คลังเก็บหมวดหมู่: ความรู้สำหรับนักศึกษา

ความรู้สำหรับนักศึกษา

อาการทารกร้องกวนโคลิก

เด็กป่วย

รศ.นพ.ภาวิน พัวพรพงษ์

? ? ? ? ? ?อาการของทารกที่ร้องกวนที่เรียกว่า โคลิก จะมีลักษณะเฉพาะของการร้องกวน โดยทารกที่มีอาการมักเริ่มมีอาการในสัปดาห์ที่สองหลังคลอดและจะหายไปเองเมื่อทารกอายุได้สี่เดือน การร้องกวนของทารกจะเป็นการร้องกวนที่ต่อเนื่องนานกว่า 3 ชั่วโมงต่อวัน มากกว่า 3 ครั้งต่อสัปดาห์ และเป็นต่อเนื่องกันนานกว่า 3 สัปดาห์ ซึ่งจะพบในทารกที่มีการเจริญเติบโตปกติ และมีสุขภาพดี

? ? ? ? ? ในการให้การวินิจฉัยอาการโคลิก เริ่มจากการซักประวัติ สอบถามอายุของทารกและอาการร้องกวนเริ่มต้นเมื่อไร ลักษณะการร้องกวนเป็นอย่างไร ได้มีการตรวจร่างกายทารกแล้วหรือไม่ และอาการร้องกวนได้รับการดูแลอย่างไร เพื่อให้ได้รับข้อมูลที่เพียงพอที่จะวิเคราะห์และวางแผนการให้คำปรึกษาที่เหมาะสม สำหรับคำแนะนำและแนวทางการช่วยเหลือเบื้องต้น ได้แก่

? ? ? ? ? ? -การสังเกตการกินนมของทารกว่า กินนมเพียงพอและเหมาะสมหรือไม่ กินนมมากไปหรือน้อยไปไหม

? ? ? ? ? ? ?-สังเกตอาการที่ไม่สบายท้อง แน่นหรือปวดท้องของทารกมีหรือไม่ ซึ่งอาจสัมพันธ์กับการกินหรือดูดลมขณะกินนมมากเกินไป และไม่ได้มีการจับทารกเรอ ทารกจะรู้สึกไม่สบายท้องได้

? ? ? ? ? ? ?-มารดาอาจใช้วิธีทำให้ทารกสงบเบื้องต้น ได้แก่ การร้องเพลงกล่อม การไกวเปลหรือใช้โยกเยก การอุ้มทารกให้เนื้อแนบเนื้อ การนวดทารก? และการเดินเพื่อเปลี่ยนบรรยากาศรอบด้าน วิธีเหล่านี้อาจช่วยให้ทารกหยุดร้องไห้และสงบได้ หากวิธีเบื้องต้นไม่ได้ผล การทดลองให้มารดางดอาหารจำพวกผลิตภัณฑ์จากนมหรือเนยของวัว 10-14 วัน หากอาการทารกดีขึ้น อาการโคลิกอาจมีสาเหตุมาจากอาหารของมารดา หากไม่ดีขึ้นให้มารดากลับมารับประทานอาหารได้เหมือนเดิม

? ? ? ? ? ? ?-สิ่งที่ต้องระมัดระวังเสมอคือ การร้องกวนของทารกที่เกิดจากการเจ็บป่วยของทารก โดยมารดาอาจสังเกตได้จากทารกที่ร้องกวน กินนมได้น้อยลง ง่วงซึม น้ำหนักขึ้นน้อย มีไข้ หรือขับถ่ายผิดปกติ ซึ่งต้องการการดูแลและการวินิจฉัยเพิ่มเติมจากแพทย์

เอกสารอ้างอิง

  1. Cadwell K, Turner-Maffei C. Pocket guide for lactation management. 2nd?ed. Burlington: Jones & Bartlett Learning 2014.

