คลังเก็บหมวดหมู่: ทารกแรกเกิด

ทารกแรกเกิด

การประเมินการให้นมลูกโดยการสังเกตอาการแสดงของมารดาและทารก

รศ.นพ.ภาวิน พัวพรพงษ์

                การประเมินการให้นมลูกโดยการสังเกตอาการแสดงของการให้นมลูกที่มีประสิทธิภาพของมารดาและทารก1 สังเกตได้จาก

  • อาการแสดงของมารดา ได้แก่ การเริ่มมีน้ำนมมามากในวันที่ 3-4 หลังคลอด มารดารู้สึกมีแรงดูดดึงหัวนมขณะลูกดูดนมแต่ไม่เจ็บ มารดารู้สึกมีมดลูกเกร็งหรือหดรัดตัวร่วมกับมีน้ำคาวปลาไหลออกเพิ่มขึ้นขณะลูกดูดนมซึ่งจะพบได้ในสัปดาห์หลังคลอด มารดารู้สึกง่วงนอนหรือผ่อนคลายขณะให้นมลูก มารดาหิวกระหายน้ำ มารดารู้สึกเต้านมเบาหรือนุ่มขึ้นหลังการให้นม มารดาอาจรู้สึกเสียวหรือร้อนวูบบริเวณเต้านม และขณะที่ทารกดูดนมจากเต้านมข้างหนึ่งมีน้ำนมไหลจากเต้านมอีกข้างหนึ่ง
  • อาการแสดงของทารก ได้แก่ ทารกเข้าเต้าได้ไม่ยาก ทารกดูดนมถี่โดยอาจพร้อมกับมีการกลืนน้ำนม ได้ยินเสียงทารกกลืนน้ำนม สามารถนำทารกออกจากเต้าได้ง่ายหลังกินนม โดยหลังกินนมทารกรู้สึกอิ่ม ทารกมีการขับถ่ายอย่างน้อย 3 ครั้งและมีการปัสสาวะ 6-8 ครั้งใน 24 ชั่วโมงหลังจากวันที่สี่หลังคลอด

เอกสารอ้างอิง

  1. Morton J, Hall JY, Pessl M. Five steps to improve bedside breastfeeding care. Nurs Womens Health 2013;17:478-88.

 

 

การประเมินการให้นมลูกโดยการจดบันทึกการให้นมลูก

รศ.นพ.ภาวิน พัวพรพงษ์

                 การประเมินการให้นมลูกโดยใช้การจดบันทึกการให้นมลูก ซึ่งจะมีการจดบันทึกเวลาการกินนมในแต่ละครั้ง จำนวนครั้งของการกินนมต่อวัน จำนวนครั้งของการปัสสาวะและอุจจาระ เพื่อเป็นข้อมูลในการติดตามความเพียงพอในการให้นมแม่ โดยมีการศึกษาในประเทศไทยที่พบว่า การนับจำนวนครั้งของการให้นมทารกอย่างง่ายมีประโยชน์ใกล้เคียงกับการจดบันทึกระยะเวลาของการดูดนมของทารกในแต่ละครั้งในการประเมินการกินนมแม่ของทารก1

เอกสารอ้างอิง

  1. Drewett RF, Woolridge MW, Jackson DA, et al. Relationships between nursing patterns, supplementary food intake and breast-milk intake in a rural Thai population. Early Hum Dev 1989;20:13-23.

 

การประเมินการให้นมลูกโดยใช้ Neonatal Eating Assessment tool

รศ.นพ.ภาวิน พัวพรพงษ์

                    การประเมินการให้นมลูกโดยใช้ Neonatal Eating Assessment tool คำย่อของการประเมินการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่โดยวิธีนี้ เรียกว่า NeoEat-breastfeeding ใช้ประเมินทารกที่อายุน้อยกว่า 7 เดือน ซึ่งจะมีการประเมินพฤติกรรมการกินนมของทารกที่ได้จากการรายงานของมารดาหรือบิดา โดยหัวข้อพฤติกรรมของทารกที่ประเมินจะมีทั้งหมด 62 หัวข้อ หัวข้อที่ใช้ในการประเมินได้แก่ การประเมินระบบความพร้อมในการกิน การขับถ่าย และการนอนของทารก 14 หัวข้อ การประเมินความสามารถในการกินนมได้นานและอาการเหนื่อยระหว่างหรือหลังการกินนม 10 หัวข้อ การประเมินอาการไม่สบายในหลอดอาหารทารก 10 หัวข้อ การประเมินอาการไม่สบายในกระเพาะทารกจากการสำรอกนมหรือระหว่างนอนหงายราบ 6 หัวข้อ การประเมินการทำงานของกระเพาะและลำไส้จากการขับถ่ายยาก 7 หัวข้อ การประเมินประสิทธิภาพในการกินนมและการสำลัก 8 หัวข้อ การประเมินอาการที่เป็นปัญหาในระหว่างการกินนมแม่และความจำเป็นต้องใช้ท่อให้อาหาร (feeding tube) 7 หัวข้อ แต่ละหัวข้อมีคะแนนย่อย 5 คะแนน คะแนนรวมทั้งหมด 310 คะแนน ใช้เวลาประเมินราว 5-10 นาที1 หากทารกมีคะแนนการประเมินสูง แสดงว่าทารกมีปัญหาในการกินนมแม่มาก แบบประเมินจะรายงานพฤติกรรมของทารกที่มีปัญหาในการเลี้ยงลูกได้ชัดเจน เป็นประโยชน์ในการแปลผลพฤติกรรมของทารกสู่การตัดสินใจทางคลินิกในการช่วยเหลือ หรือแก้ไขปัญหาการกินนมแม่ของทารก สำหรับประสิทธิภาพของการประเมินโดยวิธีนี้พบว่า มีค่าความเชื่อมั่น Cronbach’s alpha เท่ากับ 0.92 และค่าความเชื่อมั่นจากการทดสอบซ้ำ (test-retest reliability) เท่ากับ 0.912

