คลังเก็บหมวดหมู่: ทารกแรกเกิด

ทารกแรกเกิด

ความตั้งใจและความเชื่อมั่นจำเป็นในการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่

IMG_3515

รศ.นพ.ภาวิน พัวพรพงษ์

??????????????? ก่อนที่มารดาจะมีความตั้งใจและความเชื่อมั่นในการให้นมลูกนั้น มารดาต้องมีความรู้และเห็นความสำคัญของการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ เมื่อเห็นถึงประโยชน์และความสำคัญของนมแม่แล้ว จึงนำมาสู่ความตั้งใจที่จะให้ลูกกินนมแม่ และจากความตั้งใจนำไปสู่การใส่ใจ เอาใจใส่ เข้าร่วมรับฟัง เรียนรู้วิธีและเทคนิคการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ เมื่อพบปัญหาหรืออุปสรรคก็แสวงหาคำปรึกษาหรือความช่วยเหลือจากผู้เชี่ยวชาญหรือผู้ที่มีประสบการณ์ ซึ่งสิ่งเหล่านี้จะสร้างความเชื่อมั่นให้แก่มารดาว่าสามารถให้นมลูกได้ ยิ่งให้ได้ก็ยิ่งมั่นใจมากขึ้น ดังนั้น การเริ่มต้นด้วยความตั้งใจเสมือนเป็นก้าวแรกที่สำคัญและยิ่งใหญ่สำหรับการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ (Good intention is a great start breastfeeding)

ปัจจัยที่มีผลต่อกลไกการหลั่งน้ำนม

IMG_3886

รศ.นพ.ภาวิน พัวพรพงษ์

??????????????? กลไกการหลั่งน้ำนม (let-down reflex) หรืออาจเรียกว่า กลไกน้ำนมพุ่ง (milk ejection reflex) เกิดจากกลไกหลักคือฮอร์โมนออกซิโตซินที่ถูกกระตุ้นจากการดูดนมของทารก หรือจากการสั่งงานของสมองเมื่อมารดาคิดถึงลูก หรือสัมผัสกับสิ่งที่ทำให้คิดถึงลูก ฮอร์โมนออกซิโตซินสร้างจากสมองส่วนไฮโปธาลามัสที่อาจมีปัจจัยที่รบกวนการทำงานของสมองส่วนนี้ได้จาก ความเครียด ความวิตกกังวล ความอาย อุณหภูมิหรืออากาศที่เปลี่ยนแปลง อากาศเย็น การดื่มเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีนมากเกินไป การสูบบุหรี่ การดื่มเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ หรือการใช้ยาบางชนิด ดังนั้น หากมีภาวะดังกล่าวน้ำนมมารดาอาจไหลไม่ดี ส่งผลให้ทารกกินนมได้น้อยและงอแง วัฒนธรรมของไทยยังเห็นว่า เรื่องการให้นมนี้เป็นเรื่องส่วนตัว มารดาควรให้นมลูกที่บ้านในที่มิดชิด หากออกนอกบ้านต้องใช้นมผง ไม่กล้าที่จะให้นมลูกในที่สาธารณะหรือเขินอาย ขณะเดียวกันกับสังคมในยุคใหม่ มารดาต้องออกนอกบ้านหรือทำงาน สิ่งนี้จึงเป็นอุปสรรคอย่างหนึ่งในการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ การมีมุมนมแม่ที่จะให้มารดาสามารถให้นมลูกตามที่สาธารณะเป็นทางเลือกหนึ่ง อย่างไรก็ตาม การเปลี่ยนแปลงทัศนคติที่ยอมรับการให้นมลูกเป็นเรื่องธรรมชาติที่สามารถให้ได้ทุกที่ที่สอดคล้องกับสภาพสังคมที่เปลี่ยนแปลงไป แม้จะต้องใช้เวลา แต่น่าจะเป็นสิ่งที่ควรสร้างให้เกิดธรรมเนียมปฏิบัติที่ยอมรับการเปลี่ยนแปลงนี้

