คลังเก็บป้ายกำกับ: การคุมกำเนิด

ยาคุมกำเนิดชนิดรับประทาน

ยาคุมกำเนิดชนิดรับประทาน

? ? ? ? ? ??ยาคุมกำเนิดชนิดรับประทาน ?วิธีนี้นอกจากจะคุมกำเนิดยังช่วยในสตรีที่มีประจำเดือนมาไม่เสมอให้มีประจำเดือนมาตรง ลดปริมาณเลือดประจำเดือนและอาการปวดประจำเดือนได้ด้วย แต่จะเหมาะสมหรับผู้มีวินัยในการรับประทานยาคุมกำเนิด เพราะต้องรับประทานยาทุกวัน หากผู้ใช้เลือกเวลาที่สะดวกและทำเป็นประจำ ก็จะลดปัญหาด้านการลืมรับประทานยาได้ วิธีการรับประทานยาคุมกำเนิด ปัจจุบันที่นิยมใช้จะมี? 2? ชนิด? ชนิดแรกเป็นแผงมี? 21? เม็ด? ชนิดที่สองมี? 28? เม็ด? โดยการเริ่มรับประทานจะเริ่มยาภายใน? 5? วันนับจากวันแรกของการเริ่มต้นมีประจำเดือนในรอบปกติ? จากนั้นรับประทานวันละ? 1? เม็ดทุกวัน? ควรรับประทานยาในเวลาเดียวกันทุกวัน ก่อนหรือหลังอาหารก็ได้? (เพื่อป้องกันการลืมรับประทานยาและทำให้ยามีระดับในกระแสเลือดสม่ำเสมอ)? สำหรับยาคุมกำเนิดชนิด? 21? เม็ด? หลังจากรับประทานยาจนหมดแผงแล้วเว้นช่วง? 7? วัน? จึงเริ่มรับประทานยาคุมกำเนิดต่อได้เลยโดยไม่ต้องรอประจำเดือน? (โดยปกติประจำเดือนจะมาในช่วงที่เว้นจากการรับประทานยาคุมกำเนิด? 3-4? วันอยู่แล้ว)? สำหรับยาคุมกำเนิดชนิด? 28? เม็ด? จะมียาบำรุงเสริมเข้ามาในช่วง? 7? เม็ด? หลัง ลักษณะสีของยาโดยมากมักจะทำสีแตกต่างกัน? การรับประทานยาคุมกำเนิดชนิดนี้หลังจากหมดแผงก็รับประทานยาแผงใหม่ต่อได้เลย? (โดยปกติประจำเดือนจะมาในช่วงที่รับประทานยาบำรุงในช่วง? 7? เม็ดสุดท้าย)? หากมีการลืมรับประทานยาคุมกำเนิด? 1? เม็ด? เมื่อนึกขึ้นได้ให้รับประทานยาทันที? และรับประทานยาคุมกำเนิดเม็ดต่อไปตามเวลาเดิม? หากมีการลืมรับประทานยาคุมกำเนิด? 2? เม็ด? เมื่อนึกขึ้นได้ให้รับประทานทันที? 1? เม็ด? และรับประทานยาคุมกำเนิด? 2? เม็ดในวันรุ่งขึ้น? โดยแบ่งรับประทานในช่วงเช้า ?1? เม็ด? และก่อนนอน? 1? เม็ดหากลืมรับประทานยามากกว่า? 2? เม็ด? ควรหยุดยาคุมกำเนิดแผงนั้นแล้วใช้วิธีการคุมกำเนิดวิธีอื่น? เช่น? ถุงยางอนามัย? รอจนกว่าประจำเดือนจะมาจึงเริ่มยาคุมกำเนิดแผงใหม่? อย่างไรก็ตามควรจัดเวลาของการรับประทานยาคุมให้เป็นเวลา? เพราะการลืมและความสม่ำเสมอในการรับประทานยาจะลดประสิทธิภาพการคุมกำเนิดลงได้ สำหรับการเลือกใช้ยาคุมกำเนิดแต่ละยี่ห้อนั้นมีให้เลือกมากมาย ส่วนใหญ่ในปัจจุบันมักเป็นชนิดฮอร์โมนต่ำเกือบทั้งหมดซึ่งมีอาการข้างเคียงน้อย ได้แก่ การคลื่นไส้อาเจียน เวียนศีรษะ ซึ่งมักจะเป็นอยู่ในหนึ่งถึงสองเดือนแรกเท่านั้น จากนั้นจะหายไป นอกเหนือจากนี้ ในสตรีที่ให้นมบุตรยังสามารถเลือกรับประทานยาคุมกำเนิดชนิดเฉพาะที่ให้นมบุตรได้

