รศ.นพ.ภาวิน พัวพรพงษ์
การที่มารดาที่ให้ลูกกินนมแม่แล้วลดความเสี่ยงในการเกิดโรคความดันโลหิตสูง มีคำอธิบายจาก 3 สมมติฐาน ได้แก่
การตั้งค่าใหม่ (reset hypothesis) 1 คือ ร่างกายของมารดาจะมีการตั้งค่าการเผาพลาญอาหารใหม่ขณะที่มีการให้นมลูก ซึ่งการตั้งค่าใหม่นี้จะลดการสะสมไขมัน ลดการผลิตอินซูลิน ลดความต้านทานอินซูลิน (insulin resistance) และลดไขมันในกระแสเลือด ซึ่งจะเป็นทิศทางตรงกันข้ามกับการเผาพลาญอาหารของร่างกายขณะตั้งครรภ์ โดยผลที่เกิดขึ้นจะทำให้มารดาลดความเสี่ยงในการเกิดโรคทางเมตาบอลิกรวมทั้งโรคเบาหวานและความดันโลหิตสูง นอกจากนี้ ยังมีผลต่อน้ำหนักของมารดาที่ลดลงหลังคลอด และสัดส่วนปริมาณไขมันที่สะสมในร่างกายมารดา ซึ่งลดลงด้วย
การหลั่งฮอร์โมนออกซิโตซิน 2 ซึ่งได้รับการกระตุ้นจากการดูดนมของทารก โดยฮอร์โมนออกซิโตซินจะทำหน้าที่ต่อต้านการเปลี่ยนแปลงของหลอดเลือด ซึ่งจะลดการเกิดโรคความดันโลหิตสูง
การลดลงของ ghrelin และโปรตีนเปปไทด์ YY (protein peptide YY) 2 ซึ่งเป็นฮอร์โมนที่หลั่งจากทางเดินอาหารที่จะถูกกระตุ้นโดยการให้นมลูก โดยฮอร์โมนเหล่านี้จะออกฤทธิ์ควบคุมการอยากอาหาร ซึ่งจะมีผลต่อพฤติกรรมการกิน และลดการเกิดโรคความดันโลหิตสูง
เอกสารอ้างอิง
Stuebe AM, Rich-Edwards JW. The reset hypothesis: lactation and maternal metabolism. Am J Perinatol 2009;26:81-8.
Park S, Choi NK. Breastfeeding and Maternal Hypertension. Am J Hypertens 2018;31:615-21.
รศ.นพ.ภาวิน พัวพรพงษ์
มารดาที่ให้ลูกกินนมแม่จะมีผลดี ซึ่งพบว่าสามารถลดความเสี่ยงในการเกิดโรคความดันโลหิตสูงถึงร้อยละ 10-25 ในช่วงระยะเวลา 7 ปีหลังการคลอด มารดาที่ให้ลูกกินนมแม่นานจะลดความเสี่ยงได้มากกว่ามารดาที่ให้ลูกกินนมแม่ในช่วงเวลาสั้น1 มารดาที่ให้ลูกกินนมแม่หนึ่งคนจะลดความเสี่ยงในการเกิดโรคความดันโลหิตสูงร้อยละ 10 และมารดาที่มีระยะเวลาที่ลูกกินนมแม่นานหนึ่งปีจะลดความเสี่ยงในการเกิดโรคความดันโลหิตสูงร้อยละ 4 เมื่อมารดาอยู่ในวัยหลังหมดประจำเดือน 2
เอกสารอ้างอิง
Kirkegaard H, Bliddal M, Stovring H, et al. Breastfeeding and later maternal risk of hypertension and cardiovascular disease – The role of overall and abdominal obesity. Prev Med 2018;114:140-8.
Park S, Choi NK. Breastfeeding and Maternal Hypertension. Am J Hypertens 2018;31:615-21.
