คลังเก็บหมวดหมู่: ทารกแรกเกิด

ทารกแรกเกิด

ผู้ช่วยในการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่

IMG_3958

รศ.นพ.ภาวิน พัวพรพงษ์

??????????????? แม้ว่าเรื่องการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่จะเป็นเรื่องธรรมชาติ มารดามักมีสัญชาตญาณที่จะให้ลูกกินนมแม่ แต่หากมารดาเคยมีประสบการณ์ได้เห็นหรือได้ช่วยคนในครอบครัวที่เลี้ยงลูกด้วยนมแม่ มารดาจะมีความมั่นใจที่จะให้นมลูกได้มากกว่าหรือนานกว่า ในปัจจุบันจึงไม่ปล่อยให้มารดาเลี้ยงลูกอย่างโดดเดี่ยวโดยขาดที่ปรึกษาหรือขาดการสนับสนุน เพื่อลดปัญหาต่างๆ ที่มารดาต้องเรียนรู้ด้วยตนเองลง ในการวางแผนที่จะเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ บุคลากรทางการแพทย์ควรมีการแนะนำที่พึ่งที่เป็นตัวบุคคลหรือเป็นสถานที่ที่จะให้คำปรึกษาหรือให้การสนับสนุนการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ได้ ที่พึ่งที่เป็นตัวบุคคล อาจได้แก่ แพทย์หรือพยาบาลผู้เชี่ยวชาญในการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ที่สามารถให้คำปรึกษาเรื่องการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ตั้งแต่เรื่องเบื้องต้นจนถึงปัญหาที่มีความซับซ้อน ในต่างประเทศจะมีบุคลากรทางการแพทย์ที่ทำหน้าที่เป็นพี่เลี้ยงที่จะให้การสนับสนุนดูแลตั้งแต่การฝากครรภ์ การคลอด และการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ ซึ่งพี่เลี้ยงจะมีความคุ้นเคยกับมารดา เข้าใจปัญหา และสามารถให้การสนับสนุนมารดาได้อย่างใกล้ชิด แต่ในประเทศไทยไม่มีบทบาทพี่เลี้ยงในระบบการสนับสนุนการดูแลการคลอดและการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ บทบาทอีกบทบาทหนึ่งคือ มารดาอาสา ซึ่งเป็นกลุ่มมารดาที่มีจิตอาสาตั้งกลุ่มขึ้นมาเพื่อเป็นที่ปรึกษาให้กับมารดาคนใหม่หรือมารดาที่ขาดประสบการณ์ในการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ มารดาอาสาบางกลุ่มอาจมีการประสานงานกับโรงพยาบาลทำให้การแนะนำมารดาอาสาสามารถแนะนำให้มารดาคุ้นเคยได้ตั้งแต่ในระยะหลังคลอดขณะที่อยู่โรงพยาบาล ขณะที่บางโรงพยาบาลไม่มีเครือข่ายมารดาอาสา อย่างไรก็ตาม ปัจจุบัน สื่อออนไลน์ได้เป็นหนทางหนึ่งที่ทำให้มารดาเข้าถึงกลุ่มมารดาอาสามากขึ้น โดยอาจเป็นกลุ่มมารดาอาสาผ่านเครือข่ายเฟสบุ๊ค หรือไลน์ ซึ่งทำให้มารดาขอคำปรึกษาจากมารดาอาสาที่มีประสบการณ์ในการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ได้มากขึ้น

? ? ? ? ? ? ? ?สำหรับที่พึ่งที่เป็นสถานที่ มารดาอาจติดต่อโรงพยาบาลที่เป็นโรงพยาบาลสายสัมพันธ์แม่ลูก ซึ่งจะมีการสนับสนุนการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ทั้งที่เป็นระบบและเป็นตัวบุคคล หรืออาจที่สอบถามในโรงพยาบาลที่มีการจัดตั้งคลินิกนมแม่ก็จะมีการให้บริการในด้านคำปรึกษาเรื่องการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่เช่นกัน1

