การขลิบทารกไม่มีผลเสียต่อการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่อย่างเดียว

รศ.นพ.ภาวิน พัวพรพงษ์

การขลิบทารกมักทำในทารกเพศชายในครอบครัวที่นับถือศาสนาอิสลาม ซึ่งบางคนอาจมีข้อสงสัยเกี่ยวกับการขลิบทารกว่าจะทำให้เกิดผลเสียต่อการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่หรือไม่ และมีผลทำให้ทารกต้องนอนโรงพยาบาลนานขึ้นไหม มีการศึกษาเพื่อตอบคำถามนี้ในสหรัฐอเมริกาพบว่า การขลิบทารกแรกเกิดไม่ได้มีผลเสียต่อการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่อย่างเดียว และไม่ได้ทำให้ทารกนอนโรงพยาบาลนานขึ้น นอกจากนี้ในทารกที่มีภาวะตัวเหลืองและต้องส่องไฟในการรักษา การขลิบทารกแรกเกิดก็ไม่ได้ทำให้ทารกนอนโรงพยาบาลนานขึ้นเช่นกัน1 ดังนั้น การขลิบทารกสามารถทำได้ในระยะแรกเกิด โดยไม่มีผลเสียต่อการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่

เอกสารอ้างอิง

1.            O’Callahan C, Te S, Husain A, Rosener SE, Hussain N. The Effect of Circumcision on Exclusive Breastfeeding, Phototherapy, and Hospital Length of Stay in Term Breastfed Newborns. Hosp Pediatr 2020.

การสนับสนุนการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่

รศ.นพ.ภาวิน พัวพรพงษ์

            กลไกที่จะทำให้ประสบความสำเร็จในการบริหารจัดการการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ตามเป้าหมายขององค์การอนามัยโลกประกอบด้วย การปกป้อง การส่งเสริม และการสนับสนุนการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่1

การสนับสนุนการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ประกอบด้วยฟันเฟืองสองส่วน ได้แก่ การจัดสถานพยาบาลที่เป็นโรงพยาบาลสายสัมพันธ์แม่ลูกและการจัดเครือข่ายสนับสนุนการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ในชุมชน นั่นคือการเริ่มต้นให้การสนับสนุนช่วยเหลือให้มารดาได้มีความรู้ความเข้าใจในเรื่องการเลี้ยงลูกตั้งแต่ในระยะฝากครรภ์ ระยะคลอด หลังคลอด และเมื่อมารดากลับบ้าน จะมีการส่งต่อเพื่อเชื่อมโยงการสนับสนุนให้มารดาสามารถเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ได้อย่างต่อเนื่องหลังจากออกจากโรงพยาบาลไปอยู่ที่บ้านในชุมชน โดยตัวจักรกลที่สำคัญที่จะขับเคลื่อนฟันเฟือง ได้แก่ บุคลากรทางการแพทย์ รวมทั้งกลุ่มอาสาสมัครที่ควรมีการจัดอบรมให้ความรู้ และเสริมพลัง สร้างศักยภาพ ให้มีความมั่นใจที่จะให้คำปรึกษากับมารดาด้วยความมั่นใจ

เอกสารอ้างอิง

1.        Perez-Escamilla R. Breastfeeding in the 21st century: How we can make it work. Soc Sci Med 2020;244:112331.

การส่งเสริมการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่

รศ.นพ.ภาวิน พัวพรพงษ์

            กลไกที่จะทำให้ประสบความสำเร็จในการบริหารจัดการการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ตามเป้าหมายขององค์การอนามัยโลกประกอบด้วย การปกป้อง การส่งเสริม และการสนับสนุนการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่1

การส่งเสริมการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่คือการทำให้มารดามีความตั้งใจ มีทัศนคติ และนำไปสู่การปฏิบัติในการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ ซึ่งจะมีกลไกที่สำคัญคือ การเผยแพร่ประโยชน์และความสำคัญของการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่โดยการสื่อสารผ่านสื่อต่าง ๆ ที่จะสร้างให้เกิดค่านิยมยืนนานจนเกิดเป็นวัฒนธรรมการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ สำหรับสื่อที่ใช้ควรเลือกใช้ให้เหมาะสมกับการเข้าถึงของคนในแต่ละประเทศ เช่น สื่อทีวี วิทยุ อินเตอร์เน็ต หรือสื่อสังคมออนไลน์ เป็นต้น ดังนั้น จะเห็นว่าการส่งเสริมการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่เป็นกระบวนการที่ต้องอาศัยเวลาเพื่อสร้างให้เกิดค่านิยมหรือวัฒนธรรมที่จะก่อให้เกิดความยั่งยืนได้

