คลังเก็บป้ายกำกับ: การเลี้ยงลูกด้วยนมแม่

LATCH score (คะแนนการเข้าเต้า)

การประเมินการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ มีจุดเริ่มต้นที่การเข้าเต้า ขั้นตอนการเข้าเต้าจะมีการประเมิน ดังตารางที่ 1 โดยหากคะแนนการเข้าเต้ามากกว่า 8 ขึ้นไปจะสัมพันธ์กับความสำเร็จในการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่

ตารางที่ 1 การประเมินคะแนนการเข้าเต้าหรือ LATCH score

? คะแนน

รายละเอียด

Latch

2

อมเต้านมได้ถูกต้องคือ ปากอ้ากว้าง ริมฝีปากล่างไม่เม้มเข้า คางแนบเต้านม อมลึกถึงลานหัวนมและสามารถดูดนมได้เป็นจังหวะ

1

อมไม่ลึกถึงลานหัวนม อมแค่ระดับหัวนม

0

ไม่สนใจหรือง่วงซึม ไม่อมเต้านม
Audible

2

ได้ยินกลืนน้ำนมดังฟังชัด เป็นจังหวะ

1

ได้ยินกลืนน้ำนมไม่ชัดเจน

0

ไม่ได้ยินเสียงกลืนน้ำนม
Type of nipples

2

ปกติ

1

มีความผิดปกติบ้าง แต่ไม่มาก

0

หัวนมบอด บุ๋มหรือใหญ่มาก หรือเต้านมหรือลานหัวนมแข็ง
Comfort

2

สะดวกสบาย ไม่เจ็บปวด เวลาให้นมหรือหลังให้นมลูก

1

มีความไม่สะดวกสบายบ้าง แต่ไม่มาก

0

ไม่สะดวกสบายหรือเจ็บปวดขณะให้นมหรือหลังให้นม ซึ่งได้จากทั้งการสอบถามหรือการตรวจร่างกายพบเต้านมเป็นแผลหรือมีเต้านมคัดมากหรือมีลักษณะของการอักเสบหรือเป็นหนอง
Hold

2

อุ้มเด็กตะแคงตัวหันหน้าเข้าหาแม่แนบชิด ท้องแนบท้อง ใช้มือประคองเต้านมได้ถูกต้อง ทำท่าเข้าเต้าได้ดีและสะดวกสบาย ไม่เมื่อยไม่ปวด

1

ประคองทารกได้ดีปานกลาง ส่วนใหญ่ถูกต้อง แต่มีบางส่วนต้องแก้ไข

0

ประคองทารกผิด ทำให้เข้าเต้าไม่ดี หรือเกิดความไม่สะดวกสบายหรือปวดเมื่อย

การสร้างความสำเร็จในการส่งเสริมการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่

การสร้างความสำเร็จในการส่งเสริมการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่

? ? ? ? ? ? ? ??ในสังคมไทยปัญหาการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ยังมีมาก จากข้อมูลการสำรวจการเลี้ยงลูกของ UNICEF ในปี 2550 พบว่าอัตราการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่อย่างเดียวหกเดือนเท่ากับร้อยละ 5.41 ซึ่งถือว่าเป็นหนึ่งในประเทศที่มีอัตราการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ต่ำมาก การสร้างความสำเร็จในการส่งเสริมการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ต้องสร้างความตะหนักแก่สังคมโดยความร่วมมือของหลายฝ่าย โดยฝ่ายรัฐบาลควรมีนโยบายส่งเสริมและสนับสนุนการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่อย่างชัดเจนพร้อมการสื่อสารลงมาในองค์กรต่างๆ ที่มีหน้าที่ในการดูแลส่งเสริมในด้านปฏิบัติ มีการติดตามข้อมูลอัตราการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่อย่างต่อเนื่อง เพื่อปรับปรุงและพัฒนารูปแบบการดำเนินการซึ่งจะนำไปสู่การเพิ่มการอัตราการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่อย่างเดียวอย่างน้อยหกเดือน ในฝ่ายเอกชนและผู้ประกอบการจะมีส่วนในด้านการสนับสนุนการลาหลังคลอดบุตรเพื่อให้แม่ให้นมลูกร่วมกับหลังแม่กลับมาทำงาน การจัดสถานที่ให้แม่สามารถมีสถานที่ในการเก็บน้ำนมระหว่างการทำงานหรือจัดสถานเลี้ยงเด็กเล็กให้แม่สามารถมาให้นมลูกระหว่างการทำงานได้ นอกจากนี้ การจัดมุมนมแม่ในสถานที่สาธารณะหรือห้างสรรพสินค้าต่างๆ เพื่อให้แม่ได้ให้นมลูกระหว่างทำกิจกรรมต่างๆ ระหว่างวันได้อย่างสะดวก

