รศ.นพ.ภาวิน พัวพรพงษ์
??????????? การคุมกำเนิดแบบฉุกเฉินชนิดที่ใช้ฮอร์โมนจะมีลักษณะประจำเดือนเปลี่ยนแปลงไปได้ โดยจะพบมีเลือดประจำเดือนออกมาก่อนกำหนดที่ควรจะเป็นร้อยละ 15 พบประจำเดือนคลาดเคลื่อนไม่เกินสามวันของกำหนดที่ควรจะเป็นร้อยละ 57 และพบประจำเดือนเลื่อนไปหลังกำหนดเกินสามวันร้อยละ 28 ซึ่งเวลาของเลือดประจำเดือนที่จะมานั้นอาจเกี่ยวกับช่วงของการใช้ยาคุมกำเนิดฉุกเฉินในช่วงที่แตกต่างกันที่สัมพันธ์กับการตกไข่1
??????????? จะเห็นว่าส่วนใหญ่ของประจำเดือนจะมาก่อนและใกล้เคียงกับกำหนดปกติโดยเลื่อนไม่เกินสามวัน ในกรณีที่มีประจำเดือนเลื่อนไปหลังกำหนดนั้น สิ่งที่ต้องระมัดระวังคือ การตั้งครรภ์ จึงควรสังเกตอาการของการตั้งครรภ์ และตรวจปัสสาวะหรือตรวจทางห้องปฏิบัติการเพื่อทดสอบการตั้งครรภ์ ซึ่งจะทำให้สามารถวางแผนในการดูแลตนเองได้อย่างเหมาะสมหรือหากมีข้อสงสัยควรปรึกษาแพทย์
หนังสืออ้างอิง
1.???????????? Dunn S, Guilbert E, Burnett M, et al. Emergency contraception: no. 280 ( replaces No. 131 , August 2003). Int J Gynaecol Obstet 2013 ; 120:102-7.
?
รศ.นพ.ภาวิน พัวพรพงษ์
??????????? เมื่อใช้ยาคุมกำเนิดแบบฉุกเฉินชนิดฮอร์โมนจะมีอาการข้างเคียงที่พบได้ โดยยาคุมกำเนิดชนิดฮอร์โมนรวมจะมีอาการคลื่นไส้ร้อยละ 50.5 อาเจียนร้อยละ 18.8 วิงเวียนร้อยละ 16.7 อ่อนเพลียร้อยละ 28.5 ยาคุมกำเนิดชนิดฮอร์โมนโปรเจสตินจะมีอาการข้างเคียงน้อยกว่า พบอาการคลื่นไส้ร้อยละ 23.1 อาเจียนร้อยละ 5.6 วิงเวียนร้อยละ 11.2 อ่อนเพลียร้อยละ 16.9 การใช้ยาคุมกำเนิดชนิดฮอร์โมนโปรเจสตินแบบให้สองครั้งหรือครั้งเดียวอาการข้างเคียงไม่แตกต่างกัน
??????????? การใช้ยาลดอาการคลื่นไส้อาเจียนจะลดอาการข้างเคียงเหล่านี้ได้ โดยแนะนำให้รับประทานยา domperidone ก่อนกินยาคุมกำเนิด 1 ชั่วโมง ในกรณีที่มีอาการอาเจียนภายในสองชั่วโมงหลังรับประทานยาคุมกำเนิดแบบฉุกเฉินควรรับประทานยาซ้ำอีกครั้ง
??????????? สำหรับภาวะแทรกซ้อนของการใส่ห่วงอนามัยชนิดทองแดงพบได้น้อย ได้แก่ อาการปวดท้องน้อย เลือดออกจากช่องคลอดผิดปกติ ภาวะอุ้งเชิงกรานอักเสบ มดลูกทะลุ และห่วงอนามัยหลุด1
หนังสืออ้างอิง
1.???????????? Dunn S, Guilbert E, Burnett M, et al. Emergency contraception: no. 280 ( replaces No. 131 , August 2003). Int J Gynaecol Obstet 2013 ; 120:102-7.