เอกสารอ้างอิง

  1. The Office on Women?s Health. Your guide to breastfeeding. 2017

Did you know? นมแม่ช่วยชีวิตลูกได้หากเกิดภัยพิบัติ

IMG_3953

รศ.นพ.ภาวิน พัวพรพงษ์

??????????????? เมื่อเกิดภัยพิบัติ สิ่งที่ติดตามมาคือความขาดแคลนของสิ่งอุปโภคและบริโภคต่างๆ ซึ่งจะหาได้ลำบากรวมทั้งมีความจำกัด ซึ่งจะส่งผลต่อความเสี่ยงในการเกิดโรคหรือภาวะแทรกซ้อนในทารกได้ การให้ลูกกินนมแม่จะช่วยป้องกันความเสี่ยงที่ลูกอาจได้รับจากการได้รับน้ำที่ไม่สะอาด ช่วยป้องกันลูกจากการติดเชื้อทางเดินหายใจและโรคท้องเสีย ซึ่งจะทำให้ลูกเจ็บป่วยรวมทั้งเสียชีวิตได้ ในขณะเดียวกัน แม้ว่ามารดาจะไม่สามารถรับประทานอาหารได้เหมือนกับภาวะปกติในขณะเกิดภัยพิบัติ นมแม่ก็มักจะยังมีเพียงพอให้ลูก และการโอบอุ้มให้นมลูกจะช่วยรักษาอุณหภูมิร่างกายของลูกให้มีความพอเหมาะ ป้องกันภาวะตัวเย็นที่จะส่งผลเสียต่อร่างกายทารก นอกจากนี้ การให้นมแม่ยังไม่จำเป็นต้องใช้หรือมีอุปกรณ์อื่นๆ ในการเตรียมน้ำนมเหมือนกับการใช้นงผงดัดแปลงสำหรับทารก ดังนั้น เมื่อเกิดเหตุการณ์หรือภัยพิบัติฉุกเฉิน มารดาที่เลี้ยงลูกด้วยนมแม่อยู่แล้วจะมีโอกาสที่จะช่วยชีวิตลูกโดยการให้นมแม่ที่เป็นอาหารของลูกที่มีติดตัวแม่ มีความปลอดภัย และปกป้องอันตรายจากภาวะแทรกซ้อนหรือโรคที่จะเกิดขึ้นจากความขาดแคลนและการขาดการดูแลเรื่องความสะอาดที่เหมาะสมขณะเกิดภัยพิบัติได้1

เอกสารอ้างอิง

  1. The Office on Women?s Health. Your guide to breastfeeding. 2017

ทำไมการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่จึงเหมาะสำหรับคุณแม่

IMG_3988

รศ.นพ.ภาวิน พัวพรพงษ์

??????????????? สิ่งแรกที่ต้องกล่าวถึงคือ นมแม่ธรรมชาติสร้างมาสำหรับทารกแรกเกิด การเลี้ยงลูกด้วยนมแม่นั้นจะส่งเสริมในการที่จะทำชีวิตง่ายขึ้น เนื่องจากการให้นมแม่สามารถจะให้ได้ทันที ไม่ต้องมีการเตรียมชงนม ต้มน้ำร้อน หรือต้มขวดนม ดังนั้น การที่มารดาให้นมแม่ในชีวิตประจำวันจะทำให้การใช้ชีวิตสะดวกและไม่ยุ่งยาก สร้างสายสัมพันธ์ระหว่างมารดาและทารก และยังช่วยในการส่งเสริมพัฒนาการของทารก จะการที่มารดาพูดคุย หยอกล้อ หรือเล่นกับทารก และกระตุ้นพัฒนาการในระหว่างการให้นมแม่ นอกจากนี้ ยังไม่ต้องมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมจากการซื้อนมผงดัดแปลงสำหรับทารก ซื้อขวดนมหรือจุกนม ซึ่งค่าจ่ายของครอบครัวจะเพิ่มขึ้นราวสองหมื่นกว่าบาทต่อเดือน สำหรับผลดีหรือผลที่จะเป็นประโยชน์ต่อมารดา คือ การเลี้ยงลูกด้วยนมแม่จะช่วยให้มารดาลดน้ำหนักลงมาสู่น้ำหนักก่อนการตั้งครรภ์ได้ดีกว่า ลดการเกิดโรคเบาหวานในมารดา และป้องกันมะเร็งรังไข่และมะเร็งเต้านมได้ตามระยะเวลาของการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่1

