ทักษะการฟังและการเรียนรู้ในหลักสูตรการอบรมบุคลากรผู้ดูแลนมแม่ 20 ชั่วโมง

milk

รศ.นพ.ภาวิน พัวพรพงษ์

??????????? -การสื่อสารอาจจะเป็นสิ่งที่เราพูด แต่ที่สำคัญพอๆ กันคือ การสื่อสารที่ไม่ใช้คำพูด อาจจะเป็นภาษากายซึ่งเป็นส่วนหนึ่งที่ใช้ในการสังเกตลักษณะท่าทางของมารดา เช่น ขณะที่พูดคุยกับมารดา มารดาไม่มีสมาธิในการให้นมลูกหรือมีความลำบากในการให้นมลูก เราอาจเข้าไปพูดคุยและให้ความช่วยเหลือได้

??????????? -เมื่อพูดคุยกับมารดาในที่สงบและสะดวกสบาย บรรยากาศที่ดีจะช่วยให้มารดารู้สึกอยากจะพูดหรือระบายปัญหากับท่าน

??????????? การสื่อสารที่ไม่ใช้คำพูด หรือการใช้ภาษากายกับมารดาจะช่วยทำให้มารดาสงบและสามารถจะรับฟังเรื่องราวต่างๆ ได้

????????? คำถาม

??????????? -วิธีการที่จะใช้ประโยชน์จากการสื่อสารที่ไม่ใช้คำพูดระหว่างการอภิปรายกับมารดาคืออะไร?

??????????? ปล่อยเวลาให้ผู้รับการฝึกอบรมได้คิดสักครู่ แล้วจึงบรรยายต่อ

??????????? -วิธีการที่จะใช้ประโยชน์จากการสื่อสารที่ไม่ใช้คำพูดระหว่างการอภิปรายกับมารดามีหลายวิธี ได้แก่

??????? การนั่งที่ระดับเดียวกันและนั่งชิดกับมารดา

??????? นำสิ่งที่ขัดขวางหรือเป็นอุปสรรคในการสร้างความใกล้ชิดกับมารดาออก เช่น โต๊ะ หนังสือ แฟ้มเอกสารต่างๆ

??????? ให้ความใส่ใจและตั้งใจในการรับฟังมารดา โดยการแสดงกิริยาในขณะรับฟัง อาจเป็นการพยักหน้า ยิ้ม หรือแสดงกิริยาอื่นๆ ที่เหมาะสม

??????? ให้เวลากับมารดา ไม่เร่งรีบหรือสนใจแต่ดูเวลา

??????? อาจให้การสัมผัสในทางที่เหมาะสม เช่น การจับเบาๆ บนแขนของมารดา สำหรับการแตะเต้านมหรือทารกควรขออนุญาตมารดาก่อน

หนังสืออ้างอิง

1.????? WHO/UNICEF. BFHI Section 3: Breastfeeding promotion and support in a baby-friendly hospital ? 20-hour course. ?2009

?

 

ทักษะการสื่อสารในหลักสูตรการอบรมบุคลากรผู้ดูแลนมแม่ 20 ชั่วโมง

milk

รศ.นพ.ภาวิน พัวพรพงษ์

วัตถุประสงค์ของการเรียนการสอนหัวข้อนี้

??????????? หลังจากสิ้นสุดการเรียนการสอน ผู้รับการฝึกอบรมสามารถ

??????????? 1.ชี้แจงทักษะการสื่อสารของการฟัง การเรียนและการสร้างความมั่นใจ (30 นาที)

??????????? 2.ฝึกทักษะเหล่านี้โดยการเขียนใส่กระดาษ (30 นาที)

ระยะเวลาทั้งหมด 60 นาที

วัสดุอุปกรณ์

??????????? -ตุ๊กตาที่ใช้ในการสอนแสดง

??????????? -เก้าอี้สองตัวที่สามารถย้ายไปที่หน้าห้องเรียนได้

??????????? -สำเนาเนื้อหาที่ต้องอ่านให้ผู้รับการอบรมฟังในระหว่างสอนแสดง

??????????? -เตรียมรายการที่จะฝึกทักษะการสื่อสาร โดยเขียนติดไว้ที่ผนังหรือ flip chart และเปิดทีละอันตามความจำเป็น

??????????? -สำเนาโจทย์การฝึกทักษะการสื่อสารแจกให้กับผู้รับการฝึกอบรม (โดยไม่มีส่วนที่เฉลยคำตอบ)

