รศ.นพ.ภาวิน พัวพรพงษ์
? ? ? ? ? ? ในการดูแลสนับสนุนการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่เป็นบทบาทส่วนที่สำคัญของบุคลากรทางการแพทย์ อุปสรรคที่พบในการให้การสนับสนุนการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ของบุคลากรทางการแพทย์1 ,2 ได้แก่ การขาดทักษะและมีเวลาน้อยที่ให้กับการให้การสนับสนุนการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ มีการศึกษาถึงเหตุผลในการหยุดการให้การสนับสนุนการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ของบุคลากรทางการแพทย์ พบว่า จากการที่บุคลากรมีเวลาน้อย ขาดทักษะ และให้ข้อมูลได้น้อยนำไปสู่ความไม่มั่นใจว่าจะช่วยสนับสนุนการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ได้อย่างมีประสิทธิภาพและติดตามดูแลมารดาและบุตรได้ครบถ้วนสมบูรณ์หรือไม่3 เมื่อไม่มีความมั่นใจก็อาจจะวนไปสู่วงจรของการไม่ให้เวลา หรือให้ข้อมูลน้อย ดังนั้น การสร้างทักษะและความมั่นใจในการสนับสนุนการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ของบุคลากรอาจเป็นปัจจัยที่สำคัญในการสร้างผู้นำที่ควรจะมีบทบาทนำในการสนับสนุนการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่
เอกสารอ้างอิง
Taveras EM, Li R, Grummer-Strawn L, et al. Opinions and practices of clinicians associated with continuation of exclusive breastfeeding. Pediatrics 2004;113:e283-90.
Schanler RJ, O’Connor KG, Lawrence RA. Pediatricians’ practices and attitudes regarding breastfeeding promotion. Pediatrics 1999;103:E35.
Garner CD, Ratcliff SL, Thornburg LL, Wethington E, Howard CR, Rasmussen KM. Discontinuity of Breastfeeding Care: “There’s No Captain of the Ship”. Breastfeed Med 2016;11:32-9.
รศ.นพ.ภาวิน พัวพรพงษ์
? ? ? ? ? ? ?ความเร่งรีบของชีวิตในเมือง สามีและภรรยาต้องทำงานด้วยกันทั้งคู่ บางครั้งอาจส่งผลต่อการหยุดการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ก่อนเวลาอันควรได้ อย่างไรก็ตาม มีการศึกษาโดยให้พ่อมาเข้าอบรมหลักสูตรเพื่อการสนับสนุนการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่สัปดาห์ละหนึ่งครั้งต่อเนื่องกันสามสัปดาห์ พบว่า การที่พ่อของลูกมีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับความสำคัญ ประโยชน์ และกระบวนการที่จะช่วยมารดาในการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่มีผลดีต่อความตั้งใจในการที่จะสนับสนุนมารดาให้เลี้ยงลูกด้วยนมแม่ในครรภ์ต่อไป1 โดยพ่อที่อบรมในสัปดาห์ที่หนึ่งถึงสามตั้งใจจะให้ลูกคนต่อไปกินนมแม่ร้อยละ 80-89 ดังนั้น จะเห็นว่า แม้ในสังคมเมืองที่มีชีวิตที่ยุ่งยาก ประโยชน์ของความรู้ความเข้าใจเรื่องนมแม่ของพ่อซึ่งมีบทบาทเป็นผู้นำครอบครัวอาจช่วยสร้างความตั้งใจในการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ให้แก่มารดาได้
เอกสารอ้างอิง
Furman L, Killpack S, Matthews L, Davis V, O’Riordan MA. Engaging Inner-City Fathers in Breastfeeding Support. Breastfeed Med 2016;11:15-20.
รศ.นพ.ภาวิน พัวพรพงษ์
? ? ? ? ? ? ? ปัจจุบัน การแต่งงานของสตรีช้าลง สตรีตั้งครรภ์ในอายุที่มากขึ้น หนึ่งในโรคหรือภาวะแทรกซ้อนที่มักพบเมื่ออายุมากขึ้นคือ โรคความดันโลหิตสูง ซึ่งผลของโรคหรือการรักษาต่อการให้นมลูกไม่ได้มีผลเสียใดๆ แต่ควรมีการเลือกใช้ยาในระยะให้นมลูกอย่างเหมาะสม ยาที่ควรเลือกใช้ก่อน ได้แก่ ยา methydopa ยา labetalol และยา hydralazine ในกรณีที่มารดามีความดันโลหิตสูงระหว่างการตั้งครรภ์หรือมีอาการครรภ์เป็นพิษ หากจำเป็นต้องกินยาลดความดันในระยะที่ตั้งครรภ์หรือในระยะคลอด หลังคลอดราวหกสัปดาห์ส่วนใหญ่ความดันโลหิตของมารดาจะกลับคืนสู่ค่าปกติ ซึ่งจะหยุดยาลดความดันโลหิตสูงได้ อย่างไรก็ตามในมารดาเหล่านี้จะมีความเสี่ยงที่จะเกิดโรคของหลอดเลือดและหัวใจได้ในอนาคต ดังนั้น การแจ้งให้มารดาทราบและติดตามมารดาในระยะยาวถึงภาวะแทรกซ้อนที่อาจเกิดขึ้น จะทำให้การวินิจฉัยและรักษาทำได้อย่างเหมาะและตั้งแต่ในระยะเริ่มแรก
เอกสารอ้างอิง
Bunik M. Breastfeeding telephone triage and advice. 2nd ?ed. The American Academy of Pediatrics 2016.
