คลังเก็บหมวดหมู่: คำถามที่พบบ่อย

คำถามที่พบบ่อย

ประโยชน์ของการจัดท่าให้นมลูกท่าเอนหลัง

รศ.นพ.ภาวิน พัวพรพงษ์

การจัดท่าให้นมลูกในท่าเอนหลังหรือภาษาอังกฤษใช้คำว่า laid-back position เชื่อว่าเป็นท่าที่จะทำให้ทารกปรับตัวรับกับการดูดนมตามธรรมชาติได้ดี  ซึ่งท่าให้นมลูกในแต่ละท่าที่นิยมทำการสอนให้แก่มารดา ได้แก่ ท่าอุ้มขวางตัก ท่าอุ้มขวางตักประยุกต์ ท่าอุ้มฟุตบอล ท่านอนตะแคงข้าง และท่านั่งหลังตรง จะมีข้อดีหรือข้อจำกัดที่แตกต่างกัน และอาจจะมีความเหมาะสมสำหรับสรีระของมารดาและทารกในแต่ละคู่แตกต่างกันด้วย มีการศึกษาพบว่าการจัดท่าให้นมลูกในท่าเอนหลังจะช่วยลดการเกิดปัญหาของหัวนมและเต้านม ได้แก่ การเจ็บหัวนม หัวนมแตก ท่อน้ำนมอุดตัน และเต้านมอักเสบ1 อย่างไรก็ตาม การสอนท่าให้นมลูกแก่มารดาควรสอนหลาย ๆ ท่า เพื่อให้มารดาได้เลือกใช้ท่าให้นมที่มารดารู้สึกสบาย ทารกเข้าเต้าได้ดี และไม่มีการเจ็บหัวนมหรือเต้านม ซึ่งหากมารดาสามารถเข้าเต้าได้อย่างเหมาะสมไม่ว่าจะเลือกใช้ท่าให้นมลูกท่าใด ๆ ก็ไม่มีความแตกต่างของอัตราการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่อย่างเดียว

เอกสารอ้างอิง

1.        Milinco M, Travan L, Cattaneo A, et al. Effectiveness of biological nurturing on early breastfeeding problems: a randomized controlled trial. Int Breastfeed J 2020;15:21.

การเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ช่วยป้องกันการเข้าสู่วัยทองเร็ว

รศ.นพ.ภาวิน พัวพรพงษ์

การเข้าสู่วัยทองเร็ว มารดามักมีอาการของการย่างเข้าสู่วัยทองที่มากกว่าการย่างเข้าสู่วัยทองตามปกติ ซึ่งอาการของวัยทองที่พบ ได้แก่ การมีอาการร้อนวูบวาบ เหงื่อออกง่าย หงุดหงิด นอนไม่หลับ ปัสสาวะบ่อย ช่องคลอดแห้ง ความต้องการทางเพศลดลง การปวดข้อ และการลดลงของมวลกระดูกโอบกอดทารก ซึ่งจะส่งผลต่อคุณภาพของชีวิต และอาจก่อให้เกิดปัญหาครอบครัวจากความไม่สมดุลจากการเปลี่ยนแปลงของสตรีขณะที่สามีมีการเปลี่ยนแปลงทางร่างกายและยังมีความต้องการเรื่องเพศสัมพันธ์สูง มีการศึกษาในสหรัฐอเมริกาพบว่า การที่มารดามีจำนวนบุตรหลายคน และการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ช่วยป้องกันการเข้าสู่วัยทองเร็ว โดยมารดาที่มีบุตร 2 คนและเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ตั้งแต่ 7 เดือนถึง 1 ปีจะช่วยป้องกันการเข้าสู่วัยทองเร็วร้อยละ 21 มารดาที่มีบุตรตั้งแต่ 3 คนขึ้นไปและเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ตั้งแต่ 7 เดือนถึง 1 ปีจะช่วยป้องกันการเข้าสู่วัยทองเร็วร้อยละ 32  มารดาที่มีบุตร 2 คนและเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ตั้งแต่หนึ่งปีถึงหนึ่งปีครึ่งจะช่วยป้องกันการเข้าสู่วัยทองเร็วร้อยละ 13  มารดาที่มีบุตรตั้งแต่ 3 คนขึ้นไปและเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ตั้งแต่หนึ่งปีถึงหนึ่งปีครึ่งจะช่วยป้องกันการเข้าสู่วัยทองเร็วร้อยละ 121  ดังนั้น นี่อาจเป็นประโยชน์อีกอย่างหนึ่งของการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่นอกเหนือจากข้อมูลความสำคัญของการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ที่มีการให้แก่มารดาในปัจจุบัน

