ข้อห้ามในการตั้งครรภ์สำหรับผู้ป่วยโรคเอสแอลอี (SLE)

w45

รศ.นพ.ภาวิน พัวพรพงษ์

??????????? โรคเอสแอลอี เป็นโรคที่มีการอักเสบของอวัยวะหลายส่วน ซึ่งหากมีอาการกำเริบหรือมีการอักเสบในอวัยวะที่มีสำคัญจะเป็นข้อห้ามสำหรับการให้ตั้งครรภ์1 ได้แก่ ผู้ป่วยที่มีอาการต่อไปนี้

????????? ความดันของเส้นเลือดในปอดสูงขั้นรุนแรง (severe pulmonary hypertension) โดยมีค่า systolic PAP > 50 mmHg หรือมีอาการ

????????? มีภาวะปอดขยายได้จำกัดชนิดรุนแรง (severe restrictive lung disease)

????????? มีไตวายระดับปานกลางหรือรุนแรง โดยมีการกำจัดค่า creatinine ต่ำกว่า 50 มิลลิลิตรต่อนาที

????????? ต้องได้รับการรักษาด้วยสเตียรอยด์ขนาดสูง โดยใช้ยา prednisolone มากกว่า 25-30 มิลลิกรัมต่อวัน

????????? ?มีอาการของโรคกำเริบภายในช่วงหกเดือน

????????? เคยมีประวัติครรภ์เป็นพิษหรือ HELLP syndrome แม้ว่าจะได้รับยาแอสไพรินหรือ heparin รักษาในครรภ์ก่อน

หนังสืออ้างอิง

1.???????? Ruiz-Irastorza G, Khamashta MA. Lupus and pregnancy: integrating clues from the bench and bedside. Eur J Clin Invest 2011;41:672-8.

?

????????? ?

 

การอักเสบของระบบอื่นๆ ในโรคเอสแอลอีกับการตั้งครรภ์

 

w45

รศ.นพ.ภาวิน พัวพรพงษ์

??????????? ในผู้ป่วยเอสแอลอีที่มีการอักเสบเสียหายของอวัยวะรุนแรง การตั้งครรภ์จะทำให้การอักเสบเสียหายของอวัยวะนั้นรุนแรงมากขึ้น1 การอักเสบที่สำคัญและเป็นอันตรายได้แก่ การอักเสบของไต อย่างไรก็ตาม การอักเสบในระบบอื่น ๆ ก็มีผลต่อการตั้งครรภ์ด้วย

??????????? ผู้ป่วยเอสแอลอีที่มีภาวะปอดจำกัด (restrictive pulmonary disease) จะมีอาการแย่ลงระหว่างการตั้งครรภ์จากการที่มดลูกขยายและกดเบียดพื้นที่ของปอด1

??????????? ผู้ป่วยเอสแอลอีที่มีอาการของโรคหัวใจ จะมีความเสี่ยงในการเกิดหัวใจวายได้ในระหว่างที่มีการเพิ่มขึ้นของเลือดในกระแสเลือดในช่วงไตรมาสที่สองและสาม และต้องระมัดระวังในช่วงคลอดที่ต้องมีการเบ่งคลอดเพราะหัวใจจะทำงานหนัก และเป็นข้อห้ามในการตั้งครรภ์ หากมีความดันเลือดในปอดสูง (pulmonary hypertension) โดยในกลุ่มนี้จะมีอัตราการตายของมารดาสูงร้อยละ 30 ซึ่งจะเกิดในช่วงท้ายของการตั้งครรภ์และช่วงหลังคลอด2

หนังสืออ้างอิง

1.???????????? Ruiz-Irastorza G, Khamashta MA. Lupus and pregnancy: integrating clues from the bench and bedside. Eur J Clin Invest 2011;41:672-8.

2.???????????? Bonnin M, Mercier FJ, Sitbon O, et al. Severe pulmonary hypertension during pregnancy: mode of delivery and anesthetic management of 15 consecutive cases. Anesthesiology 2005;102:1133-7; discussion 5A-6A.

?

การอักเสบของไตในโรคเอสแอลอีกับการตั้งครรภ์

w45

รศ.นพ.ภาวิน พัวพรพงษ์

??????????? ในผู้ป่วยเอสแอลอีที่มีการอักเสบเสียหายของอวัยวะรุนแรง การตั้งครรภ์จะทำให้การอักเสบเสียหายของอวัยวะนั้นรุนแรงมากขึ้น1 การอักเสบที่สำคัญและเป็นอันตรายได้แก่ การอักเสบของไต

??????????? การอักเสบของไต (lupus nephritis) เป็นอาการนำที่สำคัญของผู้ป่วยโรคเอสแอลอี ซึ่งการวินิจฉัยจะมีการตัดชิ้นเนื้อของไตเพื่อตรวจยืนยัน ในผู้ป่วยที่ตั้งครรภ์และมีการอักเสบของไตจะมีความเสี่ยงและภาวะแทรกซ้อนของการตั้งครรภ์สูงกว่าผู้ป่วยที่ไม่มีการอักเสบของไต การตั้งครรภ์ควรจะมีอาการของโรคสงบอย่างน้อยหกเดือน ซึ่งโดยทั่วไปแนะนำให้อาการของโรคสงบราว 12-18 เดือน2 การอักเสบของไตจะสัมพันธ์กับการเกิดความดันโลหิตสูงระหว่างตั้งครรภ์และการคลอดก่อนกำหนดด้วย3

หนังสืออ้างอิง

1.???????????? Ruiz-Irastorza G, Khamashta MA. Lupus and pregnancy: integrating clues from the bench and bedside. Eur J Clin Invest 2011;41:672-8.

