รศ.นพ.ภาวิน พัวพรพงษ์
??????????????? การนัดมารดาและทารกมาติดตามดูแลใน 12 เดือนหลังคลอด จะเป็นการติดตามดูการให้นมลูกของมารดาและสอบถามถึงอุปสรรคต่างๆ ที่จะทำให้ไม่สามารถให้นมแม่ได้อย่างต่อเนื่อง พูดคุยกับมารดาถึงแรงกดดันต่างๆ ที่ต้องการให้มารดาหยุดการให้นมแม่ รวมถึงวิธีการหย่านมหากมารดามีความต้องการ ในระยะนี้ มีข้อแนะนำแนวทางการปฏิบัติสำหรับการดูแลมารดาและทารก ดังนี้
การประเมินการกินนมแม่
- ลักษณะการกินนมของทารกเป็นอย่างไร
- ทารกหลับในเวลากลางคืนนานไหม
- ลักษณะการกินอาหารของมารดาเป็นอย่างไร
- มารดาได้รับประทานยาใดเป็นประจำหรือไม่
- สมาชิกในครอบครัวรู้สึกอย่างไรเกี่ยวกับการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่
การตรวจมารดาและทารก
- คำนวณน้ำหนักที่เปลี่ยนแปลงจากตั้งแต่เกิด การชั่งก่อนหน้านี้ และการชั่งน้ำหนักในครั้งนี้
- ประเมินน้ำหนักของทารกโดยใช้กราฟติดตามการเจริญเติบโตของทารก
- ตรวจร่างกายทารกโดยทั่วไปตามระบบ
- ควรมีการตรวจความเข้มข้นของเลือดของทารก เพื่อตรวจสอบภาวะซีดจากการขาดธาตุเหล็ก
- สังเกตมารดาขณะให้นมลูก หากทารกมีน้ำหนักขึ้นไม่เหมาะสม ลูกปฏิเสธการกินนมหรือมารดามีความวิตกกังวล
คำแนะนำที่ให้
- ปกติมารดาควรให้นมทารก 4-8 ครั้งใน 24 ชั่วโมง
- ทบทวนความสำคัญของการให้ลูกกินนมแม่อย่างต่อเนื่อง
- พูดคุยกับมารดาเรื่องการรับประทานธาตุเหล็กเสริม แนะนำให้ทารกกินชนิดและรสชาติของอาหารที่หลากหลาย
- เสนอแนะให้มารดาป้อนน้ำนมที่บีบเก็บไว้หรืออาหารเสริมที่เป็นน้ำโดยใช้การป้อนด้วยถ้วย
- พูดคุยกับมารดาในกรณีทารกมีฟันขึ้น
- พูดคุยกับมารดาถึงพฤติกรรมของทารกที่เปลี่ยนไป การให้ความสนใจสิ่งแวดล้อมมากขึ้น และอาจมีการปฏิเสธการกินนม
- พูดคุยกับมารดาเรื่องแรงกดดันให้หยุดหรือหย่านมทารกที่อาจเกิดจากคนในครอบครัวหรือเพื่อน
- ทบทวนให้มารดาทราบถึงประโยชน์ในระยะยาวของการให้ลูกกินนมแม่
- หากมารดามีความประสงค์จะหยุดให้นมลูก แนะนำขั้นตอนในการหย่านมทารก
- แนะนำการรับประทานอาหารของมารดา
- แนะนำให้มารดาตรวจเต้านมกับแพทย์
การให้การดูแล
- หากทารกน้ำหนักขึ้นดีตามเกณฑ์และมารดารู้สึกพึงพอใจ การให้การดูแลอื่นๆ ยังไม่มีความจำเป็น
ขั้นตอนที่ควรปฏิบัติก่อนมารดาและทารกกลับบ้าน
- ชื่นชมมารดากับความสำเร็จในการให้ลูกกินนมแม่ โดยเฉพาะหากมารดาสามารถเลี้ยงลูกด้วยนมแม่อย่างเดียวหกเดือน
- แทรกหรือเสริมข้อมูลให้มารดาทราบถึงประโยชน์ของการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่
- ให้กำลังใจให้มารดาให้นมแม่ต่อไปอย่างต่อเนื่อง
- การนัดติดตามดูแลทารกอย่างต่อเนื่องยังมีความจำเป็นในช่วง 15 เดือน 18 เดือน 2 ปี หรือในทารกที่อายุมากกว่า 2 ปีขึ้นไป
เอกสารอ้างอิง
- The American of Obstetricians and Gynecologist, American Academy of Pediatrics. Breastfeeding handbook for physicians. 2nd edition. 2014.
