การขาดความร่วมมือของบุคลากรทางการแพทย์กับครอบครัวในการส่งเสริมการให้นมแม่

รศ.นพ.ภาวิน พัวพรพงษ์

??????????? อุปสรรคที่มีต่อการส่งเสริมการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ อาจแบ่งได้หลายแบบตามหลักเกณฑ์ที่กำหนด โดยหากแบ่งเป็นอุปสรรคจากตัวบุคคล ได้แก่ ความเชื่อมั่นในการที่จะเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ การให้การสนับสนุนและส่งเสริมการให้นมแม่จากบุคลากรทางการแพทย์ คนในครอบครัว และคนในสังคม อุปสรรคจากระบบการบริการ ได้แก่ การขาดความร่วมมือกันอย่างเพียงพอในการสนับสนุนการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ การมีข้อจำกัดของแต่ละหน่วยงานหรือองค์กร และการจัดบริการการดูแลการคลอดและระบบหลังคลอดที่ไม่เหมาะสม อุปสรรคทางอ้อม ได้แก่ ความรู้ ทัศนคติ และค่านิยมที่มีต่อการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ อย่างไรก็ตาม มีการศึกษาถึงอุปสรรคต่าง ๆ เหล่านี้ พบว่า อุปสรรคที่สำคัญที่เป็นปัญหามากที่สุด คือ การขาดความร่วมมือกันอย่างเพียงพอระหว่างบุคลากรทางการแพทย์กับมารดาและครอบครัวที่จะช่วยเหลือกันในการที่จะให้ทารกได้กินนมแม่1 ดังนั้น การที่จะแก้ไขหรือทำให้เกิดความร่วมมือที่ดีระหว่างบุคลากรทางการแพทย์กับมารดาและครอบครัวต้องมีการวิเคราะห์ลงไปในรายละเอียดว่า จุดใดที่เป็นจุดที่สำคัญที่เป็นประเด็นที่จะส่งผลต่อความร่วมมือ เช่น จำนวนที่เพียงพอของบุคลากรทางการแพทย์ที่มีความรู้ ความเข้าใจในเรื่องการให้คำปรึกษา การกำหนดให้การให้บริการการสนับสนุนการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่เป็นภาระงาน มีค่าตอบแทนการให้บริการที่เหมาะสม และส่งเสริมให้ผู้ปฏิบัติงานในหน้าที่เหล่านี้ได้มีความก้าวหน้าในอาชีพการทำงาน เมื่อทราบถึงและมีความร่วมมือกันแก้ไขอย่างเป็นระบบ ก็จะส่งผลที่ดีต่ออนาคตที่จะเอื้อให้มารดาฝ่าฟันอุปสรรคในการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ได้

เอกสารอ้างอิง

  1. Anstey EH, Coulter M, Jevitt CM, et al. Lactation Consultants’ Perceived Barriers to Providing Professional Breastfeeding Support. J Hum Lact 2018;34:51-67.

 

การให้ความรู้และสร้างความตระหนักในเรื่องการให้นมลูกแก่พ่อและแม่

รศ.นพ.ภาวิน พัวพรพงษ์

??????????? การที่มารดาจะเลี้ยงดูบุตรด้วยการให้นมแม่ระบวนการให้คำปรึกษานั้น ควรให้ความสำคัญแก่ทั้งพ่อและแม่ การเริ่มต้นตั้งแต่ในระยะฝากครรภ์ การแจกแผ่นพับหรือเอกสารความรู้เรื่องประโยชน์และความสำคัญของนมแม่ การเปิดโอกาสที่ทั้งพ่อและแม่ได้ซักถามข้อสงสัยในระหว่างที่ฝึกเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ขณะอยู่ในโรงพยาบาล การติดตามช่วยให้คำปรึกษาและแนะนำวิธีการแก้ปัญหาเมื่อพ่อและแม่กลับไปดูแลทารกที่บ้านด้วยตนเองแล้ว กระบวนการเหล่านี้ หากมีการจัดให้เป็นระบบ และเอื้อให้มารดาสามารถได้รับการให้บริการได้อย่างทั่วถึง จะมีส่วนช่วยตั้งแต่อัตราการเริ่มต้นการกินนมแม่ตั้งแต่ในระยะแรก อัตราการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่อย่างเดียว รวมทั้งเพิ่มระยะเวลาการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ได้1 นอกจากนี้ การให้คำปรึกษาควรคำนึงถึงบุคคลที่อยู่ในครอบครัวที่จะมีบทบาทและอิทธิพลที่ส่งผลต่อการให้นมลูกด้วยโดยเฉพาะในกลุ่มประเทศที่ลักษณะครอบครัวที่อยู่กันเป็นครอบครัวขยาย ได้แก่ ปู่ย่าตายายและพี่น้องที่อยู่ในบ้านเดียวกัน และมีส่วนในการให้การดูแลทารก หากสามารถให้บุคคลเหล่านี้ได้เข้าร่วมการรับฟังการให้คำปรึกษาและมีความเข้าใจได้อย่างถูกต้องเหมาะสมแล้วก็จะมีส่วนช่วยในกระบวนการการส่งเสริมการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ที่ดีได้

