแลอย่างใกล้ชิดที่หอทารกแรกเกิดวิกฤต (newborn intensive care unit หรือ NICU) เป็นส่วนหนึ่งที่ต้องมีการให้ความสำคัญเพิ่มขึ้นในการดูแลสนับสนุนการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ในปัจจุบัน เพื่อเป็นส่วนช่วยในการเพิ่มอัตราการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ เนื่องจากมีภาวะแทรกซ้อนต่างๆ เกิดมากขึ้นในการดูแลทารกแรกเกิด โดยเฉพาะภาวะทารกคลอดก่อนกำหนด จึงจำเป็นต้องมีการวางแผนเพื่อกำหนดตัวชี้วัดที่จะใช้ติดตามการดำเนินงาน เพื่อการประเมินและพัฒนากระบวนการหรือรูปแบบการให้บริการรวมทั้งเพื่อสร้างมาตรฐานในการเป็นหอผู้ป่วยทารกแรกเกิดวิกฤตที่ส่งเสริมการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ มีการศึกษาการใช้กลุ่มของตัวชี้วัดจากการบริหารจัดการการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ของหอทารกแรกเกิดวิกฤต ตัวชี้วัดจากพฤติกรรมของทารกในการกินนมแม่ที่หอทารกแรกเกิดวิกฤต และการเตรียมความพร้อมและทักษะของมารดาในการให้นมแม่แก่ทารกที่หอทารกแรกเกิดวิกฤต1 นำมาวิเคราะห์ความสัมพันธ์กับความสำเร็จของการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ อย่างไรก็ตาม ในการดำเนินงานสนับสนุนการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ที่หอทารกแรกเกิดวิกฤต นอกจากความพร้อมและความตั้งใจของมารดาและครอบครัวแล้ว การให้การสนับสนุนห้องให้นมแม่ในบริเวณหอทารกแรกเกิดวิกฤต การสนับสนุนในเรื่องที่พักให้มารดาสามารถอยู่ร่วมกับทารกตลอด 24 ชั่วโมง และการมีทีมงานที่มีทักษะที่จะช่วยเหลือมารดาให้สามารถให้นมแม่แก่ทารกได้มีความจำเป็น ซึ่งสิ่งเหล่าต้องการการเห็นความสำคัญของผู้บริหารที่จะจัดสรรทรัพยากร รวมทั้งพัฒนาทีมบุคลากรให้มีสมรรถนะที่เหมาะสมและมีจำนวนพอเพียงในการช่วยเหลือมารดา ติดตามและดูแลอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้เกิดผลสัมฤทธิ์ในความสำเร็จในการให้ลูกได้กินนมแม่
เอกสารอ้างอิง
Yu X, Sun H, Lin X, Liu X. Breastfeeding Evaluation Indicators System is a Promising Evaluation Tool for Preterm Infants in Neonatal Intensive Care Units (NICU). Med Sci Monit 2016;22:4009-16.
เรื่องนำทาง
แหล่งความรู้ เกี่ยวกับสูติ-นรีเวช (Obstetrics-Gynecology)