
รศ.นพ.ภาวิน พัวพรพงษ์
??????????????? เต้านมในระหว่างการตั้งครรภ์จะมีพัฒนาการและการเปลี่ยนแปลงที่จะสร้างน้ำนมรองรับการให้นมบุตร โดยต่อมน้ำนมจะทำหน้าที่สร้างน้ำนม หลังคลอดเมื่อการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนจะกระตุ้นให้เกิดการหลั่งน้ำนม ซึ่งน้ำนมในระยะแรกจะเป็นน้ำนมเหลือง หรือหัวน้ำนมที่จะเป็นเสมือนน้ำนมทองที่มีภูมิคุ้มกันที่ส่งผ่านจากมารดาสู่บุตรสูง สองถึงสามวันต่อมา นมแม่จะพัฒนาการที่มีน้ำตาล ไขมัน และน้ำในสัดส่วนที่เพิ่มขึ้นโดยให้เหมาะกับกระเพาะของทารกที่เริ่มขยายขึ้นและความต้องการสารอาหารที่เพิ่มขึ้น โดยน้ำนมยังแบ่งเป็นน้ำนมที่ไหลออกมาก่อนตอนต้นเรียกว่า น้ำนมส่วนหน้า ที่มีสัดส่วนของน้ำตาลสูง และน้ำนมที่อยู่ในเต้านมในส่วนหลังจากที่ทารกกินนมไปได้ระยะหนึ่งแล้วเรียกว่า น้ำนมส่วนหลัง ที่จะมีสัดส่วนของไขมันที่สูงกว่า
? ? ? ? ? ? ? มารดาควรทำความเข้าใจถึงลักษณะการสร้างน้ำนมและการเก็บน้ำนมที่เต้านมในส่วนหน้าหรือส่วนแรกและส่วนหลัง ซึ่งจะมีผลต่อการดูแลทารก โดยมารดาที่ให้ลูกกินเฉพาะน้ำนมส่วนหน้าจะถ่ายบ่อย ทารกกินนมแล้วไม่อยุ่ท้อง หิวต้องกินบ่อยๆ ทำให้มารดาอาจคิดว่าตนเองมีน้ำนมไม่เพียงพอ จนต้องไปเสริมให้นมผงดัดแปลงสำหรับทารกซึ่งทำให้ลดคุณค่าของการให้นมแม่และทารกอาจสับสนระหว่างการกินนมจากเต้ากับจากจุกนมได้ ดังนั้น มารดาควรให้ลูกกินนมจนเกลี้ยงเต้าจะทำให้ทารกได้น้ำนมส่วนหลังที่มีส่วนประกอบของไขมันมากกว่า ทำให้ทารกอิ่มท้องและหลับได้นานขึ้น ควรเข้าใจในการสร้างน้ำนมและลักษณะของน้ำนมจึงมีความจำเป็นอย่างมากที่มารดาต้องทำความเข้าใจเพื่อการให้นมแม่ได้อย่างเหมาะสม

รศ.นพ.ภาวิน พัวพรพงษ์
? ? ? ? ? ? ? ?ก่อนอื่นๆ ต้องมีทัศนคติว่า การเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ไม่ใช่เรื่องของตัวมารดาคนเดียว แต่เป็นเรื่องของคนในครอบครัวที่ควรมีส่วนร่วมในบทบาทใดบทบาทหนึ่ง หากทุกคนในบ้านเห็นร่วมกันแล้ว จะช่วยเหลือมารดาในบทบาทที่ทำได้ ได้แก่ สามีอาจมีบทบาทพ่อที่ช่วยโอบกอดทารกเนื้อแนบเนื้อ หรืออาจป้อนนมที่มารดาบีบเก็บไว้ให้แก่ลูก เล่นกับลูก อาบน้ำ เปลี่ยนผ้าอ้อม โดยเฉพาะสามีที่เป็นข้าราชการ ปัจจุบันมีระเบียบเอื้อให้สามารถลาช่วยเหลือมารดาเลี้ยงดูบุตรหลังคลอดได้ 15 วันทำการ ซึ่งจะช่วยเสริมสายใยและความสัมพันธ์ของพ่อแม่ลูกและครอบครัวให้มีความเชื่อมโยงใกล้ชิด สำหรับครอบครัวใหญ่ที่มีปู่ย่าตายาย พี่น้องต่างสามารถร่วมมีบทบาทในการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ได้ทั้งสิ้น โดยอาจมีบทบาทในการดูแลทารกหรือช่วยเหลืองานบ้านอื่นๆ ของมารดา หรือช่วยวางแผนการบีบเก็บ แช่เย็น หรือละลายนมแม่นำมาใช้ ดังนั้น บุคลากรทางการแพทย์ควรให้ความสำคัญของคนในครอบครัว อบรมให้ความรู้เรื่องการดูแลทารก ความสำคัญของนมแม่ สร้างทัศนคติและบทบาทที่คนในครอบครัวมีส่วนร่วมได้ จะทำให้เรื่องการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่เป็นเรื่องของครอบครัวที่เป็นกลไกในการสร้างสายใยให้เกิดขึ้นได้