เอกสารอ้างอิง

1.        Langton CR, Whitcomb BW, Purdue-Smithe AC, et al. Association of Parity and Breastfeeding With Risk of Early Natural Menopause. JAMA Netw Open 2020;3:e1919615.

การให้คำปรึกษาแก่มารดาที่มีทารกตัวเหลืองช่วยเพิ่มอัตราการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่อย่างเดียว

รศ.นพ.ภาวิน พัวพรพงษ์

ภาวะตัวเหลืองในทารกแรกเกิดเป็นภาวะแทรกซ้อนที่พบได้บ่อยและเป็นอุปสรรคอย่างหนึ่งในการสนับสนุนการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่อย่างเดียว เนื่องจากหากขาดการให้ข้อมูลเกี่ยวกับภาวะตัวเหลืองในทารกแรกเกิดและแนวทางการดูแลที่เหมาะสม มารดาและครอบครัวอาจจะเข้าใจผิดหรือคิดไปเองว่าทารกกินนมแม่ไม่พอจำเป็นต้องเสริมอาหารหรือน้ำแก่ทารกที่มีภาวะตัวเหลือง หรือเห็นทารกมีผิวแห้ง ปากแห้งเมื่อทารกมีความจำเป็นต้องส่องไฟเพื่อรักษาอาการตัวเหลือง ซึ่งการแก้ไขความเข้าใจผิดนี้จำเป็นต้องการให้คำปรึกษาแก่มารดาและครอบครัวตั้งแต่ในระยะแรกที่มีการเริ่มต้นการดูแลรักษาทารกที่มีภาวะตัวเหลือง โดยพบว่า หากมีการให้คำปรึกษาเรื่องการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่แก่มารดาและครอบครัวที่มีทารกมีภาวะตัวเหลืองตั้งแต่ในเวรกะแรกที่ทารกเข้ามานอนโรงพยาบาล ทารกจะได้รับการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่สูงกว่ามารดาและครอบครัวที่ไม่ได้มีการให้คำปรึกษาถึง 4 เท่า1

เอกสารอ้างอิง

1.        Kovaric K, Cowperthwaite M, McDaniel CE, Thompson G. Supporting Breastfeeding in Infants Hospitalized for Jaundice. Hosp Pediatr 2020.

โรงพยาบาลสายสัมพันธ์แม่ลูกช่วยเพิ่มอัตราเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ในกลุ่มมารดาด้อยโอกาส

รศ.นพ.ภาวิน พัวพรพงษ์

การจัดระบบเป็นโรงพยาบาลสายสัมพันธ์แม่ลูกจะมีกระบวนการการปฏิบัติตามบันไดสิบขั้นสู่ความสำเร็จในการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ซึ่งจะช่วยเพิ่มอัตราการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ได้ มีการศึกษาที่สหรัฐอเมริกาในเรื่องนี้ในกลุ่มมารดาที่ด้อยโอกาสพบว่า การที่โรงพยาบาลมีนโยบายและดำเนินการตามหลักเกณฑ์ของโรงพยาบาลสายสัมพันธ์แม่ลูกจะช่วยเพิ่มอัตราการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ในมารดากลุ่มด้อยโอกาสด้วย โดยในรายละเอียดพบว่า การปฏิบัติตามบันไดสิบขั้นเพิ่มอัตราการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ 34 เท่า เพิ่มอัตราการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่อย่างเดียว 24 เท่า และยังพบว่าการปฏิบัติตามบันไดในแต่ละขั้นยังช่วยเพิ่มอัตราการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่อีกด้วย ตัวอย่างได้แก่ การปฏิบัติตามบันไดขั้นที่ 6 คือการให้ลูกกินนมแม่อย่างเดียวโดยไม่มีการให้สารน้ำหรือสารอาหารอื่น ๆ ช่วยเพิ่มอัตราการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ 4.4 เท่า และการปฏิบัติตามบันไดขั้นที่ 9 คือการไม่ใช้หัวนมหลอกหรือจุกนมเทียมช่วยเพิ่มอัตราการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ได้ 5.7 เท่า1

เอกสารอ้างอิง

1.        Kivlighan KT, Murray-Krezan C, Schwartz T, Shuster G, Cox K. Improved breastfeeding duration with Baby Friendly Hospital Initiative implementation in a diverse and underserved population. Birth 2020;47:135-43.

