รศ.นพ.ภาวิน พัวพรพงษ์
กลุ่มผู้ฟังเป้าหมาย? บุคลากรที่ไม่ใช่สายการแพทย์ที่รับผิดชอบในการช่วยเหลือการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ ได้แก่ เสมียน ธุรการ ผู้ปฏิบัติงานบริหาร เจ้าหน้าที่ห้องปฏิบัติการ แม่บ้าน พนักงานทำความสะอาด พนักงานเก็บของ พนักงานเคลื่อนย้ายผู้ป่วย และเจ้าหน้าที่ในสายงานอื่นๆ
ระยะเวลาการปฐมนิเทศ15-20 นาที
วัตถุประสงค์ เมื่อสิ้นสุดการปฐมนิเทศแล้ว ผู้เข้าร่วมรับฟังสามารถ
??????????? -ชี้ว่าจุดใดที่มีติดประกาศนโยบายการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่และสิ่งสนับสนุนในการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่
??????????? -บอกเหตุผลของความสำคัญในการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ 2 เหตุผล
??????????? -บอกการฝึกปฏิบัติที่ช่วยสนับสนุนการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ 2 อย่าง
??????????? -บอกสิ่งที่ควรกระทำหรือควรหลีกเลี่ยงในงานของตนเองที่จะช่วยสนับสนุนการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ 2 สิ่ง
ประเด็นสำคัญ
??????????? -การเลี้ยงลูกด้วยนมแม่สำคัญต่อสุขภาพมารดาและทารกทั้งในระยะสั้นและระยะยาว โดยแนะนำให้เลี้ยงลูกด้วยนมแม่อย่างเดียวในหกเดือนแรก ซึ่งหมายถึง ไม่ให้อาหาร เครื่องดื่ม หรือสิ่งอื่นใดเสริมนอกเหนือจากนมแม่ การเริ่มอาหารเสริมควรเริ่มหลังจากหกเดือนไปแล้ว ระยะนี้นมแม่ยังมีประโยชน์และสามารถให้ต่อเนื่องได้อย่างน้อยสองปี
??????????? -มารดาและทารกที่ไม่ได้มีการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ควรได้รับการดูแลสุขภาพเพิ่มเติม
??????????? -มารดาส่วนใหญ่สามารถเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ได้
??????????? -หากหญิงตั้งครรภ์หรือมารดาถามคำถามเกี่ยวกับการเลี้ยงดูทารก แนะนำให้ปรึกษาผู้ชำนาญทางให้คำแนะนำทางด้านนี้ ได้แก่ พยาบาล ผดุงครรภ์หรือแพทย์
??????????? -สิ่งอำนวยความสะดวกที่จะช่วยสนับสนุนการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ตามนโยบายการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่
??????????? -การปฏิบัติจริงในโรงพยาบาลจะช่วยให้การดูแลมารดาและทารกในการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ดีขึ้น โดยใช้หลักแนวทางการปฏิบัติที่ดีของโรงพยาบาลสายสัมพันธ์แม่ลูก
ในการปฏิบัติงานของท่าน สิ่งเหล่านี้จะรวมถึง
-การไม่ให้มีการโฆษณานมผสม ขวดนม หรือจุกนมเทียมในสถานพยาบาล รวมถึงไม่รับปากกา ปฏิทิน วารสาร วัสดุทางการตลาดอื่นๆ หรือของขวัญจากบริษัทนมผสม ขวดนม หรือจุกนมเทียม ไม่มีการรับตัวอย่างนมผสม ขวดนม หรือจุกนมเทียม ไม่มีการตั้งแสดงขวดนมในหอผู้ป่วยหรือร้านค้าในบริเวณโรงพยาบาลซึ่งจะทำให้พ่อแม่เข้าใจผิดเกี่ยวกับว่าโรงพยาบาลสนับสนุนการใช้ขวดนม และต้องช่วยกันสอดส่องดูแลให้โรงพยาบาลเป็นพื้นที่ปลอดการโฆษณาหรือการตลาดของสินค้าเหล่านี้ โดยหากพบเห็นควรมีการแจ้งผู้ดูแลเรื่องนโยบายนมแม่ของโรงพยาบาลที่เบอร์โทรศัพท์ติดต่อที่มีการแจ้งให้บุคลากรทราบไว้ในการประกาศนโยบาย
