การเก็บน้ำนมโดยใช้หลอดฉีดยา

                การเก็บน้ำนมโดยใช้หลอดฉีดยา ใช้ในกรณีที่ต้องการเก็บน้ำนมและนำน้ำนมที่เก็บได้มาหยดหรือป้อนนมทารกในทารกที่มีการสับสนหัวนมที่มีอาการหงุดหงิดจากการดูดนมจากเต้าและน้ำนมไม่ไหลเร็วเหมือนกับการดูดนมจากขวด หรือใช้เก็บน้ำนมในมารดาที่เริ่มมีน้ำนมและน้ำนมยังมาน้อย

การฝึกนำหุ่นทารกเข้าเต้า

            การนำหุ่นทารกฝึกเข้าเต้า บางกรณีที่มารดามารับคำปรึกษาเรื่องการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ แต่ไม่ได้พาทารกมาด้วย การแนะนำและให้มารดาปฏิบัติ หรือแสดงการเข้าเต้ากับหุ่นทารก สามารถช่วยให้มารดาได้ฝึกทักษะ และสร้างความมั่นใจให้กับมารดาในการที่จะเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ โดยในขณะที่มารดาปฏิบัติ หากมารดาปฏิบัติได้ถูกต้อง การให้คำชื่นชมมารดาในสิ่งที่ทำได้ถูกต้อง จะช่วยเสริมพลังและเพิ่มความเชื่อมั่นให้กับมารดาด้วย

วิดีโอสอนเทคนิคการนำทารกเข้าเต้า

ตัวอย่างพยาบาลสอนเทคนิคการนำทารกเข้าเต้าในการกินนมแม่

การป้อนนมด้วยถ้วย

ทำโดยใส่นมในถ้วยประมาณครึ่งแก้ว จับถ้วยนมไปใกล้กับปากของทารก เมื่อถึงมุมปาก วางขอบถ้วยบริเวณริมฝีปากล่างให้แตะสัมผัสเบาๆ เอียงถ้วยเล็กน้อย ให้ทารกพอทีจะแลบลิ้นออกมารับน้ำนมเข้าปากได้ เพื่อจะให้ทารกสามารถควบคุมกระบวนการการกินนมด้วยตนเอง ดังนั้น ควรระมัดระวังไม่ให้เกิดการเทน้ำนมเข้าไปในปากทารก

 

ยาต้านไวรัสที่ใช้ในการรักษา COVID-19 กับการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่

รศ.นพ.ภาวิน พัวพรพงษ์

            แม้ว่าในปัจจุบันยังไม่พบยาที่ได้รับการยืนยันว่าใช้รักษาโรค COVID-19 ได้ แต่ก็มีความพยายามจะใช้ยาต้านไวรัสที่ใช้ในการรักษาไข้หวัดใหญ่หรือไวรัสตัวอื่นมาใช้ในการรักษาในผู้ป่วยโรค COVID-19 ที่มีอาการรุนแรง ในประเทศไทยมีการใช้ยา Darunavir ร่วมกับ Ritonavir หรือ Lopinavir ซึ่งหากมองถึงผลต่อการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ ยา Darunavir นี้ได้ใช้ในผู้ป่วยที่ติดเชื้อเอชไอวีซึ่งในประเทศที่มีความพร้อมจะแนะนำให้หลีกเลี่ยงการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ ดังนั้นพบว่า จึงขาดข้อมูลของระดับยาในทารกที่มารดารับประทานยานี้ในระหว่างการให้นมลูก แต่ในประเทศที่ยังมีการแนะนำให้มารดาที่ติดเชื้อเอชไอวีกินนมแม่ ก็ไม่พบรายงานอันตรายหรือผลเสียจากการใช้ยานี้ในทารก แต่พบว่าในผู้ป่วยเอชไอวีเพศชายที่ได้รับยานี้จะพบมีเต้านมขยายขึ้น (gynecomastia) ได้1,2 เช่นเดียวกับ Darunavir ยา Ritonavir หรือ Lopinavir ก็ใช้ในผู้ป่วยเอชไอวีเช่นกัน และผู้ป่วยเอชไอวีเพศชายที่ได้รับยานี้จะพบมีเต้านมขยายขึ้นเช่นกัน ยานี้ผ่านน้ำนมในปริมาณที่ต่ำ ไม่พบรายงานอันตรายหรือผลเสียจากการใช้ยานี้ในทารก1-3 นอกจากนี้ ในสหรัฐอเมริกายังมีการใช้ยา Remdesivir, Oseltamivir, Peramivir,  Zanamivir และ Baloxavir ที่ใช้ในการรักษาไข้หวัดใหญ่ ก็ไม่พบรายงานอันตรายหรือผลเสียจากการใช้ยานี้ในทารก4  อย่างไรก็ตาม ยังมีข้อมูลน้อย การใช้จึงต้องมีการติดตามและเลือกใช้ด้วยความระมัดระวัง

เอกสารอ้างอิง

  1. Garcia-Benayas T, Blanco F, Martin-Carbonero L, et al. Gynecomastia in HIV-infected patients receiving antiretroviral therapy. AIDS Res Hum Retroviruses 2003;19:739-41.
  2. Pantanowitz L, Evans D, Gross PD, Dezube BJ. HIV-related gynecomastia. Breast J 2003;9:131-2.
  3. Rezk NL, White N, Bridges AS, et al. Studies on antiretroviral drug concentrations in breast milk: validation of a liquid chromatography-tandem mass spectrometric method for the determination of 7 anti-human immunodeficiency virus medications. Ther Drug Monit 2008;30:611-9.
  4. Anderson PO. Breastfeeding and Respiratory Antivirals: Coronavirus and Influenza. Breastfeed Med 2020;15:128.

แหล่งความรู้ เกี่ยวกับสูติ-นรีเวช (Obstetrics-Gynecology)