คลังเก็บหมวดหมู่: ความรู้สำหรับนักศึกษา

ความรู้สำหรับนักศึกษา

หลังคลอดบุตร มารดาที่ติดเชื้อโควิด 19 สามารถโอบกอดทารกเนื้อแนบเนื้อได้หรือไม่?

รศ.นพ.ภาวิน พัวพรพงษ์

คำตอบคือ มารดาสามารถโอบกอดทารกเนื้อแนบเนื้อได้ แต่จำเป็นต้องมีการป้องกัน โดยมารดาต้องใส่หน้ากากอนามัยและล้างมือบ่อย ๆ เพื่อป้องกันการแพร่เชื้อผ่านสารคัดหลั่งจากการไอ หรือจามของมารดาไปสู่ทารก แต่ในกรณีที่มารดามีภาวะปอดอักเสบรุนแรง มารดาอาจไม่สามารถให้การโอบกอดทารกเนื้อแนบเนื้อหลังคลอด ซึ่งในกรณีนี้ การโอบกอดทารกเนื้อแนบเนื้ออาจทำโดยบิดาหรือญาติที่มีบทบาทในการดูแลทารกแทน1

เอกสารอ้างอิง

1.            Davanzo R, Moro G, Sandri F, Agosti M, Moretti C, Mosca F. Breastfeeding and Coronavirus Disease-2019. Ad interim indications of the Italian Society of Neonatology endorsed by the Union of European Neonatal & Perinatal Societies. Matern Child Nutr 2020:e13010.

หากสตรีตั้งครรภ์ติดเชื้อโควิด 19 จำเป็นต้องผ่าตัดคลอดหรือไม่?

รศ.นพ.ภาวิน พัวพรพงษ์

คำตอบคือ ไม่จำเป็น แต่หากมารดามีภาวะปอดอักเสบ การพิจารณาการผ่าตัดคลอดอาจมีความจำเป็น เนื่องจากหากเกิดภาวะปอดอักเสบในมารดาที่ตั้งครรภ์ การดูแลมารดาขณะที่มีทารกอยู่ในครรภ์ การติดตาม หรือการเฝ้าระวังอันตรายที่จะเกิดกับทารกจะเป็นไปด้วยความยากลำบาก ดังนั้น หากทารกมีอายุครรภ์ที่ครบกำหนดหรืออยู่ในระยะที่สามารถเลี้ยงดูทารกได้ เมื่อชั่งน้ำหนักเปรียบเทียบข้อดีของการให้ทารกคลอดออกมา หากมากกว่าข้อเสียของการปล่อยให้ทารกอยู่ในครรภ์และติดตามเฝ้าระวัง ซึ่งการพิจารณาให้มารดาคลอดในมารดาที่ยังไม่มีการเจ็บครรภ์ อาจจำเป็นต้องใช้การผ่าตัดคลอด1

เอกสารอ้างอิง

1.            Davanzo R, Moro G, Sandri F, Agosti M, Moretti C, Mosca F. Breastfeeding and Coronavirus Disease-2019. Ad interim indications of the Italian Society of Neonatology endorsed by the Union of European Neonatal & Perinatal Societies. Matern Child Nutr 2020:e13010.

เชื้อโควิด 19 จะติดเชื้อจากการตั้งครรภ์ผ่านจากแม่ไปสู่ลูกหรือไม่?

รศ.นพ.ภาวิน พัวพรพงษ์

คำตอบคือ เท่าที่มีข้อมูลในปัจจุบัน เชื้อโควิด 19 ไม่มีการติดเชื้อจากมารดาไปสู่ทารกในครรภ์ การติดเชื้อจะเกิดจากสัมผัสสารคัดหลั่งที่มีเชื้อโควิด 19 จากการไอ หรือจามเป็นหลัก และส่วนน้อยจะเกิดจากสารคัดหลั่งสัมผัสกับเยื่อบุตา ซึ่งจะคล้ายคลึงกับเชื้อในกลุ่มเดียวกันที่มีการระบาดมาก่อน ได้แก่ SAR ดังนั้นทารกในครรภ์จะไม่ติดเชื้อโควิดขณะอยู่ในครรภ์ แต่เมื่อมารดาคลอดทารกออกมา หากมารดาติดเชื้อและไม่มีการป้องกัน ทารกก็อาจได้รับเชื้อจากมารดาในช่วงหลังคลอดได้1

เอกสารอ้างอิง

1.            Davanzo R, Moro G, Sandri F, Agosti M, Moretti C, Mosca F. Breastfeeding and Coronavirus Disease-2019. Ad interim indications of the Italian Society of Neonatology endorsed by the Union of European Neonatal & Perinatal Societies. Matern Child Nutr 2020:e13010.