ปัจจัยเสี่ยงของการหยุดการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่อย่างเดียว

รศ.นพ.ภาวิน พัวพรพงษ์

อัตราการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่อย่างเดียวหกเดือนของประเทศไทยยังอยู่ในเกณฑ์ต่ำกว่าเป้าหมายขององค์การอนามัยโลกคือร้อยละ 50  โดยที่จากการสำรวจของสำนักงานสถิติแห่งชาติร่วมกับองค์กรยูนิเซฟในปี พ.ศ. 2555 พบอัตราการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่อย่างเดียวหกเดือนร้อยละ 12.3 และในปี พ.ศ. 2559 พบร้อยละ 23.1 ซึ่งสัมพันธ์กับตัวชี้วัดอีกตัวหนึ่งคือ การเริ่มต้นให้ลูกกินนมแม่ภายใน 1 ชั่วโมงแรกหลังคลอดที่พบว่ายังอยู่ในอัตราที่ต่ำเช่นกัน การที่บุคลากรทางการแพทย์จะให้สนับสนุนการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่อย่างเดียวควรจะมีความเข้าใจถึงปัจจัยเสี่ยงที่มีผลทำให้เกิดการหยุดการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่อย่างเดียวก่อนหกเดือน เพื่อที่จะนำมาใช้ในการคัดกรอง ติดตาม และดูแลมารดาและทารกในกลุ่มที่มีความเสี่ยงสูง ซึ่งจะช่วยให้มารดาในกลุ่มเสี่ยงนี้มีความสำเร็จในการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่อย่างเดียวหกเดือนสูงขึ้น โดยมีการศึกษาในเอธิโอเปียถึงปัจจัยที่มีความสัมพันธ์กับการหยุดการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่อย่างเดียวก่อนหกเดือน1 ได้แก่

-อายุมารดา มารดาวัยรุ่นจะมีความเสี่ยงในการหยุดการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่อย่างเดียวก่อนหกเดือนเพิ่มขึ้น 5.5 เท่า

-ลำดับครรภ์ มารดาครรภ์แรกจะมีความเสี่ยงในการหยุดการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่อย่างเดียวก่อนหกเดือนเพิ่มขึ้น 2.4 เท่า

-อาชีพของมารดา มารดาที่เป็นข้าราชการจะมีความเสี่ยงในการหยุดการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่อย่างเดียวก่อนหกเดือนเพิ่มขึ้น 4.7 เท่า

-การอ่านออกเขียนได้ของสามี โดยสามีที่ไม่รู้หนังสือจะมีความเสี่ยงที่ภรรยาจะหยุดการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่อย่างเดียวก่อนหกเดือนเพิ่มขึ้น 3.7 เท่า

-การนัดติดตามหลังคลอด มารดาที่ขาดการนัดติดตามหลังคลอดจะมีความเสี่ยงในการหยุดการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่อย่างเดียวก่อนหกเดือนเพิ่มขึ้น 2.6 เท่า

-การรู้และเข้าใจถึงประโยชน์ของการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ การที่มารดาเข้าใจถึงประโยชน์ของการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่น้อยหรือขาดความใจ จะมีความเสี่ยงในการหยุดการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่อย่างเดียวก่อนหกเดือนเพิ่มขึ้น 3.2 เท่า

เอกสารอ้างอิง

1.        Kelkay B, Kindalem E, Tagele A, Moges Y. Cessation of Exclusive Breastfeeding and Determining Factors at the University of Gondar Comprehensive Specialized Hospital, Northwest Ethiopia. Int J Pediatr 2020;2020:8431953.