คลังเก็บหมวดหมู่: ทารกแรกเกิด

ทารกแรกเกิด

การให้ลูกกินนมแม่สัมพันธ์กับระยะเวลาของการเริ่มมีประจำเดือนครั้งแรกหรือไม่

รศ.นพ.ภาวิน พัวพรพงษ์

??????????? การให้ลูกได้กินนมแม่ช่วยลดการเกิดมะเร็งมดลูกได้ โดยที่มะเร็งมดลูก หากเขียนสั้น ๆ โดยทั่วไปจะหมายถึง มะเร็งของเยื่อบุโพรงมดลูกที่ก่อกำเนิดจากความผิดปกติของเซลล์เยื่อบุภายในโพรงมดลูก ความเสี่ยงของมะเร็งเยื่อบุโพรงมดลูก คือการที่มีการเริ่มมีประจำเดือนเร็วและมีระยะของการหมดประจำเดือนช้า ดังนั้นจึงมีความคิดถึงความเชื่อมโยงของการป้องกันการเกิดมะเร็งเยื่อบุโพรงมดลูกว่า การป้องกันนั้นมีผลมาจากความสัมพันธ์ระหว่างการกินนมแม่กับการเริ่มมีประจำเดือนครั้งแรกของทารกเพศหญิงเมื่อทารกเจริญเติบโตขึ้นหรือไม่ มีการศึกษาถึงความสัมพันธ์นี้ แต่ไม่พบความสัมพันธ์ระหว่างการกินนมแม่กับการเริ่มมีประจำเดือนครั้งแรกของทารกเพศหญิง1 กลไกหรือกระบวนการที่ยังคงใช้อธิบายการป้องกันหรือลดการเกิดมะเร็งเยื่อบุโพรงมดลูกก็น่าจะเป็นไปจากการที่มีการตั้งครรภ์ ร่างกายมารดาจะมีฮอร์โมนโปรเจสเตอโรนที่จะออกฤทธิ์ต่อต้านการเกิดการเปลี่ยนแปลงหรือการเจริญเติบโตที่ผิดปกติของเซลล์เยื่อบุโพรงมดลูก และยังมีการเว้นระยะของการเกิดการเปลี่ยนแปลงของเซลล์เยื่อบุโพรงมดลูกในช่วงตั้งครรภ์และในช่วงที่ให้นมแม่ที่มารดาจะไม่มีประจำเดือน ซึ่งกลไกการป้องกันการเกิดมะเร็งรังไข่นั้น ก็ยังอธิบายโดยการลดการเกิดการตกไข่ในช่วงระยะที่มารดาตั้งครรภ์และให้นมบุตรเช่นกัน

เอกสารอ้างอิง

  1. Al-Mathkoori R, Albatineh A, Al-Shatti M, Al-Taiar A. Is age of menarche among school girls related to breastfeeding during infancy? Am J Hum Biol 2018:e23122.

 

ระยะเวลาของการให้ลูกกินนมแม่อย่างเดียวควรเป็นเรื่องเฉพาะตัวหรือไม่

รศ.นพ.ภาวิน พัวพรพงษ์

??????????? ระยะเวลาของการให้ลูกกินนมแม่นั้นควรเป็นเรื่องที่มารดาและครอบครัวจะตัดสินใจหลังจากที่ทราบถึงข้อมูลประโยชน์และข้อดีต่าง ๆ ในการที่ลูกได้กินนมแม่ และพิจารณาข้อจำกัดในมารดาและครอบครัวในแต่ละครอบครัวแล้ว จึงพิจารณาว่าจะวางแผนที่จะให้ลูกได้กินนมแม่นานเท่าไร รวมถึงวางแผนให้ลูกกินนมแม่อย่างเดียวได้นานเท่าไหร่ด้วย จึงอาจพิจารณาได้ว่า ระยะเวลาของการให้ลูกกินนมแม่ควรเป็นเรื่องเฉพาะตัวของมารดาในแต่ละคน1 ซึ่งหากมารดาและครอบครัวได้กำหนดระยะเวลาที่จะเลี้ยงลูกด้วยนมแม่แล้ว หน้าที่ของบุคลากรทางการแพทย์ก็คือ การสนับสนุนให้มารดาสามารถประสบความสำเร็จในการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ตามที่ตั้งใจไว้ ซึ่งหากมารดาสามารถบรรลุเป้าหมายก็เป็นสิ่งที่ดีและเป็นกำลังใจให้บุคลากรทางการแพทย์มีแรงใจในการทำงานต่อ แต่หากไม่บรรลุเป้าหมายบุคลากรทางการแพทย์ก็ไม่ควรจะท้อถอย ควรใส่ใจกับการเรียนรู้ว่า เหตุใดมารดาจึงไม่สามารถจะให้ลูกได้กินนมแม่ตามกำหนด และนำประสบการณ์ที่ได้จากการเรียนรู้ไปใช้ในการให้คำปรึกษาในมารดาอื่น ๆ ต่อไป

เอกสารอ้างอิง

  1. Alianmoghaddam N, Phibbs S, Benn C. Reasons for Stopping Exclusive Breastfeeding Between Three and Six Months: A Qualitative Study. J Pediatr Nurs 2018;39:37-43.