 

ทารกง่วงหลับ ไม่ยอมดูดนม

47

รศ.นพ.ภาวิน พัวพรพงษ์

? ? ? ? ?การที่ทารกง่วงหลับ ไม่ยอมดูดนม สิ่งที่มารดาต้องสังเกตและให้ความสนใจคือ ทารกกินนมได้เพียงพอหรือไม่ และมีการเจริญเติบโตเป็นอย่างไร ตามเกณฑ์กำหนดหรือไม่ จำนวนครั้งที่ปัสสาวะและอุจจาระเป็นอย่างไร หากทารกกินนมได้เพียงพอ มีการเจริญเติบโตตามเกณฑ์ อาจเป็นจากทารกดูดนมได้เร็ว จนอิ่มและง่วงหลับ ซึ่งในกรณีนี้จะไม่เป็นปัญหา สามารถติดตามดูแลได้ตามปกติ แต่หากทารกง่วงหลับ กินนมได้ไม่เพียงพอ การให้การดูแลทารกจำเป็นต้องมีการทบทวนประวัติ ดังนี้

? ? ? ? -ทารกอายุเท่าไร คลอดอย่างไร มีภาวะแทรกซ้อนระหว่างการคลอดหรือไม่

? ? ? ? -อาการง่วงหลับ ไม่ยอมดูดนมเป็นมาตั้งแต่เมื่อไร

? ? ? ? -ทารกได้รับยาที่ทำให้มีอาการง่วงหลับหรือไม่ โดยอาจได้รับโดยตรงหรือได้รับจากการที่มารดารับประทานแล้วยาผ่านทางน้ำนม ยาที่มักใช้บ่อยที่ทำให้ทารกง่วงหลับ ได้แก่ ยาลดน้ำมูก โดยหากเป็นหลังคลอดใหม่ๆ อาจเป็นจากยาระงับความรู้สึกหรือยาแก้ปวดที่ให้ระหว่างการคลอด

? ? ? ?-การให้นมของมารดาได้ให้ตามอาการที่บ่งบอกว่าทารกหิวหรือไม่

? ? ? ?สิ่งที่ควรให้ความสำคัญ ได้แก่ อาการง่วงหลับของทารกเป็นอาการง่วงซึมหรือไม่ การหายใจของทารกเป็นอย่างไร อะไรที่ทำให้ทารกร้องไห้ต่อเนื่อง ทารกขับถ่ายน้อยกว่าปกติ หรือทารกมีความพิการหรือความผิดปกติแต่กำเนิดที่พบร่วมด้วยหรือไม่ สิ่งเหล่านี้อาจต้องการความเร่งด่วนในการช่วยเหลือทางการแพทย์

? ? ? ? ?การดูแลเบื้องต้นสำหรับทารกที่ง่วงหลับ ไม่ยอมดูดนม มีดังนี้

? ? ? ? -แนะนำให้มารดาโอบอุ้มทารกเนื้อแนบเนื้อบ่อยๆ เพื่อกระตุ้นพัฒนาการของระบบประสาทและการสั่งงานของกล้ามเนื้อ

? ? ? ?-ให้มารดาสังเกตการนอนหลับของทารก และสังเกตอาการหลับตื้น ใกล้ตื่น หรืออาการที่บ่งบอกว่าทารกหิว โดยแม้ทารกยังหลับตา แต่กลอกตาไปมา หันศีรษะ และขยับตัว มารดาควรอุ้มทารกมาไว้ที่เต้านมเพื่อสร้างความคุ้นเคยให้กับทารกถึงจังหวะของการให้นม

? ? ? ? -ควรจัดบรรยากาศให้เหมาะสมในการให้นมและไม่ควรห่อตัวทารกแน่นจนเกินไป

? ? ? ? -จดบันทึกการกินนมและการขับถ่ายปัสสาวะและอุจจาระของทารกเพื่อประเมินความเพียงพอในการกินนม

? ? ? ? -หากทารกมีอาการง่วงหลับบ่อย เป็นซ้ำๆ หรือได้รับน้ำนมไม่เพียงพอ ควรปรึกษาแพทย์เพื่อช่วยในการวางแผนการรักษา และนัดติดตามผลของการรักษา

เอกสารอ้างอิง

  1. Cadwell K, Turner-Maffei C. Pocket guide for lactation management. 2nd?ed. Burlington: Jones & Bartlett Learning 2014.

