รศ.นพ.ภาวิน พัวพรพงษ์
ประโยชน์ของการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่มีหลากหลายทั้งประโยชน์ที่มีต่อมารดาและทารก โดยประโยชน์ในข้อหนึ่งที่มีต่อมารดา ได้แก่ การลดการเกิดมะเร็งรังไข่ ซึ่งการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ถือเป็นตัวแปรอิสระที่มีผลในการลดการเกิดมะเร็งรังไข่ โดยจากการศึกษาพบว่าการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่สามารถลดการเกิดมะเร็งรังไข่ระยะลุกลามได้ร้อยละ 24 ซึ่งชนิดของมะเร็งรังไข่ที่มีผลได้แก่ มะเร็งรังไข่ชนิด serous และ endometrioid และพบว่า การที่มารดาได้เลี้ยงลูกด้วยนมแม่หนึ่งครั้งนาน 1-3 เดือนจะช่วยลดการเกิดมะเร็งรังไข่ร้อยละ 18 ขณะที่หากการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่นั้นนานกว่า 12 เดือนจะช่วยลดการเกิดมะเร็งรังไข่เพิ่มขึ้นเป็นร้อยละ 34 และในมารดาที่เพิ่งให้นมบุตรจะส่งผลในการป้องกันการเกิดมะเร็งรังไข่ในอนาคตได้เป็นระยะเวลา 10 ปี 1 จากผลการศึกษานี้จะให้ภาพที่ชัดเจนของการลดการเกิดมะเร็งรังไข่ที่เป็นมะเร็งในอันดับต้น ๆ ที่เป็นสาเหตุของการเสียชีวิตของสตรีในปัจจุบัน
เอกสารอ้างอิง
Babic A, Sasamoto N, Rosner BA, et al. Association Between Breastfeeding and Ovarian Cancer Risk. JAMA Oncol 2020:e200421.
รศ.นพ.ภาวิน พัวพรพงษ์
การผ่าตัดคลอดเป็นอุปสรรคอย่างหนึ่งในการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ โดยพบว่ามารดาที่ผ่าตัดคลอดจะเริ่มการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ช้า และพบว่ามีผลต่อการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่อย่างเดียวที่โรงพยาบาลลดลง โดยหากประเมินการเจ็บแผลผ่าตัดคลอดเป็นคะแนน (pain score) จะพบว่า เมื่อคะแนนการเจ็บแผลผ่าตัดคลอดเพิ่มขึ้น 1 คะแนนจะสัมพันธ์กับการลดการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่อย่างเดียวร้อยละ 21 และพบว่ามารดาที่มีการเจ็บแผลผ่าตัดคลอดมากจะสัมพันธ์กับการนอนโรงพยาบาลที่นานขึ้น โดยหากพบมารดามีคะแนนการเจ็บแผลผ่าตัดคลอดเพิ่มขึ้น 1 คะแนน จะพบว่าทำให้มีการนอนโรงพยาบาลนานขึ้น 7.98 ชั่วโมง นอกจากนี้ ยังพบว่ามารดาที่มีการเจ็บแผลผ่าตัดคลอดมากจะสัมพันธ์กับการพบภาวะซึมเศร้าหลังคลอดเพิ่มขึ้นด้วย1
เอกสารอ้างอิง
Babazade R, Vadhera RB, Krishnamurthy P, et al. Acute postcesarean pain is associated with in-hospital exclusive breastfeeding, length of stay and post-partum depression. J Clin Anesth 2020;62:109697.
