หนังสือความรู้เกี่ยวกับข้อมูลการสนับสนุนการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ที่มีความครบถ้วน ทันสมัยและครอบคลุมทุกมิติ เหมาะสมสำหรับแพทย์ บุคลากรทางการแพทย์ และผู้ที่สนใจที่จะศึกษาและทำการวิจัยในเรื่องการเลี่้ยงลูกด้วยนมแม่ โดยนำเสนอทั้งประวัติศาสตร์ ความเชื่อ การป้องกัน ส่งเสริม สนับสนุน และการบริหารจัดการการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ รวมทั้งให้ความรู้เรื่องหลักเกณฑ์การลาพักหลังคลอด กฎหมายที่เกี่ยวข้อง และมี QR code เชื่อมโยงแสดงวิดีโอของไทยที่ผลิตขึ้นเพื่อเพิ่มความรู้ความเข้าใจจากภาพเคลื่อนไหวพร้อมคำบรรยายจากอินเตอร์เน็ต
มีจำหน่ายเป็น ebook โดยเข้าไปเว็บไซด์ http://www.chulabook.com/description_ebook.asp?barcode=9786165682510 หรือดาวน์โหลดแอป ศูนย์หนังสือจุฬาในมือถือ ที่https://play.google.com/store/apps/details?id=com.askmedia.chulabook แล้วค้นชื่อหนังสือรอบรู้เรื่องการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่
VIDEO
แนะนำขั้นตอนและเทคนืคการบีบน้ำนมด้วยมือ พร้อมแสดงตัวอย่าง
รศ.นพ.ภาวิน พัวพรพงษ์
ประโยชน์ของการโอบกอดทารกเนื้อแนบเนื้อมีหลายอย่าง ได้แก่ ช่วยในการเริ่มต้นการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ ช่วยป้องกันทารกตัวเย็น (hypothermia) ช่วยให้ทารกอบอุ่น/ลดการใช้พลังงานของทารกซึ่งจะช่วยป้องกันทารกเกิดภาวะน้ำตาลต่ำ ช่วยสร้างสายสัมพันธ์ระหว่างมารดาและทารก นอกจากนี้ มีการศึกษาในสหรัฐอเมริกาพบว่า การโอบกอดทารกเนื้อแนบเนื้อยังช่วยลดการเกิดการเสียชีวิตของทารกเฉียบพลันโดยไม่ได้คาดหวัง (sudden unexpected infant death หรือ SUID) ร้อยละ 15 (OR 0.85, 95%CI 0.77-0.94)1 ในช่วง 6 วันแรกหลังคลอด ดังนั้น บุคลากรทางการแพทย์ควรให้ความรู้แก่มารดาและครอบครัวถึงประโยชน์ของการโอบกอดทารกเนื้อแนบเนื้อ และสนับสนุนให้มารดามีการโอบกอดทารกเนื้อแนบเนื้อตั้งแต่ในระยะแรกหลังคลอด
เอกสารอ้างอิง
Bartick M, Boisvert ME, Philipp BL, Feldman-Winter L. Trends in Breastfeeding Interventions, Skin-to-Skin Care, and Sudden Infant Death in the First 6 Days after Birth. J Pediatr 2020;218:11-5.
รศ.นพ.ภาวิน พัวพรพงษ์
ประโยชน์ของการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่มีหลากหลายทั้งประโยชน์ที่มีต่อมารดาและทารก โดยประโยชน์ในข้อหนึ่งที่มีต่อมารดา ได้แก่ การลดการเกิดมะเร็งรังไข่ ซึ่งการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ถือเป็นตัวแปรอิสระที่มีผลในการลดการเกิดมะเร็งรังไข่ โดยจากการศึกษาพบว่าการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่สามารถลดการเกิดมะเร็งรังไข่ระยะลุกลามได้ร้อยละ 24 ซึ่งชนิดของมะเร็งรังไข่ที่มีผลได้แก่ มะเร็งรังไข่ชนิด serous และ endometrioid และพบว่า การที่มารดาได้เลี้ยงลูกด้วยนมแม่หนึ่งครั้งนาน 1-3 เดือนจะช่วยลดการเกิดมะเร็งรังไข่ร้อยละ 18 ขณะที่หากการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่นั้นนานกว่า 12 เดือนจะช่วยลดการเกิดมะเร็งรังไข่เพิ่มขึ้นเป็นร้อยละ 34 และในมารดาที่เพิ่งให้นมบุตรจะส่งผลในการป้องกันการเกิดมะเร็งรังไข่ในอนาคตได้เป็นระยะเวลา 10 ปี 1 จากผลการศึกษานี้จะให้ภาพที่ชัดเจนของการลดการเกิดมะเร็งรังไข่ที่เป็นมะเร็งในอันดับต้น ๆ ที่เป็นสาเหตุของการเสียชีวิตของสตรีในปัจจุบัน
เอกสารอ้างอิง
Babic A, Sasamoto N, Rosner BA, et al. Association Between Breastfeeding and Ovarian Cancer Risk. JAMA Oncol 2020:e200421.
รศ.นพ.ภาวิน พัวพรพงษ์
การผ่าตัดคลอดเป็นอุปสรรคอย่างหนึ่งในการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ โดยพบว่ามารดาที่ผ่าตัดคลอดจะเริ่มการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ช้า และพบว่ามีผลต่อการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่อย่างเดียวที่โรงพยาบาลลดลง โดยหากประเมินการเจ็บแผลผ่าตัดคลอดเป็นคะแนน (pain score) จะพบว่า เมื่อคะแนนการเจ็บแผลผ่าตัดคลอดเพิ่มขึ้น 1 คะแนนจะสัมพันธ์กับการลดการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่อย่างเดียวร้อยละ 21 และพบว่ามารดาที่มีการเจ็บแผลผ่าตัดคลอดมากจะสัมพันธ์กับการนอนโรงพยาบาลที่นานขึ้น โดยหากพบมารดามีคะแนนการเจ็บแผลผ่าตัดคลอดเพิ่มขึ้น 1 คะแนน จะพบว่าทำให้มีการนอนโรงพยาบาลนานขึ้น 7.98 ชั่วโมง นอกจากนี้ ยังพบว่ามารดาที่มีการเจ็บแผลผ่าตัดคลอดมากจะสัมพันธ์กับการพบภาวะซึมเศร้าหลังคลอดเพิ่มขึ้นด้วย1
เอกสารอ้างอิง
Babazade R, Vadhera RB, Krishnamurthy P, et al. Acute postcesarean pain is associated with in-hospital exclusive breastfeeding, length of stay and post-partum depression. J Clin Anesth 2020;62:109697.
เรื่องนำทาง
แหล่งความรู้ เกี่ยวกับสูติ-นรีเวช (Obstetrics-Gynecology)