ครอบครัว เป็นส่วนที่สำคัญอีกส่วนหนึ่ง ด้วยครอบครัวไทยเป็นครอบครัวใหญ่ มีพ่อ แม่ ปู่ ย่า ตา ยายอยู่ร่วมกัน หรือแม้ไม่ได้อยู่ร่วมกันก็มีอิทธิพลอย่างมากในวิธีการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ การให้ความรู้ให้ผู้ใหญ่ในครอบครัวเข้าใจ และให้เขาเหล่านั้นมีบทบาทในการส่งเสริมการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ด้วยจะเป็นส่วนผลักดันกลไกการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ในครอบครัวได้

สำหรับหน่วยงานที่ให้บริการทางการแพทย์ ถือเป็นหน่วยงานหลักที่จะให้ความรู้ คำปรึกษา คอยติดตาม ช่วยแก้ปัญหาต่างๆ ในการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ ในหน่วยงานนี้มีข้อแนะนำ 10 ขั้นตอนในการสร้างความสำเร็จในการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่2 คือ

  1. เขียนนโยบายการส่งเสริมการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่และสื่อสารให้กับบุคลากรทางการแพทย์ทราบ
  2. ฝึกบุคลากรให้มีทักษะในการนำนโยบายมาปฏิบัติ
  3. แจ้งสตรีที่ตั้งครรภ์เกี่ยวกับประโยชน์และการดำเนินการเกี่ยวกับการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่
  4. ช่วยให้แม่เริ่มการให้นมภายในครึ่งชั่วโมงแรกหลังคลอด
  5. สอนคุณแม่ให้รู้วิธีการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ และรู้วิธีทำให้นมแม่ยังคงมีอย่างต่อเนื่องเมื่อจำเป็นต้องแยกจากลูก
  6. ไม่ให้น้ำหรืออาหารเสริมอื่นๆ นอกจากนมแม่ ยกเว้นมีความจำเป็นทางการแพทย์
  7. ให้แม่ได้อยู่กับลูกตลอด 24 ชั่วโมง
  8. สนับสนุนให้ลูกได้ดูดนมตามความต้องการ
  9. ไม่ให้ทารกดูดหัวนมหลอกหรือดูดนมจากขวดนม
  10. สร้างทีมสนับสนุนการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่เพื่อรับส่งต่อการดูแลหลังจากแม่ได้รับอนุญาตให้กลับบ้าน

ข้อแนะนำ 10 ขั้นตอนนี้ หากหน่วยงานปฏิบัติด้วยความเข้มงวดและสม่ำเสมอ ร่วมกับความร่วมมือในภาคส่วนอื่นๆ อัตราการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ในประเทศไทยก็น่าจะสูงขึ้น

หนังสืออ้างอิง

  1. Largest-ever survey on situation of children and women in Thailandshows progress and challenges. UNICEF. [Cited August 25, 2009] Available from : http://www.unicef.org/infobycountry/media_39098.html
  2. Eglash A, Montgomery A, Wood J. Breastfeeding. Dis Mon 2008; 54:343-411.

 

 

บทความโดย รศ.นายแพทย์ภาวิน พัวพรพงษ์