คลังเก็บหมวดหมู่: การดูแลการคลอดโดยใช้ข้อมูลหลักฐานเชิงประจักษ์

การดูแลการคลอดโดยใช้ข้อมูลหลักฐานเชิงประจักษ์

การให้คำปรึกษาเรื่องนมแม่อย่างถูกที่และถูกเวลา

IMG_2939

รศ.นพ.ภาวิน พัวพรพงษ์

? ? ? ? ? ? ? การที่มารดาคนหนึ่งที่ทำงานเต็มเวลา ลาคลอดและจะให้การเลี้ยงลูกด้วยนมแม่อย่างเดียวหกเดือนสำเร็จนั้น ต้องการการสนับสนุนหรือการให้คำปรึกษาอย่างไรบ้าง เป็นสิ่งที่น่าสนใจ มีการศึกษาถึงลักษณะการให้คำปรึกษาแก่มารดาควรมีความเฉพาะเจาะจงตามแต่ละช่วงระยะเวลาหลังคลอด โดยในช่วงสัปดาห์แรกหลังคลอด มารดามักพบปัญหาเรื่องการเข้าเต้า การร้องกวนของทารกซึ่งมารดาอาจจะยังปรับตัวไม่ได้ ไม่ทราบว่าทารกต้องการอะไร การให้คำปรึกษาแนะนำการแก้ปัญหาเหล่านี้อย่างเหมาะสมโดยบุคลากรทางการแพทย์ มารดาอาสา หรือกลุ่มสนับสนุนนมแม่จะช่วยให้มารดาผ่านอุปสรรคไปได้ก่อนที่จะล้มเลิกการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ เช่นเดียวกันกับช่วงที่มารดาต้องกลับไปทำงานตามระยะเวลาที่ลาคลอดได้ การให้คำปรึกษาในช่วงนี้ ต้องเหมาะกับลักษณะงานและมารดาสามารถนำไปใช้ได้ โดยรูปแบบการให้คำปรึกษาต้องมีความสะดวก ยืดหยุ่น และพร้อมให้คำปรึกษาเมื่อมารดาต้องการ1 สิ่งเหล่านี้ต้องเกิดจากความเข้าใจของบุคลากรทางการแพทย์ที่จะวางระบบการให้คำปรึกษาที่เอื้อต่อการสนับสนุนและส่งเสริมการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่อย่างถูกที่และถูกเวลา ซึ่งจะช่วยให้โอกาสการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่อย่างเดียวหกเดือนสำเร็จสูงขึ้นได้

เอกสารอ้างอิง

  1. Pounds L, Fisher CM, Barnes-Josiah D, Coleman JD, Lefebvre RC. The Role of Early Maternal Support in Balancing Full-Time Work and Infant Exclusive Breastfeeding: A Qualitative Study. Breastfeed Med 2017;12:33-8.

 

การให้นมแม่ช่วยเพิ่มอัตราการเจริญเติบโตของทารกก่อนกำหนด

IMG_2934

รศ.นพ.ภาวิน พัวพรพงษ์

? ? ? ? ? ? ? ? ?ทารกที่คลอดก่อนกำหนดจะมีน้ำหนักตัวน้อย ซึ่งอาจเป็นปัญหาหรืออุปสรรคในการที่จะดูดนมจากเต้า เนื่องจากการพัฒนาการของกล้ามเนื้อและระบบประสาทที่ตอบสนองต่อการดูดหรือกินนมแม่อาจยังพัฒนาการไม่สมบูรณ์ การเริ่มต้นให้สารอาหารแก่ทารกเมื่อพร้อมรวมทั้งนมแม่ซึ่งจะมีคุณค่าของสารอาหารและประโยชน์อีกหลากหลายอย่างมีความสำคัญและจำเป็น โดยมีการศึกษาพบว่าทารกคลอดก่อนกำหนดที่ได้กินนมแม่หรือดูดนมจากเต้า มีอัตราการเจริญเติบโตที่รวดเร็วกว่าทารกที่ไม่ได้รับนมแม่1 ดังนั้น บุคลากรทางการแพทย์ที่ให้คำปรึกษาแก่มารดาที่คลอดก่อนกำหนด ควรกระตุ้นให้มารดาบีบน้ำนมด้วยมือตั้งแต่ในระยะแรกหลังคลอด เพื่อคงการสร้างน้ำนมและส่งเสริมให้มารดานำนมที่เก็บได้มาให้แก่ทารกเมื่อทารกพร้อม รวมทั้งการสนับสนุนให้มารดามีการโอบกอดทารกเนื้อแนบเนื้อด้วย เพื่อช่วยเพิ่มโอกาสการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ให้สูงขึ้น

เอกสารอ้างอิง

  1. Piris Borregas S, Lopez Maestro M, Torres Valdivieso MJ, Martinez Avila JC, Bustos Lozano G, Pallas Alonso CR. Improving nutritional practices in premature infants can increase their growth velocity and the breastfeeding rates. Acta Paediatr 2017.

