คลังเก็บหมวดหมู่: ทารกแรกเกิด

ทารกแรกเกิด

การดูแลและป้องกันปัญหาทารกแหวะนม

 รศ.นพ.ภาวิน พัวพรพงษ์

            อาการแหวะนมหรืออาการสำรอก (regurgitation) พบได้บ่อยในทารก สาเหตุของการที่ทารกแรกเกิดมีการแหวะนมหรือสำรอกได้ง่ายเกิดจากการที่ทารกกินนมมากเกินไปในขณะที่กล้ามเนื้อหูรูดของหลอดอาหารยังทำงานได้ไม่ดีหรือไม่สมบูรณ์ หรือบางครั้งการสำรอกอาจเกิดจากการที่ทารกกินนมและดูดอากาศเข้าไปในกระเพาะมาก เมื่ออากาศถูกไล่ออกมา จะมีน้ำนมไหลปนออกมาด้วย

          การดูแลและป้องกันทารกแหวะนมหรือสำรอก ทำได้โดยจัดท่าให้ทารกอยู่ในลักษณะนั่งลำตัวตั้งตรงหลังจากกินนม การให้ทารกกินนมครั้งหนึ่งน้อยลงและให้บ่อยครั้งขึ้นอาจจะช่วยได้ นอกจากนี้ ไม่ควรรอหรือปล่อยให้ทารกกินนมขณะที่หิวมาก เนื่องจากทารกอาจกลืนเร็วเกินไปและกลืนลมเข้าไปมากด้วยทำให้แหวะนมหรือสำรอกได้ ดังนั้น ควรจับทารกให้เรอเป็นช่วงๆ หากทารกกินและกลืนนมเร็ว โดยท่าที่ใช้อุ้มทารกให้เรออาจใช้ท่าอุ้มพาดบ่าให้หน้าท้องกดบริเวณหัวไหล่เพื่อไล่ลม หรืออาจใช้ท่าอุ้มนั่งบนตัก หันหน้าออก โดยมือข้างหนึ่งจับที่หน้าอกทารก มืออีกข้างหนึ่งลูบหลังทารกหรือเคาะเบาๆ พร้อมกับโน้มตัวทารกไปข้างหน้า1

             อย่างไรก็ตาม มารดาและครอบครัวควรได้รับการสอนให้แยกความแตกต่างระหว่างการแหวะนมหรือสำรอกกับอาการอาเจียน อาการแหวะนมหรือสำรอกมักไม่เป็นอันตราย แต่อาการอาเจียนเป็นอาการแสดงอย่างหนึ่งของความเจ็บป่วยหรือความผิดปกติของทารก การแหวะนมหรือสำลักปริมาณนมที่ไหลออกมามักไม่มากและไหลออกมาไม่แรง อาการอาเจียนปริมาณนมที่ออกมาจะมากหรือทั้งมื้อของการกินนมและไหลออกมาแรงเป็นลักษณะพุ่งออกมา หากอาเจียนไกลหรืออาเจียนพุ่งอาจพบในทารกที่มีการอุดตันของกระเพาะ (pyloric stenosis) ได้

เอกสารอ้างอิง

  1. ภาวิน พัวพรพงษ์. รอบรู้เรื่องการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่. นครนายก: ซี.ที. ดอทคอม; 2558.

 

 

การดูแลและป้องกันปัญหาทารกตื่นบ่อยเวลากลางคืน

 รศ.นพ.ภาวิน พัวพรพงษ์

         หลังจากที่มารดาเข้าใจลักษณะการนอนของทารกแล้ว วิธีที่จะช่วยให้ทารกหลับ ไม่ตื่นบ่อยในเวลากลางคืน ทำได้โดยการปฏิบัติดังต่อไปนี้1