รศ.นพ.ภาวิน พัวพรพงษ์
??????????????? การนัดมารดาและทารกมาติดตามดูแลใน 9 เดือนหลังคลอด จะเป็นการติดตามดูการให้นมลูกของมารดาและสอบถามถึงอุปสรรคต่างๆ ที่จะทำให้ไม่สามารถให้นมแม่ได้อย่างต่อเนื่อง พูดคุยกับมารดาถึงแรงกดดันต่างๆ ที่ต้องการให้มารดาหยุดการให้นมแม่ที่อาจได้รับจากคนในครอบครัวหรือเพื่อน ซึ่งมารดาต้องมีความเข้าใจเพื่อจะได้ปฏิบัติตัวได้อย่างเหมาะสม ในระยะนี้ มีข้อแนะนำแนวทางการปฏิบัติสำหรับการดูแลมารดาและทารก ดังนี้
การประเมินการกินนมแม่
- ลักษณะการกินนมของทารกเป็นอย่างไร
- ทารกได้รับการให้นมแม่ตามความต้องการหรือไม่
- ทารกหลับในเวลากลางคืนนานไหม
- ลักษณะการกินอาหารของมารดาเป็นอย่างไร
- มารดาได้รับประทานยาใดเป็นประจำหรือไม่
- สมาชิกในครอบครัวรู้สึกอย่างไรเกี่ยวกับการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่
การตรวจมารดาและทารก
- คำนวณน้ำหนักที่เปลี่ยนแปลงจากตั้งแต่เกิด การชั่งก่อนหน้านี้ และการชั่งน้ำหนักในครั้งนี้
- ประเมินน้ำหนักของทารกโดยใช้กราฟติดตามการเจริญเติบโตของทารก
- สังเกตมารดาขณะให้นมลูก หากทารกมีน้ำหนักขึ้นไม่เหมาะสมหรือดูดนมได้ไม่ดี
- ตรวจร่างกายทารกโดยทั่วไปตามระบบ
- ควรมีการตรวจความเข้มข้นของเลือดของทารก เพื่อตรวจสอบภาวะซีดจากการขาดธาตุเหล็ก
คำแนะนำที่ให้
- ปกติมารดาควรให้นมทารกน้อยกว่า 6-8 ครั้งใน 24 ชั่วโมง
- ทบทวนความสำคัญของการให้ลูกกินนมแม่อย่างต่อเนื่อง
- พูดคุยกับมารดาการรับประทานธาตุเหล็กเสริม
- เสนอแนะให้มารดาป้อนน้ำนมที่บีบเก็บไว้หรืออาหารเสริมที่เป็นน้ำโดยใช้การป้อนด้วยถ้วย
- พูดคุยกับมารดาในกรณีทารกมีฟันขึ้น
- พูดคุยกับมารดาถึงพฤติกรรมของทารกที่เปลี่ยนไป และอาจมีการปฏิเสธการกินนม
- พูดคุยกับมารดาเรื่องแรงกดดันให้หยุดหรือหย่านมทารกที่อาจเกิดจากคนในครอบครัวหรือเพื่อน
- ทบทวนให้มารดาทราบถึงประโยชน์ในระยะยาวของการให้ลูกกินนมแม่
- แนะนำการรับประทานอาหารของมารดา
- แนะนำให้มารดาตรวจเต้านมกับแพทย์
การให้การดูแล
- หากทารกน้ำหนักขึ้นดีตามเกณฑ์และมารดารู้สึกพึงพอใจ การให้การดูแลอื่นๆ ยังไม่มีความจำเป็น
ขั้นตอนที่ควรปฏิบัติก่อนมารดาและทารกกลับบ้าน
- ชื่นชมมารดากับความสำเร็จในการให้ลูกกินนมแม่ โดยเฉพาะหากมารดาสามารถเลี้ยงลูกด้วยนมแม่อย่างเดียวหกเดือน
- แทรกหรือเสริมข้อมูลให้มารดาทราบถึงประโยชน์ของการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่
- ให้กำลังใจให้มารดาให้นมแม่ต่อไปอย่างต่อเนื่อง
เอกสารอ้างอิง
- The American of Obstetricians and Gynecologist, American Academy of Pediatrics. Breastfeeding handbook for physicians. 2nd edition. 2014.