เอกสารอ้างอิง

  1. Pados BF, Park J, Thoyre SM. Neonatal Eating Assessment Tool-Breastfeeding: Reference Values for Infants Less Than 7 Months old. J Hum Lact 2019:890334419869598.
  2. Pados BF, Thoyre SM, Estrem HH, Park J, McComish C. Factor Structure and Psychometric Properties of the Neonatal Eating Assessment Tool-Breastfeeding. J Obstet Gynecol Neonatal Nurs 2018;47:396-414.

 

 

การประเมินการให้นมลูกโดยใช้ ABC

รศ.นพ.ภาวิน พัวพรพงษ์

              วิธีที่ใช้ประเมินการให้นมลูกอย่างง่าย หรือใช้ประเมินเบื้องต้นข้างเตียง อาจใช้การประเมินโดยใช้หลักคำย่อ ABC1 ซึ่งได้แก่

  • A คือ attachment หมายถึงการอ้าปากอมหัวนมและลานนมซึ่งก็คือ การเข้าเต้า
  • B คือ breast milk production หมายถึงการสร้างน้ำนม
  • C คือ calorie หมายถึงพลังงานที่ทารกได้รับ

               ซึ่งการประเมินนี้ใช้หลักคิดที่ว่า หากทารกเข้าเต้าได้ดี มารดามีการสร้างน้ำนมดี และทารกกินนมแม่ได้ตามความต้องการ ทารกจะได้รับพลังงานที่เพียงพอ จะส่งผลให้ทารกเจริญเติบโตและมีพัฒนาการตามเกณฑ์ นั่นคือแสดงถึงผลการประเมินการเลี้ยงลูกนมแม่น่าจะดี

เอกสารอ้างอิง

  1. Morton J, Hall JY, Pessl M. Five steps to improve bedside breastfeeding care. Nurs Womens Health 2013;17:478-88.

การประเมินการให้นมลูกด้วย Breastfeeding Assessment Score

 รศ.นพ.ภาวิน พัวพรพงษ์

                การประเมินการให้นมลูกด้วย Breastfeeding Assessment Score (BAS)  เกณฑ์นี้ใช้ตัวแปรในการประเมิน 8 ตัวแปรคือ อายุมารดา ประสบการณ์ในการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ จำนวนครั้งในการเข้าเต้ายาก ระยะห่างระหว่างการให้นมลูกแต่ละครั้ง จำนวนนมผสมที่ได้รับในโรงพยาบาล การเคยได้รับการผ่าตัดเต้านมมาก่อน มารดามีความดันโลหิตสูงระหว่างตั้งครรภ์ และมารดาคลอดบุตรโดยใช้เครื่องดูดสุญญากาศ ข้อมูลจากการประเมินทั้งหมดนี้เป็นข้อมูลจากมารดาและทารก คะแนนจะมีช่วงตั้งแต่ -6 ถึง 10 การแปลผล หากคะแนนตั้งแต่ 8 มีอัตราการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ที่หลังคลอด 7-10 วันสูงร้อยละ 95 แต่หากคะแนนน้อยกว่า 8 มีโอกาสที่จะหยุดเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ร้อยละ 211 ประโยชน์ในการนำไปใช้ของเกณฑ์นี้ใช้ในการทำนายการหยุดเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ เพื่อวางแผนให้การสนับสนุนและช่วยเหลือในมารดาและทารกที่เป็นกลุ่มเสี่ยงต่อการหยุดเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ สำหรับความไวของเกณฑ์การประเมินร้อยละ 80 ความจำเพาะร้อยละ 512

                  ข้อมูลของประสิทธิภาพจากการศึกษาในประเทศไทย ในการใช้เกณฑ์นี้เพื่อคัดกรองมารดาที่มีความเสี่ยงในการหยุดเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ในวันที่ 10 หลังคลอด พบมีความไวร้อยละ 53.7 และความจำเพาะร้อยละ 55.8 ซึ่งไม่สามารถนำไปประโยชน์ทางคลินิกเพื่อการคัดกรองได้ อย่างไรก็ตามพบตัวแปรที่มีความสัมพันธ์อย่างมีนัยสำคัญกับการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ ได้แก่ อายุมารดา ประสบการณ์ในการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ จำนวนครั้งในการเข้าเต้ายาก และระยะห่างระหว่างการให้นมลูกแต่ละครั้ง3 เกณฑ์การประเมินการให้นมลูกด้วย Breastfeeding Assessment Score แสดงดังรูป4

เอกสารอ้างอิง

  1. Hall RT, Mercer AM, Teasley SL, et al. A breast-feeding assessment score to evaluate the risk for cessation of breast-feeding by 7 to 10 days of age. The Journal of Pediatrics 2002;141:659-64.
  2. Raskovalova T, Teasley SL, Gelbert-Baudino N, et al. Breastfeeding Assessment Score: Systematic Review and Meta-analysis. Pediatrics 2015;135:e1276-85.
  3. Phadungkiatwattana P, Prewma P. Breastfeeding assessment score, can it be used effectively in Thai population? Thai J Obstet and Gynaecol 2012;20:56-62.
  4. ภาวิน พัวพรพงษ์. รอบรู้เรื่องการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่. นครนายก: ซี.ที. ดอทคอม; 2558.