เอกสารอ้างอิง

  1. The Office on Women?s Health. Your guide to breastfeeding. 2017

น้ำนมเหลืองเป็นน้ำนมทอง

IMG_2926

รศ.นพ.ภาวิน พัวพรพงษ์

??????????????? น้ำนมช่วงแรกที่มีของมารดาจะเป็นน้ำนมเหลืองหรือ colostrum ซึ่งจะเป็นน้ำนมที่มีความเข้มข้น ประกอบด้วยสารอาหารและภูมิคุ้มกันที่มีประโยชน์มาก ปริมาณของน้ำนมเหลืองจะมีปริมาณน้อย แต่จะพอดีกับกระเพาะของทารกซึ่งจะมีความจุในช่วงแรกน้อยเช่นกัน ดังนั้น น้ำนมเหลืองจึงเสมือนกับน้ำนมทองที่ให้คุณค่าสูง โดยทั่วไปน้ำนมเหลืองจะเปลี่ยนเป็นน้ำนมปกติราววันที่สามถึงวันที่ห้าหลังคลอด ซึ่งจะประกอบด้วยน้ำตาล โปรตีน ไขมัน น้ำ และภูมิคุ้มกัน ซึ่งลักษณะของน้ำนมจะมีความเข้มข้นน้อยกว่า อย่างไรก็ตาม การเปลี่ยนแปลงของนมแม่จะมีการเปลี่ยนแปลงตามระยะเวลาในแต่ละระยะหลังคลอด โดยที่จะมีความสอดคล้องกับความต้องการและการเจริญเติบโตของทารก ซึ่งเป็นกลไกตามธรรมชาติที่จะสร้างความเหมาะสมของสารอาหารที่มีในนมแม่ให้เหมาะสมกับการเจริญเติบโตและพัฒนาการของทารก ดังนั้น จึงกล่าวได้ว่า นมแม่นั้นมีการพัฒนาการให้เหมาะสมกับทารกตามวัยโดยที่ยังไม่มีอาหารอื่นใดที่สร้างเลียนแบบหรือทดแทนได้เสมอเหมือน

เอกสารอ้างอิง

  1. The Office on Women?s Health. Your guide to breastfeeding. 2017

ลักษณะที่แสดงถึงความดันโลหิตสูงที่ถูกตั้งโปรแกรมก่อนการคลอดกับออกซิโตซิน

IMG_3545

รศ.นพ.ภาวิน พัวพรพงษ์

??????????? การคลอดก่อนกำหนดและภาวะทารกน้ำหนักตัวน้อยที่เกิดจากทารกในครรภ์เจริญเติบโตช้าจะเปลี่ยนโปรแกรมการเจริญเติบโต การพัฒนาการ และความสมบูรณ์เต็มที่ ทำให้เกิดโปรแกรมอดออมในทารก กลไกการเปลี่ยนแปลงนี้อธิบายจากการเพิ่มขึ้นของคอร์ติโคสเตอรอน (corticosterone) ที่มากเกินไปในครรภ์ที่ทำให้เกิดความไม่สมดุลของฮอร์โมนซึ่งพบในภาวะที่มีการขาดอาหารหรือเครียดโดยมีผลชักนำทำให้เกิดความดันโลหิตสูงและโรคทางเมตาบอลิกเมื่อทารกเจริญเติบโตขึ้นผ่าน angiotensin II ที่ทำให้เกิดความดันโลหิตสูงที่จะผลิต reactive oxygen species radicals ที่มีผลเพิ่มระดับน้ำตาลจากการต้านฤทธิ์การทำงานของอินซูลิน นอกจากนี้ คอร์ติโคสเตอรอนที่มากเกินไปยังมีผลต่อกระบวนการ suractive glutamategic transmission ที่ทำให้มีความเสี่ยงที่สูงขึ้นที่จะเกิดโรคทางระบบประสาท ได้แก่ พาร์กินสัน (Parkinson disease) และอัลไซเมอร์ (Alzheimer?s disease) ด้วย