รศ.นพ.ภาวิน พัวพรพงษ์
??????????????? การนัดมารดาและทารกมาติดตามดูแลใน 6 เดือนหลังคลอด จะเป็นการติดตามดูการให้นมลูกของมารดาและสอบถามถึงอุปสรรคต่างๆ ที่จะทำให้ไม่สามารถให้นมแม่ได้อย่างต่อเนื่องเช่นเดียวกันกับในช่วงระยะ 6 เดือนแรก แต่จะมีการเตรียมมารดาให้พร้อมสำหรับการเริ่มอาหารเสริมตามวัยและเสริมวิตามินและแร่ธาตุต่างๆ ของทารกที่ทารกอาจขาดเนื่องจากอยู่ในพื้นที่ที่มีความเสี่ยงในการขาดสารอาหารเหล่านี้ ในระยะนี้ มีข้อแนะนำแนวทางการปฏิบัติสำหรับการดูแลมารดาและทารก ดังนี้
การประเมินการกินนมแม่
- ลักษณะการกินนมของทารกเป็นอย่างไร
- ทารกได้รับการให้นมแม่ตามความต้องการหรือไม่
- ทารกได้รับอาหารอื่นใดเสริมนอกเหนือจากนมแม่หรือไม่
- ทารกหลับในเวลากลางคืนนานไหม
- มารดารู้สึกอย่างไรในการให้นมแม่
- มารดาคิดว่าน้ำนมของตนเองเป็นอย่างไร
- ลักษณะการกินอาหารของมารดาเป็นอย่างไร
- สมาชิกในครอบครัวรู้สึกอย่างไรเกี่ยวกับการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่
การตรวจมารดาและทารก
- คำนวณน้ำหนักที่เปลี่ยนแปลงจากตั้งแต่เกิด การชั่งก่อนหน้านี้ และการชั่งน้ำหนักในครั้งนี้
- ทารกควรจะมีน้ำหนักเพิ่มขึ้น 140-200 กรัมต่อสัปดาห์
- สังเกตมารดาขณะให้นมลูก หากทารกมีน้ำหนักขึ้นไม่เหมาะสมหรือดูดนมได้ไม่ดี
- ตรวจร่างกายทารกโดยทั่วไปตามระบบ
- ควรมีการตรวจคัดกรองอาการซึมเศร้าในมารดา
คำแนะนำที่ให้
- อธิบายให้มารดาเข้าใจถึงความสำคัญของการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่อย่างเดียวในช่วงหกเดือนแรกหลังคลอด
- ทบทวนความสำคัญของการให้ลูกกินนมแม่อย่างต่อเนื่อง
- พูดคุยกับมารดาถึงการเริ่มอาหารเสริมตามวัย
- เสนอแนะให้มารดาป้อนน้ำนมที่บีบเก็บไว้หรืออาหารเสริมที่เป็นน้ำโดยใช้การป้อนด้วยถ้วย
- พูดคุยกับมารดาการรับประทานธาตุเหล็กเสริม
- พูดคุยกับมารดาในกรณีทารกมีฟันขึ้น
- พูดคุยกับมารดาว่าทารกอาจจะมีความสนใจสิ่งรอบข้างมากขึ้น และอาจถูกกระตุ้นจากสิ่งเร้าให้ไปสนใจในระหว่างการกินนมได้
- แนะนำเรื่องอาหารสำหรับมารดา
- แนะนำการเสริมฟลูออไรด์ หากมีข้อบ่งชี้
- แนะนำให้มารดาตรวจเต้านมกับแพทย์
การให้การดูแล
- หากมีสาเหตุที่ทำให้น้ำนมไม่เพียงพอ พยายามแก้ไขสาเหตุก่อนการให้อาหารเสริมอื่นๆ
- หากมีปัญหาต่อเนื่องที่เป็นอุปสรรคในการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ พิจารณาส่งต่อผู้เชี่ยวชาญ
ขั้นตอนที่ควรปฏิบัติก่อนมารดาและทารกกลับบ้าน
- ชื่นชมมารดากับความสำเร็จในการให้ลูกกินนมแม่
- แทรกหรือเสริมข้อมูลให้มารดาทราบถึงประโยชน์ของการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่
- ให้กำลังใจให้มารดาให้นมแม่ต่อไปอย่างต่อเนื่อง
เอกสารอ้างอิง
- The American of Obstetricians and Gynecologist, American Academy of Pediatrics. Breastfeeding handbook for physicians. 2nd edition. 2014.