คำถามเกี่ยวกับโควิด 19 กับการตั้งครรภ์ การคลอด และการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่

รศ.นพ.ภาวิน พัวพรพงษ์

            ก่อนอื่นต้องเริ่มต้นก่อนว่า โควิด 19 เป็นโรคที่เริ่มมีการแพร่ระบาดในช่วงปลายปี 2562 โดยเป็นโรคที่เกิดจากการติดเชื้อโคโรนาไวรัส ซึ่งเมื่อมีการติดเชื้อ คนที่ติดเชื้อส่วนใหญ่อาจไม่มีอาการ หรือมีอาการเล็กน้อย โดยส่วนน้อยที่พบมีอาการรุนแรงที่มีภาวะปอดอักเสบที่จำเป็นต้องใช้เครื่องช่วยหายใจ อย่างไรก็ตาม เนื่องจากการติดเชื้อสามารถแพร่ระบาดไปได้รวดเร็ว เนื่องจากการแพร่เชื้อสามารถแพร่เชื้อได้ทั้งจากคนที่มีอาการน้อยและไม่มีอาการ ทำให้มีคนที่ติดเชื้อจำนวนมาก เกิดคนที่มีอาการรุนแรงมากพร้อม ๆ กัน จนเกิดการขาดแคลนอุปกรณ์และบุคลากรทางการแพทย์ที่จะให้การดูแลได้อย่างเหมาะสม จึงเกิดการเสียชีวิตของผู้ติดเชื้อได้มาก และเนื่องจากเป็นโรคที่เกิดใหม่ ดังนั้นข้อมูลรายละเอียดบางอย่างจึงยังมีจำกัด แนวทางการดูแลหรือให้คำปรึกษาจึงเป็นแนวทางที่เกิดจากข้อมูลที่มีอยู่ปัจจุบัน ณ ตอนนี้เท่านั้น

            คำถามที่มีข้อสงสัยกันในเรื่องแรก คือ

หากสตรีตั้งครรภ์เกิดการติดเชื้อโควิด 19 จะเป็นอย่างไร?

คำตอบคือ สตรีตั้งครรภ์หากมีการติดเชื้อจะมีอาการเหมือนกับคนที่ไม่ได้ตั้งครรภ์ การติดเชื้อไม่ได้พบว่าทำให้สตรีตั้งครรภ์มีอาการที่รุนแรงกว่า อย่างไรก็ตาม ในขณะที่สตรีตั้งครรภ์ หากมารดาเกิดภาวะปอดอักเสบย่อมเกิดความเสี่ยงหรืออันตรายแก่ทารกได้ เนื่องจากในกรณีที่มารดาหายใจหอบเหนื่อย ออกซิเจนที่แลกเปลี่ยนที่ปอดจะลดลง ดังนั้น หากไม่มีการแก้ไขหรือใส่ท่อช่วยหายใจ ทารกที่อยู่ในครรภ์อาจเกิดภาวะการขาดออกซิเจนได้ ซึ่งถ้าเกิดขึ้นเป็นระยะเวลายาวนาน จะเกิดอันตรายแก่ทารก โดยอาจเกิดการแท้ง การคลอดก่อนกำหนดได้1

เอกสารอ้างอิง

1.            Davanzo R, Moro G, Sandri F, Agosti M, Moretti C, Mosca F. Breastfeeding and Coronavirus Disease-2019. Ad interim indications of the Italian Society of Neonatology endorsed by the Union of European Neonatal & Perinatal Societies. Matern Child Nutr 2020:e13010.

ทำไมการกินนมแม่ช่วยป้องกันการเกิดกลุ่มอาการเมตาบอลิก

รศ.นพ.ภาวิน พัวพรพงษ์

กลุ่มอาการเมตาบอลิก (metabolic syndrome) ได้แก่ โรคเบาหวาน ไขมันในเลือดสูง ความดันโลหิตสูงที่จะนำไปสู่กลุ่มโรคหัวใจและหลอดเลือดสมอง โดยกลุ่มโรคนี้จะเป็นโรคที่เกิดจากพื้นฐานการเผาพลาญพลังงานของร่างกาย  แล้วการกินนมแม่มีความสัมพันธ์กับกลุ่มโรคเมตาบอลิกอย่างไร มีการศึกษาถึงประโยชน์ของการกินนมแม่ของทารก ซึ่งพบว่าจะช่วยป้องกันการเกิดกลุ่มโรคเมตาบอลิกได้ แล้วมีคำอธิบายสำหรับการช่วยป้องกันหรือลดการเกิดกลุ่มอาการเมตาบอลิกหรือไม่ ตอนนี้เริ่มมีการศึกษาที่อธิบายกระบวนการป้องกันการเกิดกลุ่มอาการเมตาบอลิก ซึ่งพบว่า ทารกที่กินนมแม่จะมีความสัมพันธ์กับไมโตคอนเดรีย (mitochondria) ในเลือดที่เพิ่มขึ้น และหากทารกกินนมแม่นาน เมื่ออายุย่างเข้าวัยรุ่นจะยิ่งพบมีไมโตคอนเดรียยิ่งมากขึ้นกว่าทารกที่กินนมแม่ในระยะเวลาสั้น1 ไมโตคอนเดรียเป็นส่วนประกอบของเซลล์ที่ทำหน้าที่เกี่ยวกับการควบคุมการเผาพลาญพลังงานของเซลล์ ดังนั้น นี่อาจเป็นจุดเริ่มต้นของคำอธิบายเหตุผลที่การกินนมแม่ช่วยป้องกันการเกิดกลุ่มอาการเมตาบอลิกได้ อย่างไรก็ตาม รายละเอียดของกระบวนการยังต้องการการศึกษาเพิ่มเติมต่อไปในอนาคต

เอกสารอ้างอิง

1.            Cosemans C, Nawrot TS, Janssen BG, et al. Breastfeeding predicts blood mitochondrial DNA content in adolescents. Sci Rep 2020;10:387.