สำหรับยาคุมกำเนิดที่ใช้หลังมีเพศสัมพันธ์? ?ปกติไม่แนะนำให้ใช้เป็นประจำสำหรับผู้ที่ต้องการคุมกำเนิด จะมีที่ใช้เฉพาะมีเหตุการณ์ฉุกเฉิน?? เช่น? มีการร่วมเพศโดยไม่มีการเตรียมป้องกันมาก่อน? ถุงยางอนามัยฉีกขาดระหว่างร่วมเพศ? หรือกรณีถูกข่มขืน? การรับประทานยาคุมกำเนิดชนิดนี้? จำเป็นจะต้องสั่งรับประทานยาให้เร็วที่สุดหลังจากเกิดการร่วมเพศ? และควรจะไว้รับคำปรึกษาจากแพทย์สูตินรีเวช? เนื่องจากอาจพบภาวะแทรกซ้อนจากการรับประทานยาชนิดนี้ได้? เช่น? เลือดออกกะปริบกะปรอยและประจำเดือนมาไม่สม่ำเสมอ? อีกประการหนึ่งประสิทธิภาพของการคุมกำเนิดโดยใช้ยาคุมกำเนิดหลังมีเพศสัมพันธ์นั้น? น้อยกว่าการรับประทานยาคุมกำเนิดชนิดปกติ? การเลือกใช้จึงควรระมัดระวังและอยู่ในการดูแลของแพทย์

 

บทความโดย รศ.นายแพทย์ภาวิน พัวพรพงษ์

 

ถุงยางอนามัย

ถุงยางอนามัย

 

? ? ? ? ? ??ถุงยางอนามัย? การคุมกำเนิดวิธีนี้สามารถช่วยป้องกันโรคติดต่อทางเพศสัมพันธุ์ได้ ไม่ว่าจะเป็นโรคหนองใน ซิฟิลิส หรือเอดส์ วิธีการคุมกำเนิดต้องใส่ถุงยางอนามัยในอวัยวะเพศชายเมื่อมีการแข็งตัวเต็มที่ และต้องใส่ก่อนการสอดใส่อวัยวะเพศชายเข้าไปในอวัยวะเพศสตรีเสมอ เพราะหากมีการสอดใส่ไปก่อนแล้วจึงใส่ถุงยางอนามัย อาจตั้งท้องได้ วิธีการนี้หากมีความคุ้นเคยก็ไม่ได้รับกวนความรู้สึกขัดจังหวะการมีความสุขจากการมีเพศสัมพันธุ์เลย เมื่อมีฝ่ายชายมีการหลั่งน้ำอสุจิแล้ว ควรถอดถุงยางอนามัยออกก่อนอวัยวะเพศชายอ่อนตัวลงเพื่อป้องกันน้ำอสุจิไหลออกมาและเข้าไปในช่องคลอดฝ่ายหญิง ประสิทธิภาพในการคุมกำเนิดสูง

 

บทความโดย รศ.นายแพทย์ภาวิน พัวพรพงษ์

 

ทำไมต้องมีการคุมกำเนิด

การคุมกำเนิด

 

การมีเพศสัมพันธ์เป็นกลไกธรรมชาติที่จะดำรงเผ่าพันธุ์ ซึ่งนำไปสู่การตั้งครรภ์ โดยการตั้งครรภ์นั้นเกิดขึ้นทั้งแบบตั้งใจและไม่ได้ตั้งใจหรือไม่ได้เตรียมใจ การคุมกำเนิดจึงเป็นทางเลือกที่จะทำให้การมีเพศสัมพันธุ์เกิดได้อย่างมีความสุข ไร้ความกังวลเรื่องการตั้งครรภ์ เราจึงควรมาเรียนรู้เรื่องการคุมกำเนิดในแต่ละชนิดโดยศึกษาถึงข้อดีข้อเสียและความเหมาะสมกับตนเองที่จะเลือกใช้

 

บทความโดย รศ.นายแพทย์ภาวิน พัวพรพงษ์