รศ.นพ.ภาวิน พัวพรพงษ์
? ? ? ? ? ? มารดาที่ได้รับการรักษามะเร็งปากมดลูกโดยการผ่าตัดอย่างเดียว หลังผ่าตัดหากไม่มีภาวะแทรกซ้อน การกระตุ้นน้ำนมสามารถทำได้ และการดูแลให้มารดาสามารถเลี้ยงลูกด้วยนมแม่อย่างต่อเนื่องปฏิบัติเช่นเดียวกับผู้ป่วยผ่าตัดคลอด
นมแม่
รศ.นพ.ภาวิน พัวพรพงษ์
??????????? การวินิจฉัยมะเร็งปากมดลูก โดยทั่วไปจะได้จากการตัดชิ้นเนื้อที่ปากมดลูกไปตรวจพิสูจน์ เมื่อการตรวจทางพยาธิวิทยายืนยันผลว่าเป็นมะเร็งปากมดลูก การตรวจทางห้องปฏิบัติการเพิ่มเติมเพื่อบอกระยะของโรคมีความจำเป็นก่อนการรักษา ระยะของมะเร็งปากมดลูกเป็นการแบ่งโดยใช้ลักษณะทางคลินิกร่วมกับการตรวจทางห้องปฏิบัติการ เพื่อการสื่อสารที่เข้าใจง่าย อธิบายระยะของมะเร็งปากมดลูกเป็น 4 ระยะ ได้แก่ ระยะที่ 1 มะเร็งจะจำกัดอยู่เฉพาะที่ปากมดลูก ระยะที่ 2 มะเร็งจะลุกลามไปอวัยวะใกล้เคียงคือมดลูกหรือช่องคลอดส่วนบน (โดยแบ่งช่องคลอดเป็น 3 ส่วน ในส่วนบนจะหมายถึง 2 ใน 3 ส่วนที่อยู่ด้านบนติดกับปากมดลูก) ระยะที่ 3 มะเร็งจะลุกลามไปที่ผนังอุ้งเชิงกรานหรือช่องคลอดส่วนล่าง (หมายถึง 1 ใน 3 ส่วนของช่องคลอดที่ติดกับปากช่องคลอด) หรือมีการอุดตันของท่อไตทำให้เกิดกรวยไตบวมน้ำ (hydronephrosis) ระยะที่ 4 มะเร็งจะลุกลามไปที่กระเพาะปัสสาวะ ทวารหนักหรืออวัยวะที่อยู่ไกลออกไป และในปัจจุบันมีการใช้การตรวจด้วยคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า (magnetic resonance imaging หรือ MRI) เพื่อช่วยบอกพยากรณ์โรคและช่วยในการวางแผนการรักษาด้วย1
หนังสืออ้างอิง
รศ.นพ.ภาวิน พัวพรพงษ์
??????????? มะเร็งปากมดลูกสาเหตุมาจากการติดเชื้อ human papillomavirus หรือ HPV ซึ่งจะทำให้เซลล์เยื่อบุบริเวณปากมดลูกเปลี่ยนแปลงผิดปกติจนกลายเป็นมะเร็ง โดยปกติจะใช้ระยะเวลายาวนาน 5-10 ปี ดังนั้นการตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูก ได้แก่ การตรวจ Pap smear ?การตรวจ HPV DNA testing การตรวจคัดกรองโดยใช้กล้องส่องปากมดลูกหลังการป้ายกรดอะซิติก (visual inspection with acetic acid หรือ VIA) สามารถจะช่วยในการวินิจฉัยตั้งแต่ระยะก่อนมะเร็งและทำให้ผลการรักษามะเร็งปากมดลูกดีขึ้น นอกจากนี้ การมีวัคซีนป้องกันมะเร็งปากมดลูกยังช่วยป้องกันการติดเชื้อ HPV 16 และ 18 ซึ่งพบร้อยละ 74 ของมะเร็งปากมดลูกในประเทศไทย1
หนังสืออ้างอิง
รศ.นพ.ภาวิน พัวพรพงษ์
??????????? การรักษาร่วมด้วยฮอร์โมน ฮอร์โมนที่ใช้ในการรักษา ได้แก่ tamoxifen ยานี้ออกฤทธิ์ต้านการทำงานของฮอร์โมนเอสโตรเจน ค่าครึ่งชีวิต (half-life) ของยา 7 วัน มีรายงานการเกิดอวัยวะเพศกำกวม (ambiguous genitalia) ในทารกเพศหญิงที่มารดาได้รับยานี้ระหว่างการตั้งครรภ์1 และยานี้ยังออกฤทธิ์ยับยั้งการหลั่งน้ำนม2,3 ดังนั้นจึงเป็นข้อห้ามในการใช้ยานี้ระหว่างการให้นม
หนังสืออ้างอิง
รศ.นพ.ภาวิน พัวพรพงษ์
??????????? การรักษาร่วมด้วยยา monoclonal antibody ในมารดาที่เป็นมะเร็งเต้านม ยาที่ใช้อยู่ ได้แก่ Trastuzumab โดยยานี้จะออกฤทธิ์เจาะจงในการจับการโปรตีน human epidermal growth factor receptor 2 (HER2) ค่าครึ่งชีวิต (half-life) ของยา 1-32 วัน ยานี้ผ่านน้ำนมได้ มีรายงานการใช้ยานี้ระหว่างการตั้งครรภ์และพบว่ามีความสัมพันธ์กับการเกิดภาวะน้ำคร่ำน้อย1 ยังไม่มีรายงานการใช้ยานี้ระหว่างการให้นมลูก ดังนั้นการให้นมแม่ขณะได้รับยาควรหลีกเลี่ยง เนื่องจากค่าครึ่งชีวิตของยายาวนาน
หนังสืออ้างอิง