การมีพี่เลี้ยงช่วยลดความเสี่ยงในการเริ่มการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ช้าในมารดาที่อ้วน

รศ.นพ.ภาวิน พัวพรพงษ์

เป็นที่ทราบกันดีแล้วว่า มารดาที่อ้วนจะมีความเสี่ยงในการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ช้า การจัดการสนับสนุนการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ในรูปแบบการมีคู่พี่เลี้ยงที่โรงพยาบาลประกบกับมารดาที่อ้วนเพื่อช่วยสนับสนุนการสนับสนุนการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่พบว่าช่วยลดความเสี่ยงที่มารดาจะเริ่มการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ช้าลงได้1 ดังนั้น การจัดคู่พี่เลี้ยงสนับสนุนการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่จึงถือว่าเป็นรูปแบบหนึ่งของการสนับสนุนทางสังคมที่สามารถเปลี่ยนแปลงความเสี่ยงของการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ช้าที่เป็นความเสี่ยงในมารดาที่มีดัชนีมวลกายก่อนการตั้งครรภ์สูงหรือมีภาวะอ้วนได้

เอกสารอ้างอิง

1.            Pujol von Seehausen M, Perez-Escamilla R, Couto de Oliveira MI, do Carmo Leal M, Siqueira Boccolini C. Social support modifies the association between pre-pregnancy body mass index and breastfeeding initiation in Brazil. PLoS One 2020;15:e0233452.

การสนับสนุนการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่หลายวิธีให้ผลดีกว่า

รศ.นพ.ภาวิน พัวพรพงษ์

รูปแบบการสนับสนุนการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่มีหลากหลายวิธี ได้แก่ การจัดอบรมให้ความรู้เรื่องประโยชน์และความสำคัญของการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ระหว่างการฝากครรภ์ การช่วยให้มารดาเริ่มการให้นมลูกเร็วตั้งแต่ในระยะแรกหลังคลอด การสอนให้มารดามีความมั่นใจในการจัดท่าให้นมลูก การแจกเอกสารแผ่นพับในเนื้อหาที่สำคัญที่ช่วยให้มารดาสามารถเข้าถึงการขอรับคำปรึกษาในกรณีที่มารดามีปัญหาเรื่องการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ก่อนการอนุญาตให้กลับบ้าน การเยี่ยมบ้าน การนัดหรือโทรศัพท์ติดตาม เอาใจใส่และสอบถามถึงปัญหาและอุปสรรคในการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ รวมทั้งจัดการกลุ่มให้คำปรึกษามารดาผ่านสื่อสังคมออนไลน์ที่มีการใช้เพิ่มมากขึ้นในปัจจุบันล้วนแล้วแต่ส่งผลดีต่อการสนับสนุนการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ ซึ่งการจัดรูปแบบการสนับสนุนการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ที่หลากหลายนั้นจะช่วยส่งผลดีต่อการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่มากกว่า โดยมีตัวอย่างการศึกษาในประเทศโครเอเซียถึงผลการให้การสนับสนุนการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ร่วมกันหลายวิธีเปรียบเทียบกับการให้การสนับสนุนอย่างเดียวหรือการดูแลตามปกติพบว่า การใช้การสนับสนุนการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ร่วมกันหลายวิธีช่วยให้ผลดีต่อการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่มากกว่า1 ซึ่งผลที่เป็นเช่นนี้อาจเป็นเพราะมารดาแต่ละคนมีจริตหรือความชอบในการกสนับสนุนที่แตกต่างกัน การมีความหลากหลายของรูปแบบของการสนับสนุนการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ จะช่วยให้การเข้าถึงการสนับสนุนการเลี้ยงลูกดัวยนมแม่ทำได้ดักว่า

เอกสารอ้างอิง

1.            Puharic D, Malicki M, Borovac JA, et al. The effect of a combined intervention on exclusive breastfeeding in primiparas: A randomised controlled trial. Matern Child Nutr 2020:e12948.