รศ.นพ.ภาวิน พัวพรพงษ์
ผลระยะยาวของโรคความดันโลหิตสูงเรื้อรังในระหว่างการตั้งครรภ์ต่อทารก พบว่าทารกเพศชายที่มีมารดามีโรคความดันโลหิตสูงเรื้อรังระหว่างตั้งครรภ์จะมีความผิดปกติทางจิตที่รุนแรงที่ต้องการการรับการรักษาจากโรงพยาบาลหรือเป็นสาเหตุให้เกิดการตายสูงกว่า ความล้มเหลวของการเรียนรู้ (cognitive failure) มากกว่า ความสามารถด้านความฉลาดต่ำกว่าที่อายุ 20 ปี และมีการเสื่อมของการเรียนรู้เมื่อเข้าสู่วัยสูงอายุมากกว่า และยังพบว่าทารกที่มีมารดามีโรคความดันโลหิตสูงเรื้อรังระหว่างตั้งครรภ์มีผลกระทบต่อพัฒนาการของการเคลื่อนไหว (motor development) ที่อายุ 14 ปี1
เอกสารอ้างอิง
Battarbee AN, Sinkey RG, Harper LM, Oparil S, Tita ATN. Chronic Hypertension in Pregnancy. Am J Obstet Gynecol 2019.
รศ.นพ.ภาวิน พัวพรพงษ์
ผลระยะยาวของโรคความดันโลหิตสูงเรื้อรังในระหว่างการตั้งครรภ์ต่อมารดา มารดาที่มีโรคความดันโลหิตสูงเรื้อรังที่พบก่อนหรือระหว่างการตั้งครรภ์ในระยะยาวจะพบมีการตายจากโรคหัวใจและหลอดเลือดสูงขึ้น 1.2-3.5 เท่า1 เมื่อเทียบกับมารดาที่มีความดันโลหิตปกติ สำหรับการให้การดูแลรักษาโรคความดันโลหิตสูงเรื้อรังในระหว่างการตั้งครรภ์จะส่งผลในการลดการตายจากภาวะโรคหัวใจและหลอดเลือดยังขาดข้อมูลที่ศึกษาในเรื่องนี้
เอกสารอ้างอิง
Battarbee AN, Sinkey RG, Harper LM, Oparil S, Tita ATN. Chronic Hypertension in Pregnancy. Am J Obstet Gynecol 2019.
รศ.นพ.ภาวิน พัวพรพงษ์
การที่มารดามีโรคความดันโลหิตสูงเรื้อรังจะทำให้มารดามีภาวะแทรกซ้อนระหว่างการตั้งครรภ์สูงขึ้น ได้แก่ การมีเบาหวานระหว่างการตั้งครรภ์ การมีภาวะครรภ์เป็นพิษเสริมร่วมกับโรคความดันโลหิตสูงที่มีอยู่เดิม ทำให้มารดามีโอกาสผ่าตัดคลอดเพิ่มขึ้น พบการตกเลือดหลังคลอดสูงขึ้น และหากมารดาภาวะแทรกซ้อนของความดันโลหิตสูงมากร่วมด้วย อาจพบภาวะความดันในปอดสูง (pulmonary hypertension) การทำงานของไตที่ผิดปกติหรือล้มเหลว โรคหลอดเลือดสมอง โดยหากมีความรุนแรงอาจทำให้มารดาเสียชีวิตได้ สำหรับผลที่เกิดกับทารกพบการคลอดก่อนกำหนด ทารกในครรภ์เจริญเติบโตช้า ทารกจำเป็นต้องแยกจากมารดาไปอยู่ที่หอผู้ป่วยทารกวิกฤต และความพิการของทารกเพิ่มขึ้น ได้แก่ การมีความผิดปกติของหัวใจ การมีท่อเปิดของท่อทางเดินปัสสาวะต่ำ (hypospadias) และการมีหลอดอาหารอุดตัน (esophageal atresia)1
ภาวะแทรกซ้อนที่พบในระหว่างการตั้งครรภ์และการคลอดจะส่งผลทำให้มารดามีการเริ่มการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ได้ช้า และมีโอกาสที่จะหยุดการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ก่อนเวลาอันควร สำหรับยาที่เลือกใช้ในระยะหลังคลอดในช่วงให้นมบุตร สามารถเลือกใช้ยาได้หลากหลายกลุ่ม โดยการเลือกใช้และข้อควรระมัดระวังในการใช้ดังรายละเอียดที่เขียนบรรยายไว้แล้วในหัวข้อมารดาที่มีภาวะครรภ์เป็นพิษที่มีความดันโลหิตสูงที่ต้องใช้ยารับประทานต่อเนื่องหลังคลอด
เอกสารอ้างอิง
ACOG Practice Bulletin No. 203: Chronic Hypertension in Pregnancy. Obstet Gynecol 2019;133:e26-e50.
เรื่องนำทาง
แหล่งความรู้ เกี่ยวกับสูติ-นรีเวช (Obstetrics-Gynecology)