 

แนวทางในการดูแลทารกที่ไม่ยอมหยุดร้องไห้

IMG_0689

รศ.นพ.ภาวิน พัวพรพงษ์

? ? ? ? ? ในการดูแลทารกที่ไม่ยอมหยุดร้องไห้ มีคำถามที่ต้องตั้งคำถามสำหรับมารดาและผู้ดูแลเพื่อที่จะนำมีวิเคราะห์ หาสาเหตุที่ทำให้ทารกไม่ยอมหยุดร้องไห้ สำหรับแนวทางเบื้องต้นในการดูแลทารกที่ไม่หยุดร้องไห้ ได้แก่

? ? ? ? -การให้มารดานำทารกมาไว้ที่หน้าอก ให้เนื้อแนบเนื้อ และพยายามจัดสิ่งแวดล้อมให้สงบ ปราศจากสิ่งรบกวน เช่น แสงที่จ้าเกินไป เสียงที่ดัง หรือการสิ่งที่เคลื่อนไหวที่จะดึงความสนใจของทารก

? ? ? ? -ใช้เทคนิคต่างๆ ที่ช่วยให้ทารกสงบ ได้แก่ การนวด การใส่เตียงโยกเยก การร้องเพลงกล่อมเด็ก หรือการอาบน้ำให้ทารก

? ? ? ? -หากทารกมีลักษณะที่บ่งบอกถึงอาการหิว ควรให้ทารกเข้าเต้าเพื่อกินนม

? ? ? ?สิ่งที่ต้องคำนึงถึงเสมอ

? ? ? ?-หากใช้เทคนิคเบื้องต้นในการช่วยให้ทารกสงบแล้วไม่ดีขึ้น หรือทารกมีอาการหรืออาการแสดงที่บ่งบอกถึงสัญญาณเสี่ยงอันตราย แนะนำว่า ควรส่งพบแพทย์เพื่อประเมินโดยเร่งด่วน

? ? ? ?-การดูแลทารกที่ปัญหาเรื่องไม่หยุดร้องไห้ อาจต้องมีการติดตามมารดาและทารกเป็นระยะ ดังนั้น ควรมีแพทย์หรือบุคลากรทางการแพทย์ที่ให้คำปรึกษาเป็นผู้รับผิดชอบในการติดตามมารดาและทารก

เอกสารอ้างอิง

  1. Cadwell K, Turner-Maffei C. Pocket guide for lactation management. 2nd?ed. Burlington: Jones & Bartlett Learning 2014.

 

ทารกไม่ยอมหยุดร้องไห้ ต้องคำนึงถึงสิ่งใดบ้าง

IMG_0691

รศ.นพ.ภาวิน พัวพรพงษ์

? ? ? ? ? ? ปัญหาที่มารดาอาจพบได้บ่อยๆ คือ การที่ทารกไม่หยุดร้องไห้ ซึ่งทารกเองไม่สามารถพูดสื่อสารถึงความต้องการ การไม่สบายตัว หรือความเจ็บป่วยที่ทำให้ทารกมีได้ ดังนั้น มารดาหรือผู้ดูแลต้องสังเกตภาษากายต่างๆ ที่ทารกแสดงออก กรณีที่ทารกไม่หยุดร้องไห้ มารดาหรือผู้ดูแลควรสอบถามตนเองว่า

? ? ? ? ? -ปัญหาทารกไม่หยุดร้องไห้เป็นมานานเท่าไหร่แล้ว

? ? ? ? ? -อะไรที่ทำให้ทารกร้องไห้ต่อเนื่อง

? ? ? ? ? -วิธีการใดที่ใช้ในการทำให้ทารกสงบหรือหยุดร้องไห้

? ? ? ?โดยควรต้องเฝ้าระวังตามลำดับความเร่งด่วนว่า

? ? ? ? ?-ทารกที่ร้องไห้มีความจำเป็นในเรื่องการรักษาพยาบาลเร่งด่วนหรือไม่

? ? ? ? ?-ทารกมีอาการที่บ่งบอกว่าทารกมีความเจ็บปวดหรือมีความเครียด

? ? ? ? ?-ทารกมีอาการที่บ่งบอกถึงลักษณะของการหิวหรือไม่

? ? ? ? ?-การตอบสนองของมารดาและครอบครัวต่ออาการหิวของทารก

เอกสารอ้างอิง

  1. Cadwell K, Turner-Maffei C. Pocket guide for lactation management. 2nd?ed. Burlington: Jones & Bartlett Learning 2014.