??????????? คำตอบของโจทย์ฝึกทักษะการสื่อสารจะใช้คำพูดที่เป็นภาษาถิ่น

การจัดเตรียมการสอนแสดง

??????????? การสอนแสดงนี้จะเป็นการสอนแสดงสั้นๆ ผู้ให้การฝึกอบรมจะชี้จุดที่ผู้รับการฝึกอบรมควรให้ความสนใจระหว่างการสอนแสดง และหลังจากสิ้นสุดการสอนแสดง ผู้ให้การฝึกอบรมจะต้องชี้ประเด็นและสรุปสิ่งที่สำคัญในแต่ละการสอนแสดงด้วย

เนื้อหาทักษะการสื่อสาร

??????????? -โดยทั่วไปบุคลากรทางการแพทย์มักจะมองหาปัญหาและหาแนวทางการแก้ไข การสื่อสารที่ดีต้องเคารพในความคิด ความเชื่อ และวัฒนธรรมของสตรี ซึ่งจะไม่ได้เป็นการบอก การสั่ง หรือการแนะนำในสิ่งที่บุคลากรทางการแพทย์เห็นว่าสตรีควรทำและบังคับให้สตรีทำในสิ่งที่เราต้องการ

??????????? -บุคลากรทางการแพทย์ต้องมีความสามารถทางการสื่อสารมากกว่าการให้ข้อมูลเพียงอย่างเดียว ซึ่งจะช่วยให้มารดาได้มองเห็นสาเหตุของการลำบากหรือความยากในเรื่องการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ที่สามารถจะช่วยกันแก้ไขร่วมกันได้ แต่ส่วนใหญ่มักจะไม่มีปัญหา มารดาเพียงแต่ต้องการให้การยืนยันและความมั่นใจว่าเธอได้ทำได้ดีแล้ว

??????????? -ท่านสามารถใช้ทักษะการสื่อสารเพื่อ

??????? รับฟังและเรียนรู้เกี่ยวกับความเชื่อ ระดับความรู้ และลักษณะการปฏิบัติของมารดา

??????? สร้างความเชื่อมั่นและชื่นชมสิ่งที่มารดาปฏิบัติได้เหมาะสมในการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่

??????? ให้ความรู้เรื่องการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่

??????? แนะนำการปรับเปลี่ยนโดยพื้นฐานความต้องการของมารดาที่ต้องการปรับเปลี่ยน

??????? นัดติดตามการดูแลต่อเนื่อง

-ท่านสามารถใช้ทักษะนี้

??????? สื่อสารกับเพื่อนร่วมงานที่ปฏิเสธการเปลี่ยนแปลงในนโยบายโรงพยาบาลสายสัมพันธ์แม่ลูก

??????? สื่อสารกับสมาชิกในครอบครัวของหญิงตั้งครรภ์ที่จะช่วยเลี้ยงดูทารกที่มีความคิดเชิงลบกับการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่

??????? สื่อสารกับผู้มีอำนาจในตัดสินการใช้นโยบายการส่งเสริมการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ในสถานที่ทำงาน

-ทักษะการสื่อสารที่ฝึกอบรมในหลักสูตรนี้เป็นพื้นฐาน ซึ่งการนำปฏิบัติอย่างสม่ำเสมอจะทำให้ใช้ได้ดีขึ้นและเป็นธรรมชาติ อาจฝึกปฏิบัติบ่อยๆ กับสมาชิกในครอบครัวหรือในที่ทำงาน

หนังสืออ้างอิง

1.????? WHO/UNICEF. BFHI Section 3: Breastfeeding promotion and support in a baby-friendly hospital ? 20-hour course. ?2009

?

 

สรุปเนื้อหาในหัวข้อการเรียนที่ 1 โรงพยาบาลลายสัมพันธ์แม่ลูกและยุทธศาสตร์การดำเนินการ

pregnancysquare_after_pregnant_12122012

รศ.นพ.ภาวิน พัวพรพงษ์

 

??????????? -วัตถุประสงค์ของยุทธศาสตร์ของการให้อาหารทารกและเด็กก่อนวัยเรียน คือ ?การปรับปรุงภาวะโภชนาการ การเจริญเติบโต พัฒนาการ สุขภาพ และโอกาสรอดชีวิตของทารกและเด็กก่อนวัยเรียนโดยผ่านการให้อาหารที่ดีและเหมาะสมที่สุด ซึ่งก็คือ การเลี้ยงลูกด้วยนมแม่อย่างเดียวหกเดือน จากนั้นให้อาหารเสริมที่ปลอดภัย ในเวลาที่พอดี ปริมาณที่พอเหมาะและพอเพียง ร่วมกับการให้นมแม่ต่อเนื่องไปเป็นเวลา 2 ปีหรือมากกว่านั้น โดยระหว่างนั้นจำเป็นต้องให้มารดาได้รับสารอาหารที่เพียงพอและได้รับการสนับสนุนจากชุมชนและสังคมด้วย?