-การจัดสิ่งแวดล้อมและสิ่งอำนวยความสะดวกที่บ่งถึงว่า นมแม่เป็นอาหารธรรมชาติที่ดีที่สุดและเหมาะสมสำหรับทารก
-มารดาจะได้รับการสนับสนุนให้เลี้ยงลูกด้วยนมแม่ในทุกกรณีไม่ว่าจะเป็นผู้ป่วย ผู้มาเยี่ยม หรือบุคลากรของโรงพยาบาล มารดาสามารถจะให้ลูกกินนมแม่ในทุกที่ของโรงพยาบาลหรืออาจจะเลือกที่จะใช้สถานที่ที่จัดเครื่องอำนวยความสะดวกไว้ให้นมแม่ ได้แก่ มุมนมแม่ หากมารดาเป็นบุคลากรควรมีการสนับสนุนให้มีการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่หลังจากกลับมาจากการลาพักหลังคลอดแล้ว โดยอาจมีเวลาพักให้บีบหรือปั๊มเก็บนมแม่ มีตู้เย็นเก็บรักษานมแม่ หรือมีนโยบายสนับสนุนอื่นๆ ที่เจ้าหน้าที่ฝ่ายบุคคลจะแนะนำเมื่อบุคลากรขอลาคลอด
-ถ้างานของท่านต้องติดต่อกับมารดาและทารกที่เลี้ยงลูกด้วยนมแม่ ควรจัดแนวทางการปฏิบัติหรือกิจกรรมส่งเสริม เช่น การยิ้ม การให้การช่วยเหลือ การจัดเก้าอี้นั่งที่เหมาะสม จัดน้ำดื่มไว้บริการมารดา ซึ่งจะช่วยบ่งบอกว่าการที่มารดาเลี้ยงลูกด้วยนมแม่เป็นสิ่งที่ดีและน่าชื่นชม
-หากงานของท่านอยู่ในพื้นที่ให้บริการของมารดาและทารก ควรมีการเตรียมการให้ข้อมูลที่จำเพาะ เช่น การให้ข้อมูลในกรณีที่มีการสอบถามเกี่ยวกับนมผสม หรือเมื่อพบเห็นมารดามีปัญหาหรือความลำบากในการให้ลูกดูดนม การเตรียมตอบคำถามหรือให้ข้อแนะนำที่เหมาะสมไว้ล่วงหน้าจะทำให้การให้บริการด้วยความมั่นใจและภาคภูมิใจในการสนับสนุนการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่
-ถ้าท่านต้องการข้อมูลเรื่องการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่เพิ่มเติม หรือต้องการปรึกษาปัญหาเรื่องการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ ท่านสามารถขอข้อมูลเพิ่มเติมได้จาก…(รายชื่อผู้เชี่ยวชาญที่ให้คำปรึกษาเรื่องการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ คลินิกนมแม่ หรืออาจเป็นสายด่วนที่ตอบคำถามเรื่องปัญหาการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่)
สุดท้ายควรตอบคำถามทุกคำถามจากผู้รับการฝึกอบรม
หมายเหตุ การจัดการปฐมนิเทศสำหรับบุคลากรเหล่านี้ รูปแบบต้องกระชับ ไม่เป็นทางการ และสัมพันธ์กับลักษณะงานของบุคลากรที่เข้าอบรม ไม่ควรลงรายละเอียดทฤษฎีมากเกินไป เนื่องจากสามารถให้ข้อมูลเพิ่มเติมได้ภายหลัง
หนังสืออ้างอิง
1.????? WHO/UNICEF. BFHI Section 3: Breastfeeding promotion and support in a baby-friendly hospital ? 20-hour course. ?2009