คลังเก็บหมวดหมู่: การดูแลสุขภาพหลังคลอด
การดูแลสุขภาพหลังคลอด
ทารกที่คลอดโดยการผ่าตัดเสี่ยงต่อการเกิดโรคทางเมตาบอลิกสูงขึ้น
รศ.นพ.ภาวิน พัวพรพงษ์
??????????? ปัจจุบันคนในสังคมมีโรคทางเมตาบอลิกเพิ่มขึ้นจากพฤติกรรมการใช้ชีวิตยุคดิจิทัล โรคทางเมตาบอลิก ได้แก่ โรคเบาหวาน ไขมันในเลือดสูง ซึ่งทำให้ความเสี่ยงต่อโรคหัวใจและโรคทางหลอดเลือดสูงขึ้นที่เป็นหนึ่งในสาเหตุที่พบมากที่สุดของการเสียชีวิตของผู้ใหญ่ มีการศึกษาพบว่า วิธีการคลอดมีผลต่อการเกิดโรคหรือภาวะแทรกซ้อนต่าง ๆ ในทารกได้ โดยทารกที่คลอดโดยการผ่าตัดคลอดจะมีความเสี่ยงที่จะมีการติดเชื้อ ผิวหนังอักเสบ และโรคทางเมตาบอลิกสูงกว่าทารกที่คลอดปกติทางช่องคลอด นอกจากนี้ หากทารกคลอดด้วยวิธีการผ่าตัดคลอดฉุกเฉินจะเพิ่มความเสี่ยงที่จะเกิดโรคทางเมตาบอลิกถึง 2.63 เท่า1 ดังนั้น หากมีการดูแลให้การคลอดมีอัตราการผ่าตัดคลอดที่เหมาะสมตามข้อบ่งชี้ทางการแพทย์ก็จะช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดโรคเมตาบอลิกในทารกซึ่งจะมีความเสี่ยงเพิ่มขึ้นจากพฤติกรรมการใช้ชีวิตในยุคดิจิทัลอยู่แล้ว จึงถือได้ว่าเป็นการป้องกันหรือช่วยลดความเสี่ยงของการเสียชีวิตจากโรคเหล่านี้เมื่อทารกเจริญวัยขึ้น
เอกสารอ้างอิง
- Peters LL, Thornton C, de Jonge A, et al. The effect of medical and operative birth interventions on child health outcomes in the first 28 days and up to 5 years of age: A linked data population-based cohort study. Birth 2018.
การชักนำการคลอดเสี่ยงต่อทารกตัวเหลือง
รศ.นพ.ภาวิน พัวพรพงษ์
??????????? การดูแลการคลอดมีผลต่อทั้งสุขภาพของมารดาและทารก การชักนำการคลอด คือ การกระตุ้นให้มารดามีการเจ็บครรภ์และคลอดบุตรโดยเป็นผลมาจากหลากหลายวิธี ได้แก่ การใช้ยากระตุ้นการหดรัดตัวของมดลูกผ่านเข้าทางเส้นเลือด อมใต้ลิ้น หรือเหน็บช่องคลอด ปัจจุบันมีการชักนำการคลอดสูงขึ้น ซึ่งมีทั้งการชักนำการคลอดตามเหตุผลทางการแพทย์และการชักนำการคลอดด้วยเหตุอื่น ๆ เช่น การดูฤกษ์ยาม การเลือกเวลาที่สะดวกหรือว่างของแพทย์ หลังการชักนำการคลอด ส่วนหนึ่งของมารดาจะคลอดได้ทางช่องคลอด โดยมีที่เหลืออาจต้องใช้หัตถการในการทำคลอดคือใช้คีมหรือเครื่องดูดสุญญากาศหรือการผ่าตัดคลอดเพิ่มขึ้น ผลที่ตามมาหลังจากการคลอดโดยหัตถการก็คือ การพบทารกตัวเหลืองสูงขึ้นถึง 2.75 เท่าของทารกที่คลอดปกติ1 ซึ่งเมื่อทารกมีภาวะตัวเหลืองก็มีความจำเป็นต้องได้รับการดูแลเฉพาะ อาจจำเป็นต้องรักษาด้วยการส่องไฟหรือการถ่ายเลือดทำให้อาจขัดขวางการโอบกอดทารกเนื้อแนบเนื้อในระยะแรกหลังคลอด ผลจึงกระทบถึงการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ด้วย
เอกสารอ้างอิง
- Peters LL, Thornton C, de Jonge A, et al. The effect of medical and operative birth interventions on child health outcomes in the first 28 days and up to 5 years of age: A linked data population-based cohort study. Birth 2018.