เอกสารอ้างอิง

  1. Abbass-Dick J, Dennis CL. Maternal and paternal experiences and satisfaction with a co-parenting breastfeeding support intervention in Canada. Midwifery 2018;56:135-41.

เหตุผลที่มารดาหยุดให้นมบุตร

รศ.นพ.ภาวิน พัวพรพงษ์

??????????? ตามธรรมดาแล้วหลังคลอด หากไม่มีภาวะแทรกซ้อนใด ๆ มารดาควรให้นมแม่แก่บุตร อย่างไรก็ตาม ความรู้และความตระหนักถึงความสำคัญและประโยชน์ของนมแม่ก็ยังคงเป็นปัจจัยที่มีบทบาทต่อความตั้งใจของมารดาที่จะเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ การเข้าอบรมในการสอนเรื่องการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่จึงสะท้อนถึงความสนใจ ใส่ใจ และตั้งใจที่จะให้ลูกได้กินนมแม่ สำหรับปัจจัยที่ตัดสินใจหยุดให้นมลูก มักได้แก่ น้ำนมน้อยไม่เพียงพอ การเจ็บเต้านมและหัวนม เต้านมอักเสบ และการกลับไปทำงานของมารดา1,2 ซึ่งคล้ายคลึงกันในหลายประเทศรวมทั้งประเทศไทย การรณรงค์จึงต้องมีการร่วมมือของหลายฝ่ายที่เกี่ยวข้อง เพื่อส่งเสริมและร่วมกันช่วยแก้ไขหรือช่วยเหลือมารดาในแต่ละช่วงเวลาของการให้นมลูก บุคลากรทางการแพทย์จึงควรทำความเข้าใจกับปัจจัยต่าง ๆ เหล่านี้เป็นอย่างดี เพื่อเป็นพี่เลี้ยงที่ให้คำปรึกษาในแต่ละช่วงเวลาได้อย่างเหมาะสม

เอกสารอ้างอิง

  1. Sun K, Chen M, Yin Y, Wu L, Gao L. Why Chinese mothers stop breastfeeding: Mothers’ self-reported reasons for stopping during the first six months. J Child Health Care 2017;21:353-63.
  2. Puapornpong P, Manolerdthewan W, Raungrongmorakot K, Ketsuwan S, Wongin S. Factor effecting on breastfeeding success in infants up to 6 month of age in Nakhon Nayok province. J Med Health Sci 2009;16:116-23.