2.???????????? Rahman FZ, Rahman J, Al-Suleiman SA, Rahman MS. Pregnancy outcome in lupus nephropathy. Arch Gynecol Obstet 2005;271:222-6.

3.???????????? Smyth A, Oliveira GH, Lahr BD, Bailey KR, Norby SM, Garovic VD. A systematic review and meta-analysis of pregnancy outcomes in patients with systemic lupus erythematosus and lupus nephritis. Clin J Am Soc Nephrol 2010;5:2060-8.

?

 

อาการโรคเอสแอลอีกับการกำเริบระหว่างการตั้งครรภ์

w45

รศ.นพ.ภาวิน พัวพรพงษ์

โดยทั่วไปโรคเอสแอลอีกำเริบระหว่างการตั้งครรภ์บ่อยขึ้น แต่มีการศึกษาที่ขัดแย้งกันซึ่งแสดงว่าการกำเริบของโรคเอสแอลอีจะเกิดเหมือนปกติเมื่อไม่มีการตั้งครรภ์1 เวลาของการกำเริบเกิดได้ทุกไตรมาส แต่มีแนวโน้มว่าจะเกิดมากในไตรมาสที่สาม ความรุนแรงของโรคในช่วง 6-12 เดือนก่อนการตั้งครรภ์จะเป็นสิ่งที่บอกถึงโอกาสในการกำเริบของโรคระหว่างตั้งครรภ์และยังสัมพันธ์กับการแท้งบุตรด้วย1 ในผู้ป่วยที่มีอาการกำเริบรุนแรงที่ตรวจพบมี complement ต่ำและมี anti-dsDNA เป็นบวกจะมีอัตราการแท้งและคลอดก่อนกำหนด2 สำหรับในกรณีที่สตรีที่เป็นโรคเอสแอลอีมีภาวะแทรกซ้อนของการตั้งครรภ์เอง ได้แก่ อาการครรภ์เป็นพิษ การวินิจฉัยจำเป็นต้องแยกออกจากการเกิดอาการอักเสบของไตจากโรคเอสแอลอี เพื่อให้การรักษาได้อย่างเหมาะสม

หนังสืออ้างอิง

1.???????????? Doria A, Tincani A, Lockshin M. Challenges of lupus pregnancies. Rheumatology (Oxford) 2008;47 Suppl 3:iii9-12.

2.???????????? Clowse ME, Magder LS, Petri M. The clinical utility of measuring complement and anti-dsDNA antibodies during pregnancy in patients with systemic lupus erythematosus. J Rheumatol 2011;38:1012-6.

?

 

โรคเอสแอลอี (SLE) กับการตั้งครรภ์

 

w45

รศ.นพ.ภาวิน พัวพรพงษ์

??????????? โรคเอสแอลอี หรือ systemic lupus erythematosus (SLE) เป็นโรคที่มีอาการอักเสบในหลายอวัยวะ เกิดจากภูมิคุ้มกันต่อต้านตนเอง โดยเป็นโรคเรื้อรังที่มีอาการกำเริบสลับกับช่วงอาการโรคเข้าสู่ช่วงสงบ โรคเอสแอลอีมักเกิดในสตรีอายุน้อยในช่วงวัยเจริญพันธุ์ ดังนั้นโอกาสที่จะตั้งครรภ์ในสตรีจึงมีโอกาสเกิดได้ ในยุคแรกๆ การตั้งครรภ์ถูกห้ามเนื่องจากเชื่อว่าโรคเอสแอลอีจะแย่ลงเมื่อมีการตั้งครรภ์ แต่ในปัจจุบันการดูแลรักษาโรคเอสแอลอีดีขึ้น การตั้งครรภ์อาจจะสามารถทำได้ภายใต้การวางแผนดูแลของแพทย์ในช่วงที่ควบคุมอาการของโรคได้ อย่างไรก็ตามการตั้งครรภ์ยังมีความเสี่ยงสูงต่อมารดาและทารกในสตรีที่เป็นโรคเอสแอลอี

??????????? ในสตรีที่เป็นโรคเอสแอลอีส่วนใหญ่จะตรวจพบ antiphospholipid antibody ซึ่งจะบอกถึงความเสี่ยงในการเกิดหลอดเลือดอุดตันและภาวะแทรกซ้อนของสตรีตั้งครรภ์1 การให้คำปรึกษาก่อนการตั้งครรภ์จะอธิบายถึงอันตรายที่จะเกิดกับมารดาและทารกในระหว่างตั้งครรภ์ซึ่งจะสัมพันธ์กับความรุนแรงของโรคในช่วงระยะนั้น ลักษณะภูมิคุ้มกันที่ตรวจพบ และอวัยวะที่ได้รับกระทบที่เกิดจากโรค

หนังสืออ้างอิง

1.???????????? Miyakis S, Lockshin MD, Atsumi T, et al. International consensus statement on an update of the classification criteria for definite antiphospholipid syndrome (APS). J Thromb Haemost 2006;4:295-306.

?

แหล่งความรู้ เกี่ยวกับสูติ-นรีเวช (Obstetrics-Gynecology)