ปัจจัยที่ช่วยและขัดขวางการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่อย่างเดียว
รศ.นพ.ภาวิน พัวพรพงษ์
??????????? อัตราการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่อย่างเดียวในประเทศไทยยังคงต่ำกว่าเป้าหมายที่มีการกำหนดไว้คือร้อยละ 50 ซึ่งมีการศึกษาถึงปัจจัยที่มีส่วนช่วยและปัจจัยที่เป็นอุปสรรคขัดขวางการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่อย่างเดียวในคนไทยในภาคอีสาน ที่จังหวัดขอนแก่น พบว่า ปัจจัยที่มีส่วนช่วยในการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่อย่างเดียว คือ ความรู้เรื่องการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ของมารดา ความตั้งใจในการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ และสื่อในสังคม ปัจจัยที่เป็นอุปสรรคขัดขวางการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่อย่างเดียว คือ การรับรู้เรื่องการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ การต้องกลับไปทำงานของมารดา และการส่งเสริมการเลี้ยงลูกด้วยนมผงดัดแปลงสำหรับทารก สำหรับปัจจัยที่อาจเป็นทั้งปัจจัยที่มีส่วนช่วยหรือปัจจัยที่เป็นอุปสรรคขัดขวาง ได้แก่ ครอบครัว บุคลากรทางสาธารณสุข และธรรมเนียมปฏิบัติในการเลี้ยงดูทารก1 แม้ว่าการศึกษานี้จะทำในภาคอีสาน แต่ข้อมูลน่าจะนำมาเทียบเคียงและใช้ในการวางแผนในการส่งเสริมการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่อย่างเดียวในภาคอื่น ๆ และอาจเป็นแนวทางในการศึกษาเพิ่มเติมในรายละเอียดที่อาจเป็นประโยชน์ต่อภาพรวมของประเทศไทยได้
เอกสารอ้างอิง
- Thepha T, Marais D, Bell J, Muangpin S. Perceptions of northeast Thai breastfeeding mothers regarding facilitators and barriers to six-month exclusive breastfeeding: focus group discussions. International Breastfeeding Journal 2018;13:14.
การรักษาเต้านมอักเสบ
รศ.นพ.ภาวิน พัวพรพงษ์
??????????? เมื่อสาเหตุหลักของการเกิดเต้านมอักเสบคือ การมีการขังหรือขาดการระบายของน้ำนมออกจากเต้านม ซึ่งอาจเกิดจากการเว้นระยะของการให้ลูกดูดนมนาน โดยเกิดเนื่องจากการต้องมีการแยกกันระหว่างมารดาหรือทารกขณะที่มีอาการเจ็บป่วยหรือในช่วงที่มารดาต้องไปทำงานและไม่ได้ให้นมลูก การรักษาจึงใช้หลักการแก้ไขสาเหตุคือ การช่วยให้มีการระบายของน้ำนมออกจากเต้านม วิธีที่ดีที่สุดก็คือ การระบายน้ำนมจากเต้านมโดยให้ลูกดูดนมจากเต้าของมารดา รองลงมาอาจใช้การบีบน้ำนมด้วยมือหรือการปั๊มนมด้วยเครื่องปั๊มนม การนวดหรือการประคบร้อนจะช่วยให้ท่อน้ำนมขยายและระบายได้ดีขึ้น1 จึงอาจใช้วิธีเหล่านี้ร่วมกันกับการกินยาลดอาการปวดซึ่งมักพบว่ามารดามีอาการปวดร่วมด้วย สำหรับการใช้ยาปฏิชีวนะ แนะนำให้ใช้ในกรณีที่คิดว่าการอักเสบของเต้านมมีการติดเชื้อแบคทีเรียร่วมด้วย โดยหากมารดามีหัวนมแตกหรือแผลที่หัวนม หรือมารดามีไข้สูงนานกว่า 24 ชั่วโมง ควรพิจารณาการใช้ยาปฏิชีวนะ ยาปฏิชีวนะที่มักใช้ในการรักษาอาการเต้านมอักเสบจากการติดเชื้อ ได้แก่ cloxacillin โดยให้ยารักษานาน 7-10 วัน หากมารดามีการแพ้ยาเพนนิซิลิน อาจพิจารณาการใช้ยา cephalexin แทน ในระหว่างให้การรักษามารดายังคงให้นมลูกได้ และควรที่จะให้นมลูกอย่างต่อเนื่องเพื่อเป็นการลดการขังของน้ำนม ลักษณะของน้ำนมในขณะมีเต้านมอักเสบ รสชาติของน้ำนมอาจเปลี่ยนแปลงไป โดยมีรสอูมามิ ลูกสามารถกินนมนี้ได้โดยปราศจากอันตราย
เอกสารอ้างอิง
- Khanal V, Scott JA, Lee AH, Binns CW. Incidence of Mastitis in the Neonatal Period in a Traditional Breastfeeding Society: Results of a Cohort Study. Breastfeed Med 2015;10:481-7.