เอกสารอ้างอิง

1.        Perez-Escamilla R. Breastfeeding in the 21st century: How we can make it work. Soc Sci Med 2020;244:112331.

การปกป้องการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่

รศ.นพ.ภาวิน พัวพรพงษ์

            อย่างที่ได้กล่าวไปแล้ว่า กลไกที่จะทำให้ประสบความสำเร็จในการบริหารจัดการการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ตามเป้าหมายขององค์การอนามัยโลกประกอบด้วย การปกป้อง การส่งเสริม และการสนับสนุนการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่1

การปกป้องการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่มีสามแกนหลักที่สำคัญ ได้แก่ การเปิดโอกาสให้มีการลาพักหลังคลอดเพื่อเลี้ยงลูกด้วยนมแม่โดยมีการจ่ายเงินเดือน การเปิดโอกาสให้มารดาได้มีเวลาพักระหว่างการทำงานเพื่อบีบหรือปั๊มเก็บนมแม่ และการมีการดำเนินงานตามหลักเกณฑ์ที่ว่าด้วยการตลาดอาหารทารกและเด็กเล็ก และอาหารอื่นที่เกี่ยวข้อง หรือภาษาอังกฤษย่อว่า  “code”  โดยดำเนินการให้เกิดการลาพักหลังคลอดเพื่อเลี้ยงลูกด้วยนมแม่โดยมีการจ่ายเงินเดือนนั้น ควรเอื้อให้มีการลาพักได้อย่างน้อยหกเดือนเพื่อเป็นการสร้างโอกาสที่สอดคล้องกันที่จะเพิ่มอัตราการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่อย่างเดียวหกเดือน และการที่จะช่วยให้ลูกได้กินนมแม่ได้อย่างต่อเนื่องหลังหกเดือนนั้น การที่สนับสนุนให้มารดาได้มีเวลาพักระหว่างการทำงาน เพื่อบีบหรือปั๊มนมแม่จะช่วยให้แม่ยังคงมีการสร้างนมแม่อย่างต่อเนื่อง และเพิ่มระยะเวลาของการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ให้นานขึ้นหลังจากที่มารดามีกิจกรรมหรือภาระงานที่มากขึ้นหลังจากการลาพักหลังคลอดแล้ว สำหรับหลักเกณฑ์ที่ว่าด้วยการตลาดอาหารทารกและเด็กเล็ก และอาหารอื่นที่เกี่ยวข้องจะมีบทบาทในการสร้างความรู้ความเข้าใจที่ถูกต้องเหมาะสมในการเลือกอาหารสำหรับทารก ไม่ถูกล่อหลอกด้วยมายาคติหรือกลไกทางการตลาด การลดแลกแจกแถม หรือการชักจูงให้ใช้สินค้าโดยขาดจรรยาบรรณ  ดังนั้น การยึดหลักทั้งสามหลักนี้ จะเป็นเสมือนชุดเกราะที่จะปกป้องการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่

เอกสารอ้างอิง

1.        Perez-Escamilla R. Breastfeeding in the 21st century: How we can make it work. Soc Sci Med 2020;244:112331.

การบริหารจัดการสู่เป้าหมายความสำเร็จของการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่

รศ.นพ.ภาวิน พัวพรพงษ์

นมแม่เป็นอาหารที่ดีและเหมาะสมที่สุดสำหรับทารก องค์การอนามัยโลกได้ออกข้อแนะนำจากข้อมูลหลักฐานเชิงประจักษ์ว่า ทารกควรจะได้กินนมแม่อย่างเดียวในหกเดือนแรก หลังจากนั้นควรกินนมแม่ร่วมกับอาหารเสริมตามวัยจนกระทั่งถึงสองปีหรือนานกว่านั้น โดยขึ้นอยู่กับความต้องการของมารดาและทารก การที่จะดำเนินการไปสู่เป้าหมายตามข้อแนะนำขององค์การอนามัยโลกนั้น แม้ว่าในแต่ละประเทศจะมีหลากหลายของปัจจัยต่าง ๆ ที่มีความเกี่ยวข้องกับการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ แต่ในเนื้อหาที่เป็นปัจจัยที่สำคัญจะคล้ายคลึงกัน คือ การสร้างสภาวะแวดล้อมที่เอื้อต่อการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่และการสร้างให้เกิดวัฒนธรรมของการกินนมแม่ ซึ่งกลไกที่จะทำให้เกิดสิ่งเหล่านี้ จะประกอบด้วย การปกป้อง การส่งเสริม และการสนับสนุนการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่1 โดยรายละเอียดของแต่ละส่วนจะมีการเขียนบรรยายในตอนถัดไป

เอกสารอ้างอิง

1.        Perez-Escamilla R. Breastfeeding in the 21st century: How we can make it work. Soc Sci Med 2020;244:112331.

แหล่งความรู้ เกี่ยวกับสูติ-นรีเวช (Obstetrics-Gynecology)