รศ.นพ.ภาวิน พัวพรพงษ์
การจัดระบบพี่เลี้ยงนมแม่เพื่อให้คำปรึกษาในกรณีมารดามีปัญหาหรืออุปสรรคในการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ มีการศึกษาถึงประสิทธิภาพในการจัดระบบพี่เลี้ยงนมแม่ โดยเปรียบเทียบผลของการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ในกลุ่มที่มีและไม่มีการจัดระบบพี่เลี้ยงนมแม่ ผลการศึกษาพบว่า ผลการประเมินการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ในกลุ่มที่มีการจัดระบบพี่เลี้ยงนมแม่ดีกว่าการไม่มีการจัดระบบพี่เลี้ยงนมแม่อย่างมีนัยสำคัญที่ในระยะหลังคลอดที่ 1, 2 และ 3 เดือน1 ดังนั้น การจัดระบบพี่เลี้ยงนมแม่เป็นหนึ่งในระบบการจัดการให้การสนับสนุนการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ที่โรงพยาบาลที่มีความพร้อมควรดำเนินการจัดระบบพี่เลี้ยงนมแม่เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการให้การดูแลการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่
เอกสารอ้างอิง
Azimi N, Nasiri A. The effect of peer counseling on breastfeeding behavior of primiparous mothers: A randomized controlled field trial. Public Health Nurs 2020.
รศ.นพ.ภาวิน พัวพรพงษ์
การให้มารดาอยู่กับทารก 24 ชั่วโมงหลังคลอดช่วยสนับสนุนการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ และเป็นข้อหนึ่งในเกณฑ์บันไดสิบขั้นสู่ความสำเร็จในการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ มีการศึกษาในสหรัฐอเมริกาถึงความคุ้มค่าในการให้มารดาอยู่กับทารก 24 ชั่วโมงหลังคลอดกับการแยกดูแลมารดาและทารกพบว่า การให้มารดาอยู่กับทารก 24 ชั่วโมงหลังคลอดลดค่าใช้จ่ายในการดูแลทารกปีละราว 500 ล้านดอลล่าร์1 ซึ่งจะเห็นว่านอกจากการให้มารดาอยู่กับทารก 24 ชั่วโมงหลังคลอดจะมีประโยชน์ในการสนับสนุนการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่แล้ว ยังเป็นแนวทางการดูแลรักษาที่มีความคุ้มค่าในเชิงเศรษฐศาสตร์สาธารณสุข
เอกสารอ้างอิง
Avram CM, Yieh L, Dukhovny D, Caughey AB. A Cost-Effectiveness Analysis of Rooming-in and Breastfeeding in Neonatal Opioid Withdrawal. Am J Perinatol 2020;37:1-7.
รศ.นพ.ภาวิน พัวพรพงษ์
มีคำถามว่า หลังคลอดควรมีการให้คำปรึกษาเรื่องการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่บ่อยแค่ไหน มีการศึกษาในประเทศสเปนที่ช่วยตอบคำถามนี้ โดยมีการเปรียบเทียบการให้คำปรึกษาในมารดาครรภ์แรกหลังคลอด 1-4 ครั้ง แล้วประเมินการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ในวันที่สามหลังคลอด ผลการศึกษาพบว่า การให้คำปรึกษา 1 ครั้ง, 2 ครั้ง, 3 ครั้ง และ 4 ครั้งไม่ได้เพิ่มการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ในระยะแรกหลังคลอด1 ซึ่งการที่ผลเป็นเช่นนี้ อาจจะเกิดจากเมื่อมารดามีความรู้และความเข้าใจถึงความสำคัญและความจำเป็นในการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่จากการให้คำปรึกษาในครั้งแรกแล้ว การเพิ่มจำนวนครั้งของการให้คำปรึกษา อาจไม่เกิดผลที่จะเพิ่มอัตราการเลี้ยงลูกด้วนมแม่ ซึ่งสิ่งนี้น่าจะแสดงถึงการเน้นถึงรูปแบบ ประสิทธิภาพ และคุณภาพของการให้คำปรึกษาน่าจะสำคัญมากกว่าจำนวนครั้งของการให้คำปรึกษา
เอกสารอ้างอิง
Asmiraha R, Alasiry E, Nontji W. The relationship between the frequency of breastfeeding counseling with the adequacy of breastfeeding to the newborn babies. Enferm Clin 2020;30 Suppl 2:186-9.
เรื่องนำทาง
แหล่งความรู้ เกี่ยวกับสูติ-นรีเวช (Obstetrics-Gynecology)