 

??????????? -จุดประสงค์ของโรงพยาบาลสายสัมพันธ์แม่ลูกต้องการนำบันไดสิบขั้นสู่ความสำเร็จในการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่มาใช้ และสร้างตัวแทนที่สนับสนุนการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ในสถานพยาบาล

 

??????????? -การสนับสนุนการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่อย่างและโรงพยาบาลสายสัมพันธ์แม่ลูกมีความสำคัญ แม้ในพื้นที่ที่มีอัตราการติดเชื้อเอชไอวีสูง

 

-การเข้ารบการฝึกอบรมในหลักสูตรนี้จะช่วยเพิ่มระดับความรู้ ทักษะ และความมั่นใจ โดยทำให้เกิดความต่อเนื่องนำข้อมูลความรู้และการปฏิบัติไปสู่หน่วยงานและโรงพยาบาล โดยในการฝึกอบรมนี้ท่านจะได้เรียนรู้และฝึกปฏิบัติวิธีการ

 

1.ใช้ทักษะการสื่อสารกับหญิงตั้งครรภ์ มารดาหลังคลอดและผู้ร่วมงาน

 

2.การนำนโยบายบันไดสิบขั้นสู่ความสำเร็จในการเลี้ยงลูกด้วยนมไปใช้และยอมรับหลักเกณฑ์ว่าด้วยการตลาดอาหารสำหรับทารกและเด็กเล็กและผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้อง

 

3.อภิปรายเรื่องความสำคัญของการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่กับหญิงตั้งครรภ์ และกรอบการปฏิบัติที่จะสนับสนุนมารดาในการเริ่มต้นการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่

 

4.ช่วยให้ผิวของทารกได้สัมผัสกับอกมารดาและเริ่มต้นเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ตั้งแต่ในระยะแรก

 

5.ช่วยมารดาให้เรียนรู้ทักษะในการจัดท่า เข้าเต้าและการบีบนมด้วยมือ

 

6.อภิปรายกับมารดาถึงวิธีการสนับสนุนการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่หลังจากได้รับอนุญาตให้กลับบ้าน

 

7.บอกถึงสิ่งที่จำเป็นในมารดาที่ไม่ได้เลี้ยงลูกด้วยนมแม่และสามารถแนะนำให้ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญได้อย่างเหมาะสม

 

8.สามารถบอกได้ว่าแนวทางการปฏิบัติใดที่สนับสนุนหรือรบกวนการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่

 

9.ทำงานร่วมกับทีมสหสาขาในการระบุปัญหาสำคัญในการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ และหาวิธีที่จะแก้ไขปัญหานั้น

 

พร้อมแจกเอกสารบันไดสิบขั้นสู่ความสำเร็จในการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่

 

TEN STEPS TO SUCCESSFUL BREASTFEEDING

 

A Joint WHO/UNICEF Statement (1989)

 

Every facility providing maternity services and care for newborn infants should:

 

1. Have a written breastfeeding policy that is routinely communicated to all health care staff.

 

2. Train all health care staff in skills necessary to implement this policy.

 

3. Inform all pregnant women about the benefits and management of breastfeeding.

 

4. Help mothers initiate breastfeeding within a half-hour of birth.

 

5. Show mothers how to breastfeed, and how to maintain lactation even if they should be separated from their infants.

 

6. Give newborn infants no food or drink other than breast milk unless medically indicated.

 

7. Practise rooming in – allow mothers and infants to remain together – 24 hours a day.

 

8. Encourage breastfeeding on demand.

 

9. Give no artificial teats or pacifiers (also called dummies or soothers) to breastfeeding infants.

 

10. Foster the establishment of breastfeeding support groups and refer mothers to them on discharge from the hospital or clinic.

การตรวจสอบความรู้ในหัวข้อการเรียนที่ 1

 

หากทีมทำงานถามท่านว่า ทำไมจึงต้องการการฝึกอบรมหลักสูตรนี้และการฝึกอบรมหลักสูตรนี้จะช่วยในการดูแลมารดาและทารกอย่างไร? ท่านจะตอบว่าอย่างไร?