ประสบการณ์การเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ของมารดาที่มีภาวะซึมเศร้าหลังคลอด

รศ.นพ.ภาวิน พัวพรพงษ์

ภาวะซึมเศร้าหลังคลอดมีผลเสียต่อการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ จึงมีข้อสงสัยที่เกิดขึ้นว่า มารดาที่มีภาวะซึมเศร้าหลังคลอดมีความรู้สึกอย่างไรกับประสบการณ์การเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ ซึ่งจากข้อสงสัยนี้จึงมีการศึกษาถึงความรู้สึกของมารดาที่มีภาวะซึมเศร้าหลังคลอดพบว่า ความรู้สึกที่มารดามี ได้แก่ การต้องเลือกความไม่เห็นแก่ตัว การได้พักไม่เพียงพอ การที่ต้องมีความเพียรพยายาม การต้องเรียนรู้ถึงความหมายของการเป็นแม่ และการรับรู้ถึงความรักและความใกล้ชิด1 การเข้าใจถึงความรู้สึกของมารดาที่มีภาวะซึมเศร้าหลังคลอด จะทำให้บุคลากรที่จะให้การสนับสนุนเรื่องการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่สามารถให้คำปรึกษาและช่วยเหลือมารดาได้อย่างเหมาะสม

เอกสารอ้างอิง

1.            Pratt BA, Longo J, Gordon SC, Jones NA. Perceptions of Breastfeeding for Women with Perinatal Depression: A Descriptive Phenomenological Study. Issues Ment Health Nurs 2020:1-8.

การโอบกอดทารกเนื้อแนบเนื้อช่วยเพิ่มการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่อย่างเดียว

 รศ.นพ.ภาวิน พัวพรพงษ์

การโอบกอดทารกเนื้อแนบเนื้อของมารดาทันทีในระยะแรกหลังคลอดเป็นประโยชน์ต่อทารกในหลาย ๆ ด้าน ได้แก่ ช่วยป้องกันทารกตัวเย็น ช่วยให้ทารกรู้สึกปลอดภัย สงบ ลดการใช้พลังงาน ป้องกันภาวะน้ำตาลต่ำ กระตุ้นพัฒนาการของระบบประสาท รวมทั้งช่วยในการเริ่มการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่และการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่อย่างเดียว1 โดยพบว่าเพิ่มการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่อย่างเดียว 2.2 เท่า (95% CI 1.7-2.0)  ซึ่งจะช่วยทั้งในมารดาที่คลอดปกติและมารดาที่ผ่าตัดคลอด โดยในมารดาที่คลอดปกติจะเพิ่มสูงกว่า คือ 2.5 เท่า (95% CI 1.8-3.4) ขณะที่ในมารดาที่ผ่าตัดคลอดเพิ่ม 1.4 เท่า (95% CI 0.8-2.7) 1  ดังนั้น หากมีการจัดกระบวนการให้มารดาที่ผ่าตัดคลอดสามารถโอบกอดทารกเนื้อแนบเนื้อของมารดาทันทีในระยะแรกหลังคลอดได้ จะเป็นหนทางหนึ่งที่จะช่วยมารดาเพิ่มโอกาสที่จะเลี้ยงลูกด้วยนมแม่อย่างเดียวได้

เอกสารอ้างอิง

1.        Karimi FZ, Miri HH, Khadivzadeh T, Maleki-Saghooni N. The effect of mother-infant skin-to-skin contact immediately after birth on exclusive breastfeeding: a systematic review and meta-analysis. J Turk Ger Gynecol Assoc 2020;21:46-56.

บทบาทของพ่อในการช่วยการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่

รศ.นพ.ภาวิน พัวพรพงษ์

ทั้ง ๆ ที่พ่อมีบทบาทสำคัญในการช่วยการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ แต่บางคนอาจจะสงสัยว่าพ่อมีบทบาทสำคัญ และจะช่วยการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ได้อย่างไร มีการศึกษาทบทวนอย่างเป็นระบบถึงการช่วยการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ของพ่อพบว่า การที่พ่อช่วยสนับสนุนการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่จะช่วยเพิ่มอัตราการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่อย่างเดียวและเพิ่มระยะเวลาของการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ด้วย โดยบทบาทของพ่อจะมีตั้งแต่การกระตุ้นเตือนให้มารดาเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ ช่วยป้องกันและจัดการกับปัญหาและอุปสรรคต่าง ๆ ในการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ นอกจากนี้ยังมีบทบาทที่ช่วยในงานบ้านและการดูแลทารก ซึ่งจะทำให้มารดาลดความเหนื่อยล้า และมีเวลาที่จะเลี้ยงลูกด้วยนมแม่มากขึ้น1 ดังนั้น บุคลากรทางการแพทย์ไม่ควรละเลยที่จะให้พ่อเข้าไปมีส่วนร่วมและเป็นส่วนหนึ่งที่สำคัญในการช่วยสนับสนุนการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่

เอกสารอ้างอิง

1.            Ogbo FA, Akombi BJ, Ahmed KY, et al. Breastfeeding in the Community-How Can Partners/Fathers Help? A Systematic Review. Int J Environ Res Public Health 2020;17.

แหล่งความรู้ เกี่ยวกับสูติ-นรีเวช (Obstetrics-Gynecology)