รศ.นพ.ภาวิน พัวพรพงษ์
? ? ? ? ? ? ?อาการไมเกรนเป็นอาการปวดศีรษะที่เกิดจากเส้นเลือดขยายตัว ตัวโรคไม่ได้มีผลต่อการให้นมลูก แต่สำหรับการรักษา ยาแก้ปวดอะเซตามิโนเฟนหรือชื่อที่มีความคุ้นเคยคือพาราเซตามอลและยา ibuprofen สามารถให้ได้ ยาที่ช่วยลดการกำเริบของอาการในกลุ่มยาต้านภาวะซึมเศร้าสามารถให้ได้ แต่สำหรับในผู้ป่วยที่มีอาการรุนแรงหรือจำเป็นต้องยา ergotamine หรือชื่อการค้าที่คุ้นเคยคือ cafergot? ซึ่งเป็นยาที่ใช้บ่อยในการรักษาไมเกรนอาจทำให้น้ำนมลดลงได้ อย่างไรก็ตาม หากไม่ได้ใช้ยาบ่อย และมีการสนับสนุนช่วยมารดาในการดูแลทารก ลดความเครียด ให้มารดาได้พักผ่อนที่เพียงพอ น่าจะป้องกันอาการของไมเกรนและลดความจำเป็นในการใช้ยา ทำให้มารดาสามารถให้นมลูกได้โดยสบายใจไม่ต้องวิตกกังวลเรื่องผลของการใช้ยาต่อทารก
เอกสารอ้างอิง
Bunik M. Breastfeeding telephone triage and advice. 2nd ?ed. The American Academy of Pediatrics 2016.
รศ.นพ.ภาวิน พัวพรพงษ์
? ? ? ? ? ? ?มารดาที่เป็นหอบหืด อาจมีคำถามหรือข้อสงสัยว่า จะให้ลูกกินนมแม่ดีหรือไม่ ลูกจะติดหอบหืดจากการกินนมแม่หรือไม่ และหากมารดาต้องกินยาหรือรักษาหอบหืด ลูกที่กินนมแม่จะมีอันตรายไหม
? ? ? ? ? ? ?โรคหอบหืด เป็นโรคที่ส่วนหนึ่งมีปัจจัยมาจากพันธุกรรมกับอีกส่วนหนึ่งมีปัจจัยมาจากสิ่งแวดล้อม ซึ่งปัจจัยสิ่งแวดล้อมเป็นส่วนที่สามารถปรับเปลี่ยนให้ดีขึ้นได้ การเลี้ยงลูกด้วยนมแม่เป็นหนึ่งในปัจจัยที่สำคัญที่ส่งเสริมและช่วยป้องกันการเกิดโรคภูมิแพ้และหอบหืดในทารก ดังนั้น การสนับสนุนให้ลูกกินนมแม่จะเป็นผลดีในการป้องกันหรือลดการเกิดหอบหืด และแน่นอนการกินนมแม่ไม่ได้ทำให้ลูกติดหอบหืด สำหรับการที่มารดาต้องกินยาหรือรักษาอาการหอบหืด? ยาที่มารดาได้รับมักจะเป็นยาชนิดพ่นเข้าทางเดินหายใจและยาชนิดรับประทาน ซึ่งใช้ได้อย่างปลอดภัยในการให้นมลูก บุคลากรทางการแพทย์จึงควรส่งเสริมให้ลูกกินนมแม่โดยเฉพาะในมารดาที่เป็นหอบหืด
เอกสารอ้างอิง
Bunik M. Breastfeeding telephone triage and advice. 2nd ? ed. The American Academy of Pediatrics 2016.
เรื่องนำทาง
แหล่งความรู้ เกี่ยวกับสูติ-นรีเวช (Obstetrics-Gynecology)