?
รศ.นพ.ภาวิน พัวพรพงษ์
??????????? เมื่อใช้ยาคุมกำเนิดแบบฉุกเฉินต้องระมัดระวังเสมอว่าไม่ควรมีการตั้งครรภ์ก่อน ซึ่งการคุมกำเนิดจะไม่ได้ผล แต่หากประเมินแล้วไม่มีข้อมูลว่ามีการตั้งครรภ์และระยะการมีเพศสัมพันธ์อยู่ในระยะที่ยาคุมกำเนิดแบบฉุกเฉินยังมีประสิทธิภาพ การใช้อาจจะช่วยลดหรือป้องกันการตั้งครรภ์ได้
??????????? การมีเพศสัมพันธ์ที่ไม่ได้มีการป้องกันหรือวางแผน มักมีความสัมพันธ์กับโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ การซักประวัติและการตรวจร่างกายอย่างละเอียดจะทำให้สามารถให้การรักษาได้ตั้งแต่ระยะเริ่มต้น ซึ่งจะป้องกันภาวะแทรกซ้อนเรื่องการปวดท้องน้อยเรื้อรัง ภาวะอุ้งเชิงกรานอักเสบและการตั้งครรภ์นอกมดลูก
??????????? หลังจากที่ใช้การคุมกำเนิดแบบฉุกเฉินแล้ว หากต้องการการคุมกำเนิดต่ออาจใช้วิธีการคุมกำเนิดโดยใช้ถุงยางอนามัย หรืออาจใช้ยาคุมกำเนิดชนิดรวมรับประทานต่อไปจนหมดแผง สำหรับการติดตามควรสังเกตการมีประจำเดือนซึ่งอาจจะมีประจำเดือนมาภายใน 21 วันหลังการคุมกำเนิดแบบฉุกเฉินหรือกรณีที่รับประทานยาคุมกำเนิดชนิดฮอร์โมนรวมต่อจากการคุมกำเนิดแบบฉุกเฉินประจำเดือนควรจะมาภายใน 28 วัน หากไม่มีประจำเดือนมาควรตรวจสอบการตั้งครรภ์ ส่วนกรณีที่มีประวัติสงสัยโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์อาจมีการตรวจทางห้องปฏิบัติการเพิ่มเติมสำหรับโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ด้วย1
หนังสืออ้างอิง
1.???????????? Dunn S, Guilbert E, Burnett M, et al. Emergency contraception: no. 280 ( replaces No. 131 , August 2003). Int J Gynaecol Obstet 2013 ; 120:102-7.
?
รศ.นพ.ภาวิน พัวพรพงษ์
??????????? การใช้การคุมกำเนิดแบบฉุกเฉินไม่มีข้อบ่งห้ามที่ชัดเจน ยกเว้นทราบว่ามีการตั้งครรภ์อยู่แล้ว ซึ่งการใช้ยาจะไม่ได้ผล อย่างไรก็ตามหากมีล้มเหลวจากการคุมกำเนิดฉุกเฉินแล้วมีการตั้งครรภ์ จากข้อมูลการศึกษาที่ผ่านมาไม่พบว่าทำให้เกิดความพิการในทารก ดังนั้นหากสตรีต้องการจะดำเนินการตั้งครรภ์ต่อก็สามารถทำได้
