คลังเก็บป้ายกำกับ: การจัดการดูแลการเจ็บหัวนมของมารดาหลังคลอด

การจัดการดูแลการเจ็บหัวนมของมารดาหลังคลอด ตอนที่ 3

รศ.นพ.ภาวิน พัวพรพงษ์

การติดเชื้อรา สำหรับกรณีที่มารดามีการติดเชื้อราที่เต้านม ควรทำการรักษาเชื้อราทั้งในปากของทารกและที่หัวนมไปพร้อม ๆ กัน

การรักษามารดา แนะนำให้ใช้ fluconazole ขนาด 400 มิลลิกรัมรับประทารนในวันแรก และรับประทานต่อด้วยขนาดยา 200 มิลลิกรัม รับประทานวันละครั้ง เป็นระยะเวลา 14 วันหรือจนกว่ามารดาจะหายจากการเจ็บหัวนม โดยขนาดยาที่ใช้ไม่พบมีผลเสียต่อทารก12 หรืออาจใช้ยาทาเฉพาะที่ที่มีตัวยา miconazole หรือ clotrimazole ทาบริเวณหัวนมและลานนมที่มีการติดเชื้อรา โดยใช้ยาทานาน 2 สัปดาห์หรือจนกว่ามารดาจะหายจากการเจ็บหัวนม  แต่มีข้อระมัดระวังในการใช้ยาทาคือ มารดาต้องเช็ดทำความสะอาดหัวนมและลานนมด้วยน้ำมันมะกอกหรือน้ำมันมะพร้าวก่อนที่จะให้ทารกดูดนม และทายาซ้ำหลังทารกดูดนมเสร็จแล้ว สำหรับ nystatin พบว่ามีการดื้อยาของเชื้อราได้มากกว่า13 ไม่แนะนำให้ใช้ ketoconazole เพราะจะเป็นพิษต่อตับของทารกได้14 และไม่แนะนำการใช้ Gentian violet เนื่องจากมีโอกาสที่จะทำให้เกิดมะเร็ง และอาจทำให้เกิดการแพ้ได้

การรักษาทารก แนะนำให้ใช้ยาน้ำ nystatin (ความเข้มข้น 100000 ยูนิตต่อมิลลิลิตร) หยอดที่ด้านข้างของปากทั้งสองข้าง โดยหยอดข้างละ 0.5 มิลลิลิตร วันละ 4 ครั้ง นาน 14 วัน 

เอกสารอ้างอิง

12.       Heller MM, Fullerton-Stone H, Murase JE. Caring for new mothers: diagnosis, management and treatment of nipple dermatitis in breastfeeding mothers. Int J Dermatol 2012;51:1149-61.

13.       Wiener S. Diagnosis and management of Candida of the nipple and breast. J Midwifery Womens Health 2006;51:125-8.

14.       Anderson PO. Topical Drugs in Nursing Mothers. Breastfeed Med 2018;13:5-7.

การจัดการดูแลการเจ็บหัวนมของมารดาหลังคลอด ตอนที่ 2

รศ.นพ.ภาวิน พัวพรพงษ์

การมีน้ำนมมากหรือการตึงคัดเต้านม การสอนให้มารดาบีบน้ำนมด้วยมือออกก่อนการให้ทารกกินนม จะช่วยทำให้ลานนมที่ตึง นุ่มขึ้น ทำให้ทารกอมหัวนมและลานนมได้ลึกและเหมาะสม และช่วยลดน้ำนมที่พุ่งแรง ซึ่งจะเป็นการป้องกันการเจ็บหัวนมจากทารกออกแรงงับหัวนมและลานนมรุนแรงเพื่อลดการไหลของน้ำนมที่เร็วและแรงจนเกินไป

การจัดการดูแลการเจ็บหัวนมของมารดาหลังคลอด ตอนที่ 1

รศ.นพ.ภาวิน พัวพรพงษ์

สิ่งแรกต้องทำคือ “การให้การสนับสนุนให้มารดาคงการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ต่อไป” โดยเสริมพลังให้กับมารดาให้เกิดความมั่นใจว่าอาการเจ็บหัวนมสามารถรักษาให้หายได้ และสามารถป้องกันไม่ให้เกิดซ้ำได้ในอนาคต ร่วมกับการให้รักษาสาเหตุของการเจ็บเต้านม ได้แก่

การเข้าเต้าและท่าให้นมที่ไม่เหมาะสม ควรช่วยเหลือให้มารดาเข้าเต้าและจัดท่าให้นมอย่างเหมาะสม9,10 ซึ่งการดูแลจัดการในเรื่องนี้ ควรทำเป็นลำดับแรก เนื่องจากสาเหตุนี้เป็นสาเหตุหลักที่พบบ่อยที่สุดที่ทำให้เกิดการเจ็บหัวนม11 และยังพบเป็นสาเหตุร่วมกับสาเหตุที่ทำให้การเจ็บหัวนมที่มากขึ้นได้ ดังนั้น หลังการสังเกตและประเมินการให้นม หากพบว่ามีการเข้าเต้าหรือจัดท่าที่ไม่เหมาะสม การแก้ไขจะช่วยลดการเจ็บหัวนมของมารดาได้ทันที และจะช่วยสร้างความเชื่อมั่นในการที่จะเลี้ยงลูกด้วยนมแม่อย่างต่อเนื่องได้ดี จากนั้นควรฝึกให้มารดามีความมั่นใจที่จะจัดท่าให้นมที่เหมาะสมได้ด้วยตนเอง และสอนมารดาในท่าให้นมท่าอื่น ๆ ที่จะช่วยให้แรงกดของทารกต่อหัวนมหรือเต้านมเปลี่ยนไป สิ่งนี้ทำให้บริเวณหัวนมที่เจ็บดีขึ้น และยังทำให้มารดาสามารถให้นมได้ต่อเนื่องขณะที่หัวนมที่เจ็บกำลังจะหาย

เอกสารอ้างอิง

9.         Morland-Schultz K, Hill PD. Prevention of and therapies for nipple pain: a systematic review. J Obstet Gynecol Neonatal Nurs 2005;34:428-37.

10.       The management of nipple pain and/or trauma associated with breastfeeding. Aust Nurs J 2009;17:32-5.

11.       Puapornpong P, Paritakul P, Suksamarnwong M, Srisuwan S, Ketsuwan S. Nipple Pain Incidence, the Predisposing Factors, the Recovery Period After Care Management, and the Exclusive Breastfeeding Outcome. Breastfeed Med 2017;12:169-73.