 

การได้รับยาต้านไวรัสลดการติดเชื้อ CMV

IMG_2963

รศ.นพ.ภาวิน พัวพรพงษ์

? ? ? ? ? ? ? ? การติดเชื้อ cytomegalovirus หรือ CMV ทำให้เกิดอันตรายต่อทารกในครรภ์และทารกแรกคลอดได้ โดยหากมีการติดเชื้อในครรภ์อาจทำให้เกิดความพิการแต่กำเนิด สำหรับการติดเชื้อในทารกแรกคลอดอาจทำให้เกิดอาการปอดอักเสบ ตับอักเสบ และต่อมน้ำเหลืองโตได้ ในมารดาที่มีการติดเชื้อเอชไอวี มีความเสี่ยงในการติดเชื้อนี้สูงขึ้น เชื้อนี้พบในสารคัดหลั่งต่าง ๆ ของร่างกาย ได้แก่ น้ำลาย เลือด ปัสสาวะ น้ำหล่อลื่นในช่องคลอด น้ำอสุจิ และพบในน้ำนม ดังนั้น หากมารดาติดเชื้อนี้แล้ว เชื้อนี้อาจผ่านรกไปติดเชื้อทารกในครรภ์ได้ หรืออาจติดเชื้อผ่านการกินนมก็ได้เช่นกัน มีการศึกษาในมารดาที่ได้รับยาต้านไวรัสในมารดาที่ติดเชื้อเอชไอวี พบว่า การได้ยาต้านไวรัสลดการติดเชื้อ ?CMV ได้1 อย่างไรก็ตาม ยังต้องมีการศึกษาเพิ่มเติมถึงข้อดีข้อเสียและความคุ้มค่าในการให้ยาต้านไวรัสเพื่อลดการติดเชื้อ สำหรับในประเทศไทยยังขาดการรายงานอุบัติการณ์ของการติดเชื้อ CMV ในมารดา การบริจาคนมของมารดาคนหนึ่งให้แก่มารดาอีกคนโดยสมัครใจปราศจากการตรวจคัดกรองจึงมีความเสี่ยงที่จะได้รับเชื้อนี้ ดังนั้น กระบวนการที่ถูกต้องควรได้รับการปฏิบัติตามขั้นตอนการรับบริจาคน้ำนมของธนาคารนมแม่

เอกสารอ้างอิง

  1. Pirillo MF, Liotta G, Andreotti M, et al. CMV infection in a cohort of HIV-exposed infants born to mothers receiving antiretroviral therapy during pregnancy and breastfeeding. Med Microbiol Immunol 2017;206:23-9.

ประโยชน์ของการลดการนอนโรงพยาบาลของทารกกับการได้กินนมแม่

IMG_3522

รศ.นพ.ภาวิน พัวพรพงษ์

? ? ? ? ? ? องค์การอนามัยโลกได้แนะนำให้ทารกกินนมแม่อย่างเดียวหกเดือน หลังจากนั้นเริ่มอาหารเสริมตามวัยร่วมกับการกินนมแม่ต่อจนกระทั่งถึงสองปีหรือนานกว่านั้น ขึ้นอยู่กับความต้องการของมารดาและทารก โดยประโยชน์ของนมแม่นั้นมีข้อมูลและหลักฐานเชิงประจักษ์ถึงการกินนมแม่อย่างเดียวหกเดือนมาก แต่สำหรับการที่มารดาไม่ได้ให้ลูกกินนมแม่อย่างเดียว หรือให้ลูกกินนมแม่อย่างเดียวแต่ไม่ถึงหกเดือนนั้น จะยังคงมีประโยชน์หรือไม่ บางคนอาจยังมีข้อสงสัย มีการศึกษาถึงการลดการนอนโรงพยาบาลของทารก พบว่าแม้ทารกจะไม่ได้กินนมแม่อย่างเดียวหรือทารกได้กินนมแม่อย่างเดียวแต่ไม่ถึงหกเดือน นมแม่ยังคงมีประโยชน์โดยช่วยลดระยะเวลาในการนอนโรงพยาบาลของทารก1? ดังนั้นในการให้คำปรึกษาแก่มารดาควรแนะนำการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่อย่างเดียวหกเดือนก่อนตามคำแนะนำ แต่หากมารดามีปัญหาอุปสรรคที่ไม่สามารถให้นมแม่หลังจากพยายามแก้ไขแล้ว ก็ควรให้กำลังใจมารดาว่า ?ประโยชน์ที่ลูกได้รับจากการกินนมแม่นั้น เริ่มต้นตั้งแต่การที่ลูกได้กินนมแม่ และยังคงมีไม่ว่ามารดาจะมีโอกาสให้นมลูกได้นานเพียงใด จึงไม่ควรท้อถอยหรือหมดกำลังใจ หากไม่สามารถให้ลูกกินนมแม่อย่างเดียวในช่วงหกเดือนแรกได้?

เอกสารอ้างอิง

  1. Payne S, Quigley MA. Breastfeeding and infant hospitalisation: analysis of the UK 2010 Infant Feeding Survey. Matern Child Nutr 2017;13.

 

โรคไอกรนกับการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่

IMG_2928

รศ.นพ.ภาวิน พัวพรพงษ์

? ? ? ? ? ? ? ? โรคไอกรนเป็นโรคที่เป็นอันตรายต่อทารกและเด็กเล็ก การเลี้ยงลูกด้วยนมแม่แม้จะช่วยลดการติดเชื้อในทางเดินหายใจ ช่วยสร้างภูมิคุ้มกัน ลดภูมิแพ้ และการเสียชีวิตของทารก แต่สำหรับโรคไอกรนมีการศึกษาถึงภูมิคุ้มกันที่จะผ่านจากมารดาไปยังทารก พบว่า การเลี้ยงลูกด้วยนมแม่อาจไม่ช่วยในการป้องกันการเกิดโรคไอกรน1 ดังนั้น ในการป้องกันการเกิดโรคไอกรน ทารกยังมีความจำเป็นต้องได้รับการฉีดวัคซีนตามมาตรฐานเป็นระยะเพื่อป้องกันโรคไอกรน และโรคอื่น ๆ ที่ควรได้รับการฉีดวัคซีน ก็ควรฉีดวัคซีนตามกำหนดด้วย

เอกสารอ้างอิง

  1. Pandolfi E, Gesualdo F, Carloni E, et al. Does Breastfeeding Protect Young Infants From Pertussis? Case-control Study and Immunologic Evaluation. Pediatr Infect Dis J 2017;36:e48-e53.