หากมารดาคิดถึงลูก ทำไมน้ำนมไหลได้

IMG_3892

รศ.นพ.ภาวิน พัวพรพงษ์

??????????????? การที่มารดามีน้ำนมไหลออกมาจากเต้านมได้เมื่อคิดถึงลูก ได้กลิ่น หรือเห็นภาพของลูกนั้นเป็นจากกลไกการหลั่งน้ำนม (let-down reflex) หรืออาจเรียกว่า กลไกน้ำนมพุ่ง (milk ejection reflex) ซึ่งสามารถเกิดขึ้นได้จากการที่ทารกกระตุ้นดูดนมจากเต้านมข้างหนึ่งและเต้านมอีกข้างมีน้ำนมไหล ผ่านกลไกหลักคือฮอร์โมนออกซิโตซินที่ถูกกระตุ้นจากการดูดนมของทารก หรือจากการสั่งงานของสมองเมื่อมารดาคิดถึงลูก หรือสัมผัสกับสิ่งที่ทำให้คิดถึงลูก ฮอร์โมนออกซิโตซินนี้นอกจากจะช่วยให้น้ำนมไหลได้ดี ทารกไม่ต้องออกแรงในการดูดนมมากแล้ว ยังช่วยสร้างความรักความผูกพันระหว่างแม่ลูก นอกจากนี้ กลไกนี้อาจเป็นสิ่งที่สะท้อนอย่างหนึ่งว่าน้ำนมมารดาน่าจะมีเพียงพอ แต่หากมีมากตั้งแต่ทารกเริ่มดูดและมารดารู้สึกว่าตึงแน่นบริเวณบริเวณลานนมมาก อาจทำให้ทารกดูดนมได้ลำบากจากการที่น้ำนมไหลเร็วเกินไป การบีบน้ำนมออกก่อนให้ลานนมนุ่มลง จะช่วยให้ทารกสามารถอมหัวนมและลานนมได้ดีขึ้น ไม่สำลักหรืองับหัวนมมารดาจนเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้มารดาเจ็บหัวนม

หากน้ำนมไหลทั้งสองเต้า ให้นมจากเต้านมทั้งสองเต้าหรือเต้าเดียวดีกว่ากัน

IMG_3522

รศ.นพ.ภาวิน พัวพรพงษ์

??????????????? น้ำนมมารดานั้น จะมีน้ำนมส่วนหน้าและน้ำนมส่วนหลัง ซึ่งจะมีส่วนประกอบของสารอาหารที่แตกต่างกัน น้ำนมส่วนแรกที่ลูกกินจากเต้าจะเป็นน้ำนมส่วนหน้าที่มีสัดส่วนของน้ำตาลมากกว่า น้ำนมส่วนที่หลังจากที่ทารกดูดนมไประยะหนึ่งแล้วจะเป็นน้ำนมส่วนหลังที่จะมีสัดส่วนของไขมันที่มากกว่า มารดาควรให้ทารกกินนมทั้งน้ำนมส่วนหน้าและน้ำนมส่วนหลังเพื่อให้ทารกได้รับสารอาหารครบถ้วน กินอิ่มและหลับได้ดี ไม่งอแงหรือตื่นบ่อยหากทารกกินนมจากน้ำนมส่วนหน้าอย่างเดียว ซึ่งจะย่อยง่ายและถ่ายบ่อย การเลือกให้ทารกกินนมจากเต้าควรเริ่มที่เต้านมด้านใดด้านหนึ่งก่อน กินจนเกลี้ยงเต้าให้ได้ทั้งน้ำนมส่วนหน้าและส่วนหลัง เมื่อเกลี้ยงเต้าแล้ว หากทารกยังไม่อิ่มจึงเปลี่ยนไปกินอีกเต้าหนึ่ง หากทารกกินนมพอแล้วน้ำนมจากเต้านมยังเหลืออาจบีบน้ำนมเก็บ หรือเมื่อให้นมครั้งต่อไปควรให้จากเต้านมข้างที่ยังมีน้ำนมค้างอยู่ เนื่องจากกลไกการสร้างน้ำนมจะขึ้นอยู่กับการให้ทารกกินนมให้เกลี้ยงเต้ากับจำนวนครั้งของการกระตุ้นดูดนมของทารก จึงควรยึดหลักการดูดนมให้เกลี้ยงเต้าและดูดนมบ่อยๆ เพื่อช่วยให้การสร้างน้ำนมทำได้ดี

