คลังเก็บหมวดหมู่: คำถามที่พบบ่อย

คำถามที่พบบ่อย

การสอบถามเรื่องการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ในลูกคนก่อนมีความสำคัญ

รศ.นพ.ภาวิน พัวพรพงษ์

ในมารดาครรภ์หลังอาจเคยให้นมลูกในทารกคนก่อน แต่หยุดไปเพราะประสบปัญหา การสอบถามมารดาเกี่ยวกับประวัติการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ จะช่วยเปิดโอกาสให้บุคลากรทางการแพทย์ได้ชี้แจงมารดาทราบว่า ปัญหาส่วนใหญ่สามารถป้องกันได้ โดยมีแหล่งข้อมูลในโรงพยาบาลและในชุมชนที่จะคอยให้การสนับสนุน และมารดาควรได้รับการชื่นชมยกย่องที่เลือกให้นมลูกใหม่ในทารกคนนี้  โดยมารดาควรได้รับการดูแลเอาใจใส่เป็นพิเศษเพื่อให้แน่ใจว่า การเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ในครั้งนี้จะเป็นไปด้วยดีทั้งขณะที่อยู่ในโรงพยาบาลและเมื่อกลับบ้าน รวมทั้งอาจมีการแจ้งผู้เชี่ยวชาญด้านการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ร่วมให้ปรึกษาในกรณีที่มีปัญหาซับซ้อน1  

เอกสารอ้างอิง

1.            Naylor AJ, Wester RA. Lactation management self-study modules, level 1, fourth edition. In: International W, ed.2014.

ปัญหาเกี่ยวกับเต้านมและการเคยผ่าตัดมีผลต่อการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่หรือไม่

รศ.นพ.ภาวิน พัวพรพงษ์

ในการดูแลมารดาและวางแผนการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ ควรมีการสอบถามมารดาเกี่ยวกับปัญหาที่มีที่เต้านม ได้แก่ การคลำพบก้อน การทำการตรวจชิ้นเนื้อของเต้านม การที่มารดาเคยมีปัญหาหรือเคยได้รับการผ่าตัดมาก่อนตั้งแต่ในระยะฝากครรภ์ จากนั้นทำการตรวจเต้านม ตรวจดูก้อน และการเปลี่ยนแปลงของเต้านมที่สัมพันธ์กับการตั้งครรภ์ว่าเป็นไปตามปกติหรือไม่  สำหรับการที่เคยได้รับการดูแลรักษาที่เต้านมมาก่อน ส่วนใหญ่มักไม่ได้ส่งผลเสียที่รุนแรงต่อการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ อย่างไรก็ตาม มารดากลุ่มนี้ควรต้องได้รับการติดตามดูแลอย่างใกล้ชิดมากขึ้น เพื่อจะช่วยให้คำปรึกษาที่เหมาะสมตั้งแต่ในระยะแรกในกรณีที่มารดาพบปัญหาในเรื่องการให้นมลูก1  

เอกสารอ้างอิง

1.            Naylor AJ, Wester RA. Lactation management self-study modules, level 1, fourth edition. In: International W, ed.2014.

มารดาจะสามารถเลี้ยงลูกด้วยนมแม่เมื่อกลับไปทำงานหรือกลับไปเรียนได้หรือไม่

รศ.นพ.ภาวิน พัวพรพงษ์

มารดาอาจจะเชื่อว่าการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่และการกลับไปทำงานหรือกลับไปเรียนไม่สามารถทำไปพร้อม ๆ กันได้ การให้คำแนะนำแก่มารดาว่าการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ยังสามารถทำต่อไปได้ แต่อาจจะมีการปรับเปลี่ยนรูปแบบ ซึ่งต้องการการวางแผนและพูดคุยในรายละเอียดเพิ่มเติม โดยหากมารดาเลือกที่จะบีบหรือปั๊มเก็บน้ำนมและฝากไว้ให้ผู้ดูแลป้อนนมให้แก่ทารก มารดาควรจะได้รับข้อมูล เรียนรู้ที่เรื่องการบีบน้ำนมด้วยมือหรือการปั๊มนม และวิธีการเก็บรักษาน้ำนมไว้ล่วงหน้าก่อนที่จะกลับไปทำงานหรือกลับไปเรียน (ซึ่งตามหลักการแล้ว ควรมีการพูดคุยกันในเรื่องเหล่านี้เริ่มตั้งแต่ในระยะฝากครรภ์)1  

เอกสารอ้างอิง

1.            Naylor AJ, Wester RA. Lactation management self-study modules, level 1, fourth edition. In: International W, ed.2014.

แผนสำหรับการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ของมารดา

รศ.นพ.ภาวิน พัวพรพงษ์

มารดาบางคนคิดไปเองว่าจะสามารถเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ไปได้นานเท่าที่ต้องการโดยไม่มีความจำเป็นต้องวางแผน ซึ่งคิดนี้เป็นความเข้าใจผิดที่อาจมาจากคำแนะนำในการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ในปัจจุบัน เพราะในความเป็นจริงแล้ว มารดาอาจพบอุปสรรคหลายอย่าง เช่น การกลับไปทำงานหรือกลับไปเรียน และวิธีที่จะเอาชนะอุปสรรคก็คือ การปรึกษาหารือกันร่วมกันวางแผน โดยครอบครัวจะเป็นแรงสนับสนุนที่ดีที่จะทำให้มารดาเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ได้นานที่สุดเท่าที่จะนานได้  สำหรับคำแนะนำในปัจจุบันของหน่วยงานและองค์กรทางการแพทย์ต่าง ๆ คือ แนะนำให้มารดาเลี้ยงลูกด้วยนมแม่อย่างเดียว 6 เดือน หลังจากนั้นควรให้อาหารเสริมตามวัยควบคู่ไปกับการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่อย่างต่อเนื่องจนถึง 2 ปีหรือนานกว่านั้นขึ้นอยู่กับความต้องการของมารดาและทารก1  

เอกสารอ้างอิง

1.            Naylor AJ, Wester RA. Lactation management self-study modules, level 1, fourth edition. In: International W, ed.2014.

ควรสอบถามมารดาว่ามีปัญหาทางการแพทย์ที่จำเป็นต้องใช้ยาหรือไม่

รศ.นพ.ภาวิน พัวพรพงษ์

ปัจจุบัน สตรีแต่งงานและมีบุตรที่อายุมากขึ้น ดังนั้น จึงพบว่ามารดาอาจมีโรคประจำตัวที่อาจส่งผลทำให้เกิดภาวะแทรกซ้อนในระหว่างการตั้งครรภ์ หลังคลอด รวมทั้งการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ได้ ดังนั้น บุคลากรทางแพทย์ควรมีการสอบถามมารดาถึงโรคประจำตัวว่ามีหรือไม่ และใช้ยาอะไรในการรักษาอยู่  โดยทั่วไป ยาส่วนใหญ่สามารถใช้ได้ในระหว่างการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ แต่จะมียาบางชนิดที่ห้ามใช้ในระหว่างให้นมบุตร เพราะฉะนั้น ควรมีการทบทวนยาของมารดาที่ใช้เป็นประจำและพิจารณาถึงทางเลือกอื่น หากมีความจำเป็นในกรณีที่ยาที่ใช้จะเกิดผลเสียแก่ทารก1  

เอกสารอ้างอิง

1.            Naylor AJ, Wester RA. Lactation management self-study modules, level 1, fourth edition. In: International W, ed.2014.