  • การจัดห้องนอนทารก ควรให้มีบรรยากาศที่เงียบสงบ และใช้แสงไฟที่สามารถปรับแสงได้โดยใช้แค่แสงเพียงพอที่มารดาจะให้นมลูกได้
  • การมีเสียงเพลงเบา ๆ อาจจะช่วยให้ทารกหลับได้ดีขึ้น หลีกเลี่ยงกิจกรรมอื่น ๆ นอกจากการให้นมลูก เพื่อลดความสับสนของทารกว่าอาจเป็นเวลาเล่น และพูดคุยกับทารกเท่าที่จำเป็น
  • การให้นมลูก ให้เท่าที่ทารกต้องการโดยไม่จำเป็นต้องกระตุ้นเพิ่ม
  • การเปลี่ยนผ้าอ้อมก่อนให้นมลูก เพื่อลดการกระตุ้นให้ทารกตื่นหลังกินนม
  • การไกวเปลหรือโยกเยก หากจะใช้ ควรใช้ในขณะที่ทารกเริ่มง่วง

เอกสารอ้างอิง

  1. ภาวิน พัวพรพงษ์. รอบรู้เรื่องการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่. นครนายก: ซี.ที. ดอทคอม; 2558.

 

 

 

ปัญหาทารกตื่นบ่อยเวลากลางคืน

 รศ.นพ.ภาวิน พัวพรพงษ์

                ลักษณะการนอนของทารกจะมีความแตกต่างโดยการหลับของทารกจะไม่หลับลึกเหมือนผู้ใหญ่และร้อยละ 50 ของการหลับจะอยู่ในสภาวะ rapid eye movement ซึ่งจะพบว่าทารกอาจจะมีการเคลื่อนไหวตัวหรือขยับตัวในระหว่างการนอนได้บ่อย การที่ทารกตื่นบ่อยในเวลากลางคืนเกิดจากการพัฒนาของระบบประสาทที่ยังไม่สมบูรณ์ จะพบว่าทารกนอนได้ต่อเนื่องกัน 5 ชั่วโมงในเวลากลางคืนเมื่ออายุ 4 เดือน และทารกนอนได้ต่อเนื่องกัน 10 ชั่วโมงในเวลากลางคืนเมื่ออายุ 1 ปี ในทารกที่อายุ 4-10 สัปดาห์จะนอนเฉลี่ยต่อวัน 13.47 ชั่วโมง โดยมารดาจะได้นอนเฉลี่ย 7.18 ชั่วโมงต่อวัน1 ดังนั้น การที่ทารกตื่นบ่อยในเวลากลางคืน หากเป็นลักษณะปกติ การสอนมารดาให้มีความเข้าใจลักษณะการนอนของทารกจะทำให้มารดาสามารถจัดสรรเวลาพักผ่อนไปพร้อมกับทารกในเวลากลางวัน ไม่เหนื่อยล้าหรืออ่อนเพลียในการให้นมลูก และไม่วิตกกังวลหรือเป็นปัญหาที่ทารกตื่นบ่อยเวลากลางคืน สำหรับท่าในการนอนของทารกแนะนำให้ทารกนอนหงาย การนอนคว่ำอาจจะมีความเสี่ยงในการเกิดภาวะทารกเสียชีวิตเฉียบพลันโดยไม่ทราบสาเหตุ (sudden infant death syndrome)2-5 ร่วมกับการระมัดระวังในการใช้หมอนหรือผ้าที่อ่อนนุ่มบนเตียงของทารกที่อาจไปอุดปากและจมูกของทารกที่ทำให้เกิดการขาดอากาศหายใจจากท่านอนของทารกที่ไม่เหมาะสมได้6,7