รศ.นพ.ภาวิน พัวพรพงษ์
??????????????? การนัดมารดาและทารกมาติดตามดูแลใน 4 เดือนหลังคลอด จะเป็นการติดตามดูการให้นมลูกของมารดาและสอบถามถึงอุปสรรคต่างๆ ที่จะทำให้ไม่สามารถให้นมแม่ได้อย่างต่อเนื่อง เช่นเดียวกันกับในช่วงระยะ 1-2 เดือน แนะนำการเปลี่ยนแปลงต่างๆ ของทารก และคัดกรองมารดาที่มีภาวะซึมเศร้า ในระยะนี้ มีข้อแนะนำแนวทางการปฏิบัติสำหรับการดูแลมารดาและทารก ดังนี้
การประเมินการกินนมแม่
- ลักษณะการกินนมของทารกเป็นอย่างไร
- ทารกได้รับการให้นมแม่ตามความต้องการหรือไม่
- ทารกได้รับอาหารอื่นใดเสริมนอกเหนือจากนมแม่หรือไม่
- ทารกหลับในเวลากลางคืนนานไหม
- มารดารู้สึกอย่างไรในการให้นมแม่
- มารดาคิดว่าน้ำนมของตนเองเป็นอย่างไร
- ลักษณะการกินอาหารของมารดาเป็นอย่างไร
- สมาชิกในครอบครัวรู้สึกอย่างไรเกี่ยวกับการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่
การตรวจมารดาและทารก
- คำนวณน้ำหนักที่เปลี่ยนแปลงจากตั้งแต่เกิด การชั่งก่อนหน้านี้ และการชั่งน้ำหนักในครั้งนี้
- ทารกควรจะมีน้ำหนักเพิ่มขึ้น 140-200 กรัมต่อสัปดาห์
- สังเกตมารดาขณะให้นมลูก หากทารกมีน้ำหนักขึ้นไม่เหมาะสมหรือดูดนมได้ไม่ดี
- ตรวจร่างกายทารกโดยทั่วไป
- ควรมีการตรวจคัดกรองอาการซึมเศร้าในมารดา
คำแนะนำที่ให้
- อธิบายให้มารดาเข้าใจถึงความสำคัญของการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่อย่างเดียวในช่วงหกเดือนแรกหลังคลอด
- แนะนำให้มารดาให้นมทารก 6-12 ครั้งต่อวัน และตามความต้องการของทารก
- การให้นมแม่ในช่วงกลางคืน ปกติควรให้ 1-2 ครั้ง
- อธิบายถึงจำนวนครั้งของอุจจาระปกติของทารกที่อาจจะลดลง
- พูดคุยกับมารดาการรับประทานธาตุเหล็กเสริม
- พูดคุยกับมารดาในกรณีทารกมีฟันขึ้น
- พูดคุยกับมารดาว่าทารกอาจจะมีความสนใจสิ่งรอบข้างมากขึ้น และอาจถูกกระตุ้นจากสิ่งเร้าให้ไปสนใจในระหว่างการกินนมได้
- แนะนำเรื่องอาหารสำหรับมารดา
- พูดคุยกับมารดาถึงแผนการกลับไปทำงานของมารดาว่า จะเริ่มเมื่อไร สามารถให้นมทารกขณะทำงานได้หรือไม่ หรืออาจต้องใช้วิธีการบีบเก็บน้ำนม
- แนะนำเรื่องการใช้ยาเบื้องต้นที่มักมีการใช้บ่อยๆ ซึ่งยาเหล่านี้หาซื้อได้ตามร้านขายยาทั่วไป เช่น ยาลดไข้ ยาแก้ปวด ยาบรรเทาอาการหวัด
การให้การดูแล
- หากมีสาเหตุที่ทำให้น้ำนมไม่เพียงพอ พยายามแก้ไขสาเหตุก่อนการให้อาหารเสริมอื่นๆ
- หากมีปัญหาต่อเนื่องที่เป็นอุปสรรคในการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ พิจารณาส่งต่อผู้เชี่ยวชาญ
ขั้นตอนที่ควรปฏิบัติก่อนมารดาและทารกกลับบ้าน
- ชื่นชมมารดากับความสำเร็จในการให้ลูกกินนมแม่
- แทรกหรือเสริมข้อมูลให้มารดาทราบถึงประโยชน์ของการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่
- ให้กำลังใจให้มารดาให้นมแม่ต่อไปอย่างต่อเนื่อง
เอกสารอ้างอิง
- The American of Obstetricians and Gynecologist, American Academy of Pediatrics. Breastfeeding handbook for physicians. 2nd edition. 2014.