 

หนังสืออ้างอิง

 

1.????? WHO/UNICEF. BFHI Section 3: Breastfeeding promotion and support in a baby-friendly hospital ? 20-hour course. ?2009

 

 

 

 

 

การสอนหัวข้อกิจกรรมที่จัดในหลักสูตรนี้มีความเหมาะสมกับยุทธศาสตร์ในการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่อย่างไร

pregnancysquare_after_pregnant_12122012

รศ.นพ.ภาวิน พัวพรพงษ์

ระยะเวลาการสอน 5 นาที

เนื้อหา

??????????? ควรจะมีการทบทวนนโยบายของประเทศ กฎหมาย และสิทธิที่ปกป้องความเป็นแม่ของสตรีทำงานกับโปรแกรมการส่งเสริมและสนับสนุนการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ว่ามีความเหมาะสมหรือสอดคล้องกันอย่างไร เพื่อให้ผู้รับการอบรมได้เห็นความเชื่อมโยง ความสอดคล้อง รวมทั้งหาโอกาสในการพัฒนา

??????? สอบถามผู้รับการฝึกอบรมว่ามีคำถามหรือไม่ และจบการเรียนในหัวข้อนี้

หนังสืออ้างอิง

1.????? WHO/UNICEF. BFHI Section 3: Breastfeeding promotion and support in a baby-friendly hospital ? 20-hour course. ?2009

?

 

การสอนหัวข้อหลักสูตรอบรมบุคลากรผู้ดูแลนมแม่ 20 ชั่วโมงจะช่วยสถานพยาบาลในเวลานี้ได้อย่างไร

pregnancysquare_after_pregnant_12122012

รศ.นพ.ภาวิน พัวพรพงษ์

ระยะเวลาการสอน 10 นาที

เนื้อหา

??????????? -ระหว่างการอบรมหลักสูตรนี้จะมีการอธิบายความหมายของบันไดสิบขั้น และวิธีที่จะนำนโยบายไปสู่การปฏิบัติ ความสำคัญของบุคลากรทางการแพทย์ที่จะสนับสนุนและสร้างสิ่งแวดล้อมที่เอื้อต่อการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ นอกจากนี้ในช่วงท้ายของหลักสูตรจะมีการพูดถึงการเป็นตัวแทนของการรณรงค์เรื่องการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่และการประเมินโรงพยาบาลสายสัมพันธ์แม่ลูก

??????? นำเสนอบันไดสิบขั้นสู่ความสำเร็จในการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่และแจกสำเนาเอกสารบันไดสิบขั้นสู่ความสำเร็จในการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่

??????? ชี้บันไดขั้นที่หนึ่งและขอให้ผู้รับการฝึกอบรมอ่านออกเสียง

บันไดขั้นที่หนึ่ง คือ ?การมีนโยบายที่เขียนไว้ชัดเจนและสื่อสารเป็นประจำกับบุคลากรทุกระดับในโรงพยาบาล?

-การมีนโยบาย จะช่วยในเรื่อง

1.ทำให้เกิดความมั่นใจในการให้การดูแลที่มีประสิทธิภาพกับมารดาและทารกอย่างต่อเนื่อง

2.การจัดมาตรฐานของให้บริการที่สามารถวัดผลได้

3.การจัดกิจกรรมหรือกระบวนการสนับสนุนการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่

-นโยบายไม่ใช่แนวทางการปฏิบัติหรือมาตรฐานการรักษา นโยบายหมายถึงการที่บุคลากรทุกคนเห็นด้วยกับการทำตามแนวทางปฏิบัติหรือมาตรฐานการรักษาและสามารถปฏิบัติได้ตามบทบาทอย่างชอบธรรม การตัดสินใจว่าจะทำตามนโยบายหรือไม่ไม่ใช่เรื่องส่วนบุคคล เมื่อใดที่ไม่ได้มีการปฏิบัติตามนโยบายจะต้องมีการบันทึกและทำการชี้แจงเหตุผล

-ในนโยบายจะมีการเขียนถึงบันไดสิบขั้นสู่ความสำเร็จในการเลี้ยงลูกด้วยนมและหลักเกณฑ์ว่าด้วยการตลาดอาหารสำหรับทารกและเด็กเล็กและผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องรวมถึงวิธีการนำนโยบายไปสู่การปฏิบัติ

??????? อ้างถึงนโยบายการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ของโรงพยาบาล ให้ผู้รับการฝึกอบรมทบทวนดูระหว่างช่วงการฝึกอบรม (ไม่ใช้เวลาในการสอนหัวข้อนี้) และคิดว่าจะนำนโยบายไปสู่การปฏิบัติอย่างไร

??????? ชี้บันไดขั้นที่สองและขอให้ผู้รับการฝึกอบรมอ่านออกเสียง

บันไดขั้นที่สอง คือ ?ฝึกอบรมบุคลากรทุกระดับให้มีทักษะที่จำเป็นในการนำนโยบายไปสู่การปฏิบัติ?

