รศ.นพ.ภาวิน พัวพรพงษ์
????????? -ไม่มีความจำเป็นที่บุคลากรทางการแพทย์ต้องสัมผัสเต้านมมารดาขณะที่สอนมารดาบีบน้ำนมด้วยมือ
??????????? -การบีบน้ำนมด้วยมือมารดาอาจต้องพยายามลองทำ 2-3 ครั้งกว่าจะได้น้ำนม บุคลากรทางการแพทย์ควรพยายามกระตุ้นให้มารดาไม่เลิกล้มความตั้งใจในการบีบน้ำนมหากไม่ได้น้ำนมหรือได้น้ำนมเพียงเล็กน้อยในการพยายามลองทำในครั้งแรก มารดาจะบีบน้ำนมได้ดีขึ้นเรื่อยๆ เมื่อฝึกบีบน้ำนมด้วยมือบ่อยๆ
??????????? -อธิบายมารดาว่าไม่ควรรีบหรือบีบเฉพาะหัวนม การกดหรือดึงเฉพาะหัวนมไม่สามารถทำให้น้ำนมออกมาได้ แต่จะทำให้เกิดอาการปวด การบาดเจ็บหรือหัวนมแตกได้
??????????? -อธิบายมารดาว่าควรจะหลีกเลี่ยงการเลื่อนตำแหน่งหรือถูเต้านมขณะกดบีบน้ำนม เพราะอาจทำให้เกิดการบาดเจ็บของเต้านมได้
??????????? -ด้วยการฝึกฝน มารดาอาจจะสามารถบีบน้ำนมจากเต้านมทั้งสองข้างพร้อมๆ กัน
??????????? -หากมารดาจำเป็นต้องบีบน้ำนมและให้นมลูกคนที่โตกว่าด้วย มารดาควรบีบน้ำนมก่อน แล้วจึงให้ลูกคนที่โตกว่าดูดนม เนื่องจากลูกจะได้กินน้ำนมส่วนหลังซึ่งมีปริมาณไขมันที่สูง ให้พลังงานและทำให้อิ่มดีกว่า
??????????? -การบีบน้ำนมควรไม่จะเจ็บ หากมารดาเจ็บขณะบีบน้ำนม มารดาควรตรวจสอบขั้นตอนการบีบน้ำนมในแต่ละขั้นตอนใหม่ และบุคลากรทางการแพทย์อาจต้องสังเกตมารดขณะให้นมด้วย
????????? เมื่อไรจึงจะบีบน้ำนม?
??????????? หากหลังคลอดทารกยังดูดนมเองไม่ได้ สามารถเริ่มการบีบน้ำนมได้เร็วที่สุดที่เป็นไปได้ ซึ่งจะดีมากหากสามารถเริ่มได้ภายใน 6 ชั่วโมงหลังคลอด
หนังสืออ้างอิง
1.????? WHO/UNICEF. BFHI Section 3: Breastfeeding promotion and support in a baby-friendly hospital ? 20-hour course. ?2009