แม่ที่สูบบุหรี่มักได้ลูกสาวที่มีน้ำหนักน้อย

รศ.นพ.ภาวิน พัวพรพงษ์

??????????? การสูบบุหรี่ระหว่างการตั้งครรภ์ส่งผลเสียต่อทั้งมารดาและทารก ทั้งในระยะสั้นและระยะยาว เนื่องจากในบุหรี่นั้นมีสารพิษหลากหลายชนิดที่ส่งผลโดยตรงและสะสมไปจนเกิดผลเมื่อทารกเจริญเติบโตขึ้น ผลเสียของบุหรี่นั้นสามารถเป็นผลมาจากการสูบบุหรี่โดยตรงของมารดาหรือได้รับควันบุหรี่มือสองจากบุคคลในครอบครัว มีการศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างการสูบบุหรี่กับน้ำหนักทารกที่คลอดออกมา พบว่า มารดาที่สูบบุหรี่จะมีความเสี่ยงที่ทารกจะมีน้ำหนักตัวน้อยมากกว่าถึง 3.8 เท่า และพบว่าทารกที่คลอดจากมารดาที่สูบบุหรี่จะเป็นลูกสาวมากกว่าเป็นลูกชายถึง 2.5 เท่า นอกจากนี้ โอกาสในการที่จะหยุดการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ก่อนระยะเวลาที่เหมาะสมและมีการเริ่มอาหารเสริมที่เร็วกว่าที่มีการแนะนำพบมากกว่าถึง 3.9 เท่า1 อย่างไรก็ตาม แม้จะมีการทราบถึงพิษภัยของบุหรี่ที่มีผลเสียต่อมารดาและทารก การหยุดหรือเลิกบุหรี่ก็ยังเป็นเรื่องที่ยาก แต่การมีบุตรและเลี้ยงลูกด้วยนมแม่เป็นแรงใจที่พบว่าช่วยให้มารดามีโอกาสที่จะลดหรือเลิกบุหรี่ได้สูงขึ้น ดังนั้น การให้คำปรึกษาและให้ความรู้แก่มารดาอย่างเหมาะสมที่จะทำให้มารดาทราบถึงพิษภัยของบุหรี่อันจะเป็นพื้นฐานที่จะสร้างกำลังใจในการลดหรือเลิกบุหรี่เพื่อลูกจึงเป็นสิ่งจำเป็น

เอกสารอ้างอิง

  1. Timur Tashan S, Hotun Sahin N, Omac Sonmez M. Maternal smoking and newborn sex, birth weight and breastfeeding: a population-based study. J Matern Fetal Neonatal Med 2017;30:2545-50.

จุกนมหลอกลดระยะเวลาของการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่

รศ.นพ.ภาวิน พัวพรพงษ์

??????????? ระยะเวลาของการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่เป็นสิ่งที่ทั่วโลกให้ความสำคัญและเป็นกระแสสังคมที่ต้องการส่งเสริมให้ระยะเวลาของการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ยาวนานขึ้น อย่างไรก็ตาม อัตราการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่อย่างเดียวหกเดือนจากประชากรทั่วโลกพบร้อยละ 37 ขณะที่เป้าหมายที่องค์การอนามัยโลกตั้งเป้าหมายไว้คือร้อยละ 50 อุปสรรคต่าง ๆ ในการที่จะเพิ่มระยะเวลาการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่มีทั้งปัจจัยในส่วนของตัวมารดาและทารก ปัจจัยทางด้านเศรษฐกิจและสังคม รวมทั้งสิ่งประดิษฐ์และค่านิยมต่าง ๆ โดยสิ่งหนึ่งที่ยังส่งผลลบต่อระยะเวลาของการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ตั้งแต่ในอดีตจนถึงปัจจุบันคือ การให้ทารกดูดจุกนมหลอก1 ซึ่งมีผลต่อพฤติกรรมของทารกและลดระยะเวลาของการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ สิ่งนี้จึงเป็นที่ที่บุคลากรทางการแพทย์ในฐานะที่เป็นตัวแทนและสนับสนุนในการที่จะสร้างสุขภาพที่ดีควรให้ความสนใจใส่ใจที่จะเผยแพร่ความรู้ ความเข้าใจที่ถูกต้อง และสร้างค่านิยมที่เหมาะสมให้เกิดแก่สังคม ซึ่งหากทำให้เกิดขึ้นได้ ก็จะเป็นคุณประโยชน์ที่จะเพิ่มระยะเวลาของการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ที่จะส่งผลต่อการสร้างสุขภาพที่ดีของทารกที่จะเจริญเติบโตไปเป็นผู้ใหญ่ที่มีคุณภาพที่เป็นกำลังของประเทศและของโลก

เอกสารอ้างอิง

  1. Toryiama ATM, Fujimori E, Palombo CNT, Duarte LS, Borges ALV, Chofakian C. Breastfeeding: what changed after a decade?1. Rev Lat Am Enfermagem 2017;25:e2941.

แหล่งความรู้ เกี่ยวกับสูติ-นรีเวช (Obstetrics-Gynecology)