เอกสารอ้างอิง

  1. Thomas KA, Foreman SW. Infant sleep and feeding pattern: effects on maternal sleep. J Midwifery Womens Health 2005;50:399-404.
  2. Richardson HL, Walker AM, Horne RS. Sleep position alters arousal processes maximally at the high-risk age for sudden infant death syndrome. J Sleep Res 2008;17:450-7.
  3. Alexander RT, Radisch D. Sudden infant death syndrome risk factors with regards to sleep position, sleep surface, and co-sleeping. J Forensic Sci 2005;50:147-51.
  4. Gessner BD, Ives GC, Perham-Hester KA. Association between sudden infant death syndrome and prone sleep position, bed sharing, and sleeping outside an infant crib in Alaska. Pediatrics 2001;108:923-7.
  5. Hutchison L, Stewart AW, Mitchell E. SIDS-protective infant care practices among Auckland, New Zealand mothers. N Z Med J 2006;119:U2365.
  6. Heinig MJ, Banuelos J. American Academy of Pediatrics task force on sudden infant death syndrome (SIDS) statement on SIDS reduction: friend or foe of breastfeeding? J Hum Lact 2006;22:7-10.
  7. Tipene-Leach D, Hutchison L, Tangiora A, et al. SIDS-related knowledge and infant care practices among Maori mothers. N Z Med J 2010;123:88-96.

 

 

 

เมื่อทารกอิ่มจะมีลักษณะอย่างไร

รศ.นพ.ภาวิน พัวพรพงษ์

                  เมื่อทารกกินนมไปได้สักระยะหนึ่งแล้ว มารดาจะรู้ได้อย่างไรว่าทารกอิ่ม อาการแสดงว่าทารกอิ่มนั้น จะมีลักษณะที่สังเกตได้ดังนี้ ทารกจะรู้สึกผ่อนคลาย ส่วนใหญ่จะปล่อยนมออกจะปากเอง ในขณะที่มีบางคนอาจจะยังดูดนมต่อ โดยดูดเบา ๆ จนกระทั่งหลับ ซึ่งหากมารดาสังเกตว่าทารกอิ่มแล้ว สามารถนำทารกออกจากเต้าได้ โดยทั่วไป การให้นมทารกจากเต้าควรป้อนให้เกลี้ยงจากเต้าข้างหนึ่งก่อนจะเปลี่ยนให้เต้านมอีกข้าง เนื่องจากทารกจะได้กินนมส่วนหลังซึ่งจะมีปริมาณไขมันสูง ทำให้ทารกอิ่มสบาย หลับได้นาน และช่วยให้การสร้างน้ำนมดีขึ้น1         

เอกสารอ้างอิง

  1. ภาวิน พัวพรพงษ์. รอบรู้เรื่องการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่. 2558.

เมื่อทารกหิวนมจะมีลักษณะอย่างไร

รศ.นพ.ภาวิน พัวพรพงษ์

             เมื่อทารกหิวนมมีลักษณะอย่างไรนั้นเป็นสิ่งที่มารดาควรเรียนรู้ เนื่องจากการให้ลูกกินนมควรให้ตามความต้องการของลูก ซึ่งลักษณะที่แสดงว่าทารกหิวนม อาการแสดงระยะแรก คือ ทารกจะมีการเพิ่มการเคลื่อนไหวของดวงตาในขณะที่หลับตาหรือลืมตา อ้าปากกว้าง แลบลิ้นออกมา และหันหน้าไปทางเต้านม อาจส่งเสียงครางเบา ๆ และมีการดูดหรืออมนิ้ว มือ ผ้าหรือวัตถุที่อยู่ใกล้ปาก หากทารกร้องเสียงดัง โก่งหลังออก ลักษณะนี้เป็นอาการแสดงในระยะหลังของการที่ทารกหิวหรือทารกหิวนมมากจนหงุดหงิด ซึ่งจะทำให้การอ้าปากอมหัวนมและลานนมหรือการนำทารกเข้าเต้าทำได้ยาก ต้องอุ้มและทำให้ทารกสงบก่อนจึงจะให้นมได้1           

เอกสารอ้างอิง

  1. ภาวิน พัวพรพงษ์. รอบรู้เรื่องการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่. 2558.