?????????? ในขณะที่ทารกดูดนมมารดาจากเต้านมด้านหนึ่ง น้ำนมจากเต้านมอีกข้างมักไหลออกมา เป็นกลไกการหลั่งน้ำนม (let-down reflex) หรืออาจเรียกว่า กลไกน้ำนมพุ่ง (milk ejection reflex) ซึ่งเป็นสิ่งที่สะท้อนอย่างหนึ่งว่าน้ำนมมารดาน่าจะมีเพียงพอ แต่มารดาบางคนเข้าใจผิดคิดว่าน้ำนมข้างที่กินอยู่เดิมน่าจะมีน้ำนมน้อยแล้ว จึงสลับไปให้นมจากเต้านมอีกข้าง ซึ่งกรณีนี้ทารกจะกินแต่น้ำนมส่วนหน้า ทำให้หิวบ่อย ตื่นบ่อย ยิ่งทำให้มารดาเข้าใจว่าน้ำนมไม่เพียงพอเข้าไปอีก เมื่อทารกกินนมไม่เกลี้ยงเต้า สารยับยั้งการสารน้ำนมที่มีอยู่ในน้ำนมเองจะขังอยู่ในเต้านมส่งผลทำให้การสร้างน้ำนมลดลง กระบวนการนี้จะมีผลต่อการลดการสร้างน้ำนม ทำให้มารดามีน้ำนมลดลงและไม่เพียงพอจริงต่างจากในช่วงแรกที่เป็นเพียงเข้าใจผิดว่าน้ำนมไม่เพียงพอ?

มาเข้าใจเรื่องการสร้างน้ำนมกันเถอะ

IMG_1635

รศ.นพ.ภาวิน พัวพรพงษ์

??????????????? เต้านมในระหว่างการตั้งครรภ์จะมีพัฒนาการและการเปลี่ยนแปลงที่จะสร้างน้ำนมรองรับการให้นมบุตร โดยต่อมน้ำนมจะทำหน้าที่สร้างน้ำนม หลังคลอดเมื่อการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนจะกระตุ้นให้เกิดการหลั่งน้ำนม ซึ่งน้ำนมในระยะแรกจะเป็นน้ำนมเหลือง หรือหัวน้ำนมที่จะเป็นเสมือนน้ำนมทองที่มีภูมิคุ้มกันที่ส่งผ่านจากมารดาสู่บุตรสูง สองถึงสามวันต่อมา นมแม่จะพัฒนาการที่มีน้ำตาล ไขมัน และน้ำในสัดส่วนที่เพิ่มขึ้นโดยให้เหมาะกับกระเพาะของทารกที่เริ่มขยายขึ้นและความต้องการสารอาหารที่เพิ่มขึ้น โดยน้ำนมยังแบ่งเป็นน้ำนมที่ไหลออกมาก่อนตอนต้นเรียกว่า น้ำนมส่วนหน้า ที่มีสัดส่วนของน้ำตาลสูง และน้ำนมที่อยู่ในเต้านมในส่วนหลังจากที่ทารกกินนมไปได้ระยะหนึ่งแล้วเรียกว่า น้ำนมส่วนหลัง ที่จะมีสัดส่วนของไขมันที่สูงกว่า

? ? ? ? ? ? ? มารดาควรทำความเข้าใจถึงลักษณะการสร้างน้ำนมและการเก็บน้ำนมที่เต้านมในส่วนหน้าหรือส่วนแรกและส่วนหลัง ซึ่งจะมีผลต่อการดูแลทารก โดยมารดาที่ให้ลูกกินเฉพาะน้ำนมส่วนหน้าจะถ่ายบ่อย ทารกกินนมแล้วไม่อยุ่ท้อง หิวต้องกินบ่อยๆ ทำให้มารดาอาจคิดว่าตนเองมีน้ำนมไม่เพียงพอ จนต้องไปเสริมให้นมผงดัดแปลงสำหรับทารกซึ่งทำให้ลดคุณค่าของการให้นมแม่และทารกอาจสับสนระหว่างการกินนมจากเต้ากับจากจุกนมได้ ดังนั้น มารดาควรให้ลูกกินนมจนเกลี้ยงเต้าจะทำให้ทารกได้น้ำนมส่วนหลังที่มีส่วนประกอบของไขมันมากกว่า ทำให้ทารกอิ่มท้องและหลับได้นานขึ้น ควรเข้าใจในการสร้างน้ำนมและลักษณะของน้ำนมจึงมีความจำเป็นอย่างมากที่มารดาต้องทำความเข้าใจเพื่อการให้นมแม่ได้อย่างเหมาะสม