??????????? สำหรับข้อควรระวังในการใช้ยาคุมกำเนิดแบบฉุกเฉินชนิดที่เป็นฮอร์โมนคือ สตรีที่แพ้ส่วนประกอบในยาคุมกำเนิดที่เป็นฮอร์โมน มีรายงานเกี่ยวกับผลข้างเคียงที่รุนแรงของฮอร์โมนที่ใช้น้อยมาก ได้แก่ โรคหลอดเลือดดำอุดตัน โรคหัวใจและหลอดเลือด ส่วนข้อควรระวังในการใช้ห่วงอนามัยชนิดทองแดงเพื่อคุมกำเนิดฉุกเฉินคือ ก่อนใส่ห่วงอนามัยควรระมัดระวังสตรีต้องไม่มีการตั้งครรภ์มาก่อน ระมัดระวังเรื่องการติดเชื้อหรือการอักเสบในอุ้งเชิงกราน ซึ่งหากมีความจำเป็นต้องใส่ห่วงอนามัยในสตรีที่มีความเสี่ยงสูง การให้ Azithromycin ขนาด 1 กรัม หรือ Doxycycline ขนาด 200 มิลลิกรัมครั้งเดียวก่อนการใส่ห่วงอนามัยจะช่วยลดการเกิดการอักเสบในอุ้งเชิงกรานลงได้
การเกิดภาวะท้องนอกมดลูกเป็นสิ่งที่กังวลในสตรีที่คุมกำเนิดแบบฉุกเฉิน อย่างไรก็ตามอัตราการเกิดภาวะท้องนอกมดลูกในสตรีที่ใช้การคุมกำเนิดแบบฉุกเฉินพบต่ำในกว่าในสตรีปกติ แต่เมื่อมีการตั้งครรภ์ควรจะมีความระมัดระวังภาวะนี้เนื่องจากการใช้การคุมกำเนิดอาจจะรบกวนกระบวนการตั้งครรภ์ปกติ1
หนังสืออ้างอิง
1.???????????? Dunn S, Guilbert E, Burnett M, et al. Emergency contraception: no. 280 ( replaces No. 131 , August 2003). Int J Gynaecol Obstet 2013 ; 120:102-7.
?
รศ.นพ.ภาวิน พัวพรพงษ์
??????????? ประสิทธิภาพในการลดการตั้งครรภ์ของการคุมกำเนิดแบบฉุกเฉินจะยิ่งลดลงเมื่อระยะเวลาของการมีเพศสัมพันธ์โดยไม่ได้ป้องกันเนิ่นนานจากการเริ่มใช้วิธีการคุมกำเนิดแบบฉุกเฉิน การใช้ยาคุมกำเนิดโปรเจสตินเพื่อคุมกำเนิดแบบฉุกเฉินเมื่อใช้ภายใน 24 ชั่วโมงหลังการมีเพศสัมพันธ์จะมีประสิทธิภาพในการลดการตั้งครรภ์ถึงร้อยละ 95 ประสิทธิภาพจะลดลงเหลือร้อยละ 85 เมื่อเริ่มใช้ยาในช่วง 25-48 ชั่วโมง และประสิทธิภาพจะลดลงเหลือร้อยละ 58 เมื่อเริ่มใช้ยาในช่วง 49-72 ชั่วโมง เช่นเดียวกับการใช้ยาคุมกำเนิดฮอร์โมนรวนเพื่อคุมกำเนิดแบบฉุกเฉินเมื่อใช้ในวันแรก วันที่สอง และวันที่สามหลังการมีเพศสัมพันธ์จะมีประสิทธิภาพลดลงจากร้อยละ 77 เหลือร้อยละ 36 และ 31 ตามลำดับ
??????????? ตามปกติ การใช้ยาคุมกำเนิดแบบฉุกเฉินชนิดโปรเจสตินและฮอร์โมนรวมแนะนำให้เริ่มกินยาคุมกำเนิดภายใน 3 วันแรกนับตั้งแต่การมีเพศสัมพันธ์ แต่ยังพบว่ามีประสิทธิภาพเมื่อใช้ยาในช่วง 3-5 วันด้วย1 สำหรับการใช้ห่วงอนามัยชนิดทองแดงสามารถใช้ได้ภายใน 7 วันนับตั้งแต่การมีเพศสัมพันธ์
หนังสืออ้างอิง
1.???????????? Dunn S, Guilbert E, Burnett M, et al. Emergency contraception: no. 280 ( replaces No. 131 , August 2003). Int J Gynaecol Obstet 2013 ; 120:102-7.
?
เรื่องนำทาง
แหล่งความรู้ เกี่ยวกับสูติ-นรีเวช (Obstetrics-Gynecology)