รศ.นพ.ภาวิน พัวพรพงษ์
??????????????? เต้านมเล็ก หากมีการพัฒนาการของเต้านมอย่างปกติจะมีจำนวนกลุ่มของเซลล์ที่ผลิตน้ำนมเท่ากันกับเต้านมขนาดใหญ่ แต่จะมีการสะสมของเซลล์ไขมันที่เต้านมน้อยกว่าเต้านมขนาดใหญ่ ดังนั้น เมื่อมีจำนวนเซลล์ที่ผลิตน้ำนมเท่ากัน เมื่อมีการเปลี่ยนแปลงเพื่อเตรียมพร้อมในการสร้างน้ำนม ปริมาณน้ำนมจึงไม่แตกต่างกัน แล้วความเชื่อนี้น่าจะมาจากไหน ความเชื่อนี้น่าจะมาจากการเห็นสตรีบางคนที่มีเต้านมเล็กและไม่มีน้ำนมให้ลูก ซึ่งการที่เต้านมเล็กที่เกิดจากการขาดการพัฒนาการของเต้านมที่เหมาะสมพบได้เหมือนกัน แต่อุบัติการณ์น้อย ขณะที่เต้านมขนาดเล็กที่พบในสตรีทั่วไปเป็นจากการที่มีไขมันสะสมที่เต้านมน้อยเท่านั้น จึงไม่ได้เป็นสาเหตุที่จะทำให้ให้นมลูกไม่ได้ มารดาจึงไม่ควรมีความเข้าใจที่ผิดจนส่งผลให้เกิดความเครียดทางด้านจิตใจจนกระทั่งส่งผลเสียต่อการหลั่งของน้ำนมจริงๆ ที่จะเกิดผลเสียต่อการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่

รศ.นพ.ภาวิน พัวพรพงษ์
??????????????? การหย่อนยานของเต้านมนั้น เกิดจากการตั้งครรภ์ที่จะทำให้มีการขยายของเต้านม เต้านมจะใหญ่และมีน้ำหนักเพิ่มมากขึ้น ร่วมกับขณะที่ตั้งครรภ์จะมีการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนต่างๆ ที่ให้เกิดการยึดหรือหย่อนลงของเนื้อเยื่อเกี่ยวพันที่จะช่วยยึดหรือพยุงเต้านม ดังนั้น เมื่อมีการตั้งครรภ์ เต้านมขยาย หากไม่มีการพยุงทรงที่เหมาะสม น้ำหนักของเต้านมจะทำให้เต้านมหย่อนยานเพิ่มขึ้น แล้วความเชื่อนี้น่าจะมาจากไหน ความเชื่อนี้น่าจะมาจากการเห็นสตรีในสมัยก่อนที่ตั้งครรภ์และมีบุตรมาก โดยขณะที่ตั้งครรภ์และให้นมบุตรขาดการใส่ชุดชั้นในที่ช่วยพยุงทรงอย่างเหมาะสม เป็นผลทำให้เกิดการหย่อนยานของเต้านมมาก ซึ่งหากร่วมกับอายุที่มากขึ้นที่เป็นปัจจัยหนึ่งที่ส่งเสริมให้เกิดการหย่อนยานของเนื้อเยื่อต่างๆ ก็จะเกิดภาพของมารดาที่มีอายุมากมีเต้านมหย่อนยานที่สร้างความเข้าใจและภาพลักษณ์ที่ผิดต่อการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่

รศ.นพ.ภาวิน พัวพรพงษ์
? ? ? ? ? ? ? ? สิ่งนี้ตรงกันข้ามกับความเป็นจริง เนื่องจากนมแม่มีคุณค่ามากกว่านมผงดัดแปลงสำหรับทารก ทั้งๆ ที่นมผงดัดแปลงสำหรับทารกพยายามวิจัยและใส่สารต่างๆ เสริมลงไป แต่ก็ยังไม่เทียบเท่านมแม่ โดยเฉพาะในส่วนที่ช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันที่ส่งผ่านจากมารดาสู่ทารก แล้วความเชื่อนี้น่าจะมาจากไหน การโหมโฆษณาผ่านสื่อต่างๆ โดยเฉพาะสื่อโทรทัศน์ที่สร้างภาพลักษณ์ของการเสริมสารอาหารต่างๆ ที่ฟังดูแล้วมีประโยชน์ต่อทารก โดยที่มารดาและครอบครัวฟังชื่อสารอาหารเหล่านี้ แล้วอาจจะรู้จักบ้างไม่รู้จักบ้าง แต่ก็ได้สร้างการรับรู้ว่านงผงได้เสริมสารอาหารที่มีประโยชน์แล้ว ทั้งๆ ที่ความเป็นจริงสารอาหารเหล่านี้ต่างก็พบในนมแม่อยู่แล้ว แต่ในสมัยก่อนไม่มีการเสริม ก็คือ ขาดสารอาหารที่จำเป็นมาก แต่ปัจจุบันเสริมแล้ว ขาดสารอาหารที่จำเป็นน้อยลง ซึ่งคงไม่มีใครจะสื่อสารโฆษณาขายนมผงดัดแปลงสำหรับทารกในลักษณะนี้ เพราะจะขายไม่ได้และจูงใจ ปัจจุบันเริ่มมีการออกกฎหมายควบคุมการตลาดออาหารทารกและเด็กเล็กก็เพื่อต้องการลดความเข้าใจที่ผิดจาการสื่อสารสร้างภาพลักษณ์ทางด้านการตลาด ซึ่งน่าจะช่วยลดการสื่อสารที่ส่งเสริมความเข้าใจผิดๆ เหล่านี้ได้
แหล่งความรู้ เกี่ยวกับสูติ-นรีเวช (Obstetrics-Gynecology)