 

การให้ลูกกินนมแม่อย่างเดียวเป็นปฏิบัติการเพื่อบรรลุเป้าประสงค์เพียงอย่างเดียวใช่หรือไม่

รศ.นพ.ภาวิน พัวพรพงษ์

??????????? แม้จะทราบถึงประโยชน์ที่ดีของการให้ลูกกินนมแม่ตามข้อแนะนำขององค์การอนามัยโลกคือ ให้ทารกได้กินนมแม่อย่างเดียวหกเดือน หลังจากนั้นให้นมแม่ร่วมกับอาหารเสริมตามวัยจนกระทั่งสองปีหรือนานกว่านั้น ขึ้นอยู่กับความต้องการของมารดาและทารก แต่ในบางครั้ง การตั้งเป้าประสงค์ของความต้องการที่จะเลี้ยงลูกด้วยนมแม่อย่างเดียวหกเดือนอาจเป็นเพียงความปรารถนาที่ในความเป็นจริงเมื่อเวลาผ่านไป มารดาต้องเผชิญกับปัญหาและอุปสรรคต่าง ๆ ความต้องการหรือเป้าประสงค์ของข้อกำหนดที่ตั้งเป้าไว้ในตอนแรกว่าจะเลี้ยงลูกด้วยนมแม่อย่างเดียวหกเดือน อาจเปลี่ยนแปลงไป1 สิ่งนี้อาจส่งผลต่อมารดาในการสร้างความเครียดหรือความรู้สึกผิดที่มารดาไม่สามารถบรรลุความปรารถนาที่ตั้งใจจะเลี้ยงลูกด้วยนมแม่อย่างเดียวหกเดือนได้ ดังนั้น ทัศนคติของบุคลากรทางการแพทย์ไม่ควรมีแนวคิดที่ตำหนิหรือมองเห็นว่าเป็นความผิดของมารดาหากไม่สามารถเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ตามความตั้งใจที่มีในครั้งแรกได้ และควรมีความเข้าใจ ร่วมกับแนวคิดที่จะช่วยเหลือมารดาและทารกให้ยังคงได้รับประโยชน์ที่ดี หากมารดายังมีนมแม่อยู่ เนื่องจากแม้ว่ามารดาจะไม่สามารถให้นมแม่อย่างเดียวแก่ทารกในช่วงหกเดือนแรกได้ แต่การที่ทารกยังได้กินนมแม่ แม้จะมีการให้นมผงดัดแปลงสำหรับทารกไปบ้าง หากมารดายังคงสามารถกลับมาให้นมแม่ต่อได้ ก็ยังคงเป็นผลดีและประโยชน์แก่มารดาและทารกที่จะคงอยู่ตลอดไป แม้จะเพียงแค่ในความคิดคำนึงของบุคลากรผู้ที่มีหน้าที่สนับสนุนการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ ซึ่งสิ่งนี้ก็สามารถเป็นฐานในการสร้างกำลังใจในการปฏิบัติงานต่อไปได้เป็นอย่างดี

เอกสารอ้างอิง

  1. Alianmoghaddam N, Phibbs S, Benn C. Reasons for Stopping Exclusive Breastfeeding Between Three and Six Months: A Qualitative Study. J Pediatr Nurs 2018;39:37-43.

 

 