การหาสาเหตุที่ทารกไม่ยอมนอนตอนกลางคืน

IMG_0693

 

รศ.นพ.ภาวิน พัวพรพงษ์

? ? ? ? ? ? มารดาควรได้รับการสอบถามประวัติโดยละเอียดถึงลักษณะของการที่ทารกไม่ยอมนอนตอนกลางคืน อายุของทารก การกินนมของทารกและการดูแลของทารกในช่วงกลางวัน จากนั้น บุคลากรทางการแพทย์ควรมาทบทวนดูถึงสาเหตุที่พบบ่อยได้แก่ ลักษณะของการดูแลทารกที่ไม่เหมาะสม โดยทบทวนว่า ทารกได้รับนมเพียงพอระหว่างช่วงกลางวันหรือไม่ หากทารกได้รับนมไม่เพียงพอ การตื่นหรือไม่ยอมนอนในเวลากลางคืน อาจเกิดจากความต้องการของทารกที่ต้องการกินนม ในช่วงเวลากลางวัน ทารกบางคนอาจนอนหลับนาน ในขณะที่บางคนอาจสนใจสิ่งเร้ารอบด้าน ทำให้กินนมได้น้อย การแนะนำช่วยเหลือ อาจให้มารดาสังเกตทารกที่บ่งบอกถึงความหิวของทารก ซึ่งอาจสังเกตได้แม้เมื่อทารกหลับ โดยพบมีการขยับตัว กระสับกระส่าย กรอกตาหรือหันศีรษะไปมา การให้ทารกกินนมได้มากขึ้นในช่วงกลางวัน และก่อนการนอนในช่วงกลางคืน จะทำให้ทารกหลับได้นานขึ้น

? ? ? ? ? ?ในช่วงเวลากลางวัน ในชีวิตประจำวันจะมีสิ่งเร้าที่หลากหลาย เสียงทีวี วิทยุ เสียงรถยนต์ หรือเสียงดนตรี ทารกที่ได้รับสิ่งเร้าที่ชวนให้ทารกสนใจจะทำให้ทารกกินนมได้น้อย หากสาเหตุเกิดจากสิ่งเร้า อาจต้องหาที่ที่เงียบสงบ บรรยากาศอบอุ่น มีเสียงรบกวนน้อยในการให้นมทารก ทารกก็จะกินนมได้มากขึ้น สำหรับในช่วงเวลากลางคืน มารดาควรให้บรรยากาศในห้องนอนสงบเงียบ อบอุ่น และมีเสียงรบกวนน้อยเช่นกัน เนื่องจากการที่มีสิ่งเร้ามาก เมื่อทารกตื่นขึ้นมาเวลากลางคืน อาจใช้เวลานานกว่าจะนอนหรือไม่ยอมนอนจากการสนใจสิ่งเร้าได้

? ? ? ? ? ? ?อย่างไรก็ตาม บางครั้งทารกอาจมีความเจ็บป่วยหรือไม่สบายตัวจากสาเหตุอื่นๆ ก็สามารถทำให้ทารกไม่ยอมนอนได้ ดังนั้น ในกรณีที่ทารกไม่ยอมนอนในเวลากลางคืน และมีอาการไม่สบายตัว ร้องไห้ หงุดหงิด ไม่ค่อยยอมกินนม มารดาอาจจำเป็นต้องปรึกษาแพทย์เพื่อช่วยหาสาเหตุซึ่งอาจเป็นจากการเจ็บป่วย โดยสาเหตุของความเจ็บป่วยที่พบบ่อย ได้แก่ การติดเชื้อทางเดินหายใจส่วนบน การอักเสบของหูชั้นกลาง อาการท้องเสียและลำไส้อักเสบ

เอกสารอ้างอิง

  1. Cadwell K, Turner-Maffei C. Pocket guide for lactation management. 2nd?ed. Burlington: Jones & Bartlett Learning 2014.