??????????? ความเชื่อมโยงความผิดปกติของระบบประสาทและพฤติกรรม สารชีวเคมีที่บ่งชี้กับภาวะความดันโลหิตสูงนั้น ยังอธิบายได้จากภาวะที่ขาดอาหารในครรภ์หรือภาวะอดออมของทารกจะส่งผลต่อการเปลี่ยนแปลงทางพฤติกรรม การตอบสนองต่อความเครียด การเปลี่ยนแปลงจังหวะการเต้นของหัวใจ ความผิดปกติในด้านความจำ ความเปลี่ยนแปลงทางด้านอารมณ์และพฤติกรรมการปรับตัวต่อสิ่งเร้าที่ผิดปกติ และโรคมะเร็ง โดยสามารถตรวจพบสารชีวเคมีที่เป็นตัวบ่งชี้ ได้แก่ สารสื่อประสาท acetylcholine และ GABA เอนไซม์ receptor และ neuropeptide อื่นๆ ?มีค่าที่เปลี่ยนแปลงไปในทารกที่เกิดภาวะขาดอาหาร นอกจากนี้ ยังพบการลดน้อยลงและการฝ่อของนิวเคลียสของเซลล์ประสาทในฮิปโปแคมปัสส่วนหลัง (dorsal hippocampus) ในขณะที่พบการทำงานของ noradrenergic และ corticotropin ใน paraventricular nucleus เพิ่มขึ้นที่ส่งผลต่อการทำงานของระบบประสาทอัตโนมัติ sympathetic เพิ่มขึ้นที่ทำให้เกิดความดันโลหิตสูง การเปลี่ยนแปลงของฮิปโปแคมปัสจะส่งผลต่อการทำงานของกลไก hypothalamic-pituitary-adrenal axis (HPA axis) ซึ่ง HPA axis จะเป็นเสมือนตัวตัดสินในการแสดงออกทางพฤติกรรม กระบวนการทางสรีรวิทยาและกระบวนการทางเมตาบอลิกต่างๆ

??????????? ออกซิโตซินจะช่วยในการลดความดันโลหิตสูงผ่านกระบวนการทำให้คอร์ติโคสเตอรอนลดลงส่งผลต่อการลดของ corticotropin ซึ่งจะมีผลต่อ HPA axis ดังนั้น จึงส่งผลต่อพฤติกรรม สรีรวิทยาและกระบวนการทางเมตาบอลิกของทารก นอกจากนี้ ออกซิโตซินยังควบคุมสมดุลของสารน้ำและโซเดียมผ่านทางไต ควบคุมสมดุลของการทำงานของหัวใจ และปกป้องการทำงานของหัวใจผ่านการสร้างไนตริกออกไซด์ (nitric oxide) ด้วย ดังนั้น การเจาะเลือดจากสายสะดือทารกเพื่อตรวจสอบสารชีวเคมีที่เป็นตัวบ่งชี้จะช่วยบอกถึงการวิเคราะห์ปัจจัยที่อยู่เหนือกระบวนการทางพันธุกรรมที่จะแสดงออกถึงสุขภาพของทารกเมื่อทารกเจริญเติบโตขึ้นได้ เช่น การตรวจ hypermethylation ของ GRB10 gene จากเลือดจากสายสะดือทารก และมีการศึกษาถึงผลของการให้ออกซิโตซิน glucagon-like peptide-1 (GLP-1) เลปติน (leptin) การเสริมสารอาหารบางชนิด ได้แก่ โอเมก้า 3 (omega-3) กรดไขมัน (fatty acid) บางชนิดsulfuranes, polyphenol like
resveratrol และการใช้ยาบางกลุ่ม ได้แก่ angiotensin-converting enzyme inhibitors โดยคาดหวังถึงผลในการช่วยหรือซ่อมแซมการเปลี่ยนแปลงปัจจัยกระบวนการเหนือพันธุกรรมที่ผิดปกติ1

? ? ? ? ? ? ? อย่างไรก็ตาม การที่ทารกที่กินนมแม่มีผลต่อสุขภาพกายและสุขภาพจิตส่วนหนึ่งอาจเป็นจากกลไกที่ช่วยหรือซ่อมแซมการเปลี่ยนแปลงปัจจัยกระบวนการเหนือพันธุกรรมที่ผิดปกติของออกซิโตซินที่พบตามธรรมชาติจากการกระตุ้นของทารกที่กินนมแม่ก็เป็นได้ ซึ่งจำเป็นต้องมีการศึกษาถึงผลที่ชัดเจนในอนาคตต่อไป

เอกสารอ้างอิง

  1. Vargas-Martinez F, Schanler RJ, Abrams SA, et al. Oxytocin, a main breastfeeding hormone, prevents hypertension acquired in utero: A therapeutics preview. Biochim Biophys Acta 2017;1861:3071-84.