-นโยบายควรจะสนับสนุนบันไดสิบขั้นและการจัดอบรมที่สนับสนุนการนำนโยบายไปสู่การปฏิบัติ การฝึกอบรมในหลักสูตรนี้จะทำให้ผู้เข้าอบรมมั่นใจในเรื่องความรู้และทักษะที่จะนำไปใช้ในการปฏิบัติงานทุกวันที่ช่วยสนับสนุนการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่

??????? นำเสนอวัตถุประสงค์ของหลักสูตรและอ่านให้ผู้รับการฝึกอบรมฟัง

วัตถุประสงค์ของหลักสูตร คือ การทำให้บุคลากรทุกคนมีความมั่นใจในการให้การสนับสนุนให้มารดาเลี้ยงลูกด้วยนมแม่อย่างเดียวตั้งแต่ระยะแรก และจัดระบบให้มีความสะดวกในการช่วยให้เกิดความสำเร็จในการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่

-ระหว่างการฝึกอบรมหลักสูตรนี้ ผู้รับการฝึกอบรมจะได้อภิปรายในส่วนของบันไดขั้นที่เหลือ และมีโอกาสที่จะได้เรียนรู้และฝึกปฏิบัติวิธีการ

1.ใช้ทักษะการสื่อสารกับหญิงตั้งครรภ์ มารดาหลังคลอดและผู้ร่วมงาน

2.การนำนโยบายบันไดสิบขั้นสู่ความสำเร็จในการเลี้ยงลูกด้วยนมไปใช้และยอมรับหลักเกณฑ์ว่าด้วยการตลาดอาหารสำหรับทารกและเด็กเล็กและผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้อง

3.อภิปรายเรื่องความสำคัญของการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่กับหญิงตั้งครรภ์ และกรอบการปฏิบัติที่จะสนับสนุนมารดาในการเริ่มต้นการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่

4.ช่วยให้ผิวของทารกได้สัมผัสกับอกมารดาและเริ่มต้นเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ตั้งแต่ในระยะแรก

5.ช่วยมารดาให้เรียนรู้ทักษะในการจัดท่า เข้าเต้าและการบีบนมด้วยมือ

6.อภิปรายกับมารดาถึงวิธีการสนับสนุนการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่หลังจากได้รับอนุญาตให้กลับบ้าน

7.บอกถึงสิ่งที่จำเป็นในมารดาที่ไม่ได้เลี้ยงลูกด้วยนมแม่และสามารถแนะนำให้ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญได้อย่างเหมาะสม

8.สามารถบอกได้ว่าแนวทางการปฏิบัติใดที่สนับสนุนหรือรบกวนการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่

9.ทำงานร่วมกับทีมสหสาขาในการระบุปัญหาสำคัญในการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ และหาวิธีที่จะแก้ไขปัญหานั้น

-การเข้ารบการฝึกอบรมในหลักสูตรนี้จะช่วยเพิ่มระดับความรู้ ทักษะ และความมั่นใจ โดยทำให้เกิดความต่อเนื่องนำข้อมูลความรู้และการปฏิบัติไปสู่หน่วยงานและโรงพยาบาล

-หลักสูตรนี้เป็นพื้นฐานของโรงพยาบาลสายสัมพันธ์แม่ลูก สำหรับผู้ต้องการเรียนรู้เพิ่มเติม อาจลงทะเบียนในหลักสูตรเฉพาะทางเพิ่มได้ นอกจากนี้ควรมีการให้ข้อมูลเกี่ยวกับการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่กับบุคลากรเพิ่มมากขึ้น

หนังสืออ้างอิง

1.????? WHO/UNICEF. BFHI Section 3: Breastfeeding promotion and support in a baby-friendly hospital ? 20-hour course. ?2009

?

 

แหล่งความรู้ เกี่ยวกับสูติ-นรีเวช (Obstetrics-Gynecology)