รศ.นพ.ภาวิน พัวพรพงษ์
??????????????? การนัดมารดาและทารกมาติดตามดูแลใน 2 เดือนหลังคลอด จะเป็นการติดตามดูการให้นมลูกของมารดาและสอบถามถึงอุปสรรคต่างๆ ที่จะทำให้ไม่สามารถให้นมแม่ได้อย่างต่อเนื่อง เช่นเดียวกันกับในช่วงระยะ 1 เดือน และเตรียมมารดาบางคนที่จะกลับไปทำงานให้มีความพร้อมในการคงให้นมลูก ในระยะนี้ มีข้อแนะนำแนวทางการปฏิบัติสำหรับการดูแลมารดาและทารก ดังนี้
??????????????? การประเมินการกินนมแม่
- ลักษณะการกินนมของทารกเป็นอย่างไร
- ทารกได้รับการให้นมแม่ตามความต้องการหรือไม่
- ทารกได้รับอาหารอื่นใดเสริมนอกเหนือจากนมแม่หรือไม่
- มารดารู้สึกอย่างไรในการให้นมแม่
- มารดาคิดว่าน้ำนมของตนเองเป็นอย่างไร
- ลักษณะการกินอาหารของมารดาเป็นอย่างไร
- มารดาได้งดอาหารใดระหว่างการให้นมบุตรหรือไม่
- สมาชิกในครอบครัวรู้สึกอย่างไรเกี่ยวกับการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่
? ? ? ? ? ? ? ? การตรวจมารดาและทารก
- คำนวณน้ำหนักที่เปลี่ยนแปลงจากตั้งแต่เกิด การชั่งก่อนหน้านี้ และการชั่งน้ำหนักในครั้งนี้
- ทารกควรจะมีน้ำหนักเพิ่มขึ้น 140-200 กรัมต่อสัปดาห์
- สังเกตมารดาขณะให้นมลูก หากทารกมีน้ำหนักขึ้นไม่เหมาะสมหรือดูดนมได้ไม่ดี
- ตรวจร่างกายทารกโดยทั่วไป
? ? ? ? ? ? ? ? ?คำแนะนำที่ให้
- อธิบายให้มารดาเข้าใจถึงความสำคัญของการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่อย่างเดียวในช่วงหกเดือนแรกหลังคลอด
- แนะนำให้มารดาให้นมทารก 8-12 ครั้งต่อวัน และตามความต้องการของทารก
- การให้นมแม่ในช่วงกลางคืน ปกติควรให้ 1-2 ครั้ง
- อธิบายถึงจำนวนครั้งของอุจจาระปกติของทารกที่อาจจะลดลง
- พูดคุยกับมารดาในกรณีที่ทารกมีฟันขึ้น
- อธิบายถึงความเสี่ยงของการใช้จุกนมหลอกและควรหลีกเลี่ยงการใช้จุกนมหลอก
- แนะนำเรื่องอาหารสำหรับมารดา
- พูดคุยกับมารดาถึงแผนการกลับไปทำงานของมารดาว่า จะเริ่มเมื่อไร สามารถให้นมทารกขณะทำงานได้หรือไม่ หรืออาจต้องใช้วิธีการบีบเก็บน้ำนม
- แนะนำเรื่องการใช้ยาเบื้องต้นที่มักมีการใช้บ่อยๆ ซึ่งยาเหล่านี้หาซื้อได้ตามร้านขายยาทั่วไป เช่น ยาลดไข้ ยาแก้ปวด ยาบรรเทาอาการหวัด
? ? ? ? ? ? ? ? ? ?การให้การดูแล
- หากมีสาเหตุที่ทำให้น้ำนมไม่เพียงพอ พยายามแก้ไขสาเหตุก่อนการให้อาหารเสริมอื่นๆ
- หากมีปัญหาต่อเนื่องที่เป็นอุปสรรคในการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ พิจารณาส่งต่อผู้เชี่ยวชาญ
? ? ? ? ? ? ? ? ?ขั้นตอนที่ควรปฏิบัติก่อนมารดาและทารกกลับบ้าน
- ชื่นชมมารดากับความสำเร็จในการให้ลูกกินนมแม่
- แทรกหรือเสริมข้อมูลให้มารดาทราบถึงประโยชน์ของการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่
- ให้กำลังใจให้มารดาให้นมแม่ต่อไปอย่างต่อเนื่อง
เอกสารอ้างอิง
- The American of Obstetricians and Gynecologist, American Academy of Pediatrics. Breastfeeding handbook for physicians. 2nd edition. 2014.
แหล่งความรู้ เกี่ยวกับสูติ-นรีเวช (Obstetrics-Gynecology)