อุปสรรคระหว่างการเป็นมารดาที่ดีกับการเป็นลูกจ้างที่ดี

รศ.นพ.ภาวิน พัวพรพงษ์

??????????? ความคิดของคนเราบางครั้งก็อาจมีความเบี่ยงเบนที่จะเลือกตัดสินใจในสถานการณ์ใดสถานการณ์หนึ่งขึ้นอยู่กับทั้งเหตุผลและอารมณ์ของผู้ที่คิดตัดสินใจขณะนั้น มารดาบทบาทที่สำคัญคือการได้ให้นมลูก ในขณะเดียวกัน ปัจจุบันส่วนใหญ่สตรีทำงานนอกบ้าน และทำงานเป็นลูกจ้างหรือข้าราชการที่จำเป็นต้องกลับไปทำงานตามระยะเวลาที่ได้รับอนุญาตให้ลาคลอดได้ ซึ่งส่วนใหญ่ก็อาจจะลาคลอดได้ 45-90 วันหลังการคลอด ซึ่งอาจก่อให้เกิดปัญหาหรืออุปสรรคในการที่จะปฏิบัติหน้าที่ของมารดาคือ การให้นมลูกอย่างเดียวเป็นระยะเวลาหกเดือน เป็นที่ทราบกันดีว่า ระยะเวลาที่ลาคลอดได้มากขึ้นก็จะเพิ่มโอกาสที่มารดาจะสามารถเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ได้นานขึ้นด้วย แต่หากมีความคำนึงถึงบทบาทของลูกจ้างที่ดี การรีบกลับมาทำงานก็จะทำงานในหน้าที่มีความต่อเนื่อง ก้าวหน้า และส่งผลที่ดีต่องานที่ได้รับ แม้ว่ามารดาอาจต้องพิจารณาเลือกระหว่างการเป็นมารดาที่ดีกับการเป็นลูกจ้างที่ดี1 แต่ในความเป็นจริงนั้น ทางเลือกอาจไม่ได้มีเพียงสองทางอย่างที่มองเห็น และการที่มารดากลับไปทำงาน อาจจะหนทางที่จะยังสามารถให้ลูกได้กินนมแม่ได้ โดยหากมารดามีที่ทำงานใกล้บ้าน การกลับมาให้นมลูกระหว่างเวลาพักก็เป็นวิธีหนึ่งที่ทำได้ นอกจากนี้ การบีบเก็บน้ำนมแม่ หากทำได้อย่างมีการวางแผนที่ดี ลูกก็ยังสามารถกินนมแม่ได้ ดังนั้น เมื่อเผชิญปัญหาที่ต้องเลือก การสร้างทางเลือกที่มีเพิ่มขึ้น จะทำให้มารดาสามารถทำสิ่งที่ตั้งใจได้บรรลุความสำเร็จ โดยที่ลดข้อขัดแย้งหรือปัญหาที่อาจมองทางแก้ในแนวทางขั้วใดขั้วหนึ่งที่รบกวนที่จะสร้างภาวะเครียดแก่มารดาได้

เอกสารอ้างอิง

  1. Alianmoghaddam N, Phibbs S, Benn C. Reasons for Stopping Exclusive Breastfeeding Between Three and Six Months: A Qualitative Study. J Pediatr Nurs 2018;39:37-43.

กินนมแม่อย่างเดียวหกเดือนช่วยลดการเกิดโรคหอบหืดได้

รศ.นพ.ภาวิน พัวพรพงษ์

??????????? ข้อแนะนำในการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ในปัจจุบันคือ ให้ลูกได้กินนมแม่อย่างเดียวหกเดือน หลังจากนั้นให้นมแม่ร่วมกับอาหารเสริมตามวัยจนกระทั่งถึงสองปีหรือนานกว่านั้นขึ้นอยู่กับความต้องการของมารดาและทารก โดยที่เป็นที่ทราบกันดีแล้วว่า? นมแม่ช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันที่ดีแก่ทารกที่จะป้องกันการติดเชื้อรวมถึงลดการเกิดความผิดปกติของโรคที่เกี่ยวข้องกับการทำงานของภูมิคุ้มกัน ตัวอย่างได้แก่ โรคภูมิแพ้ และโรคหอบหืด โดยมีการศึกษาพบว่า หากให้ทารกได้กินนมแม่อย่างเดียวหกเดือนแรกจะป้องกันหรือลดการเกิดโรคหอบหืดได้ร้อยละ 371 ดังนั้น หากทราบข้อมูลเหล่านี้ การให้คำแนะนำในมารดาที่มีประวัติเป็นหอบหืดและมีความวิตกกังวลเกี่ยวกับการจะเกิดโรคหอบหืดในทารกก็คือ ให้ลูกได้กินนมแม่อย่างเดียวในหกเดือนแรก ซึ่งเป็นวิธีการรักษาที่ไม่ต้องลงทุนรับประทานยาใด ๆ เพิ่มเติมและยังเป็นประโยชน์แก่ทารกในด้านอื่นอีกด้วย ทางเลือกนี้จึงควรเป็นข้อแนะนำเบื้องต้นในมารดาที่มีความเสี่ยงที่จะมีบุตรที่เป็นโรคหอบหืด

เอกสารอ้างอิง

  1. Abarca NE, Garro AC, Pearlman DN. Relationship between breastfeeding and asthma prevalence in young children exposed to adverse childhood experiences. J Asthma 2018:1-10.