คลังเก็บหมวดหมู่: ข่าวสาร

ข่าวสาร

ทารกไม่ยอมหยุดร้องไห้ ต้องคำนึงถึงสิ่งใดบ้าง

IMG_0691

รศ.นพ.ภาวิน พัวพรพงษ์

? ? ? ? ? ? ปัญหาที่มารดาอาจพบได้บ่อยๆ คือ การที่ทารกไม่หยุดร้องไห้ ซึ่งทารกเองไม่สามารถพูดสื่อสารถึงความต้องการ การไม่สบายตัว หรือความเจ็บป่วยที่ทำให้ทารกมีได้ ดังนั้น มารดาหรือผู้ดูแลต้องสังเกตภาษากายต่างๆ ที่ทารกแสดงออก กรณีที่ทารกไม่หยุดร้องไห้ มารดาหรือผู้ดูแลควรสอบถามตนเองว่า

? ? ? ? ? -ปัญหาทารกไม่หยุดร้องไห้เป็นมานานเท่าไหร่แล้ว

? ? ? ? ? -อะไรที่ทำให้ทารกร้องไห้ต่อเนื่อง

? ? ? ? ? -วิธีการใดที่ใช้ในการทำให้ทารกสงบหรือหยุดร้องไห้

? ? ? ?โดยควรต้องเฝ้าระวังตามลำดับความเร่งด่วนว่า

? ? ? ? ?-ทารกที่ร้องไห้มีความจำเป็นในเรื่องการรักษาพยาบาลเร่งด่วนหรือไม่

? ? ? ? ?-ทารกมีอาการที่บ่งบอกว่าทารกมีความเจ็บปวดหรือมีความเครียด

? ? ? ? ?-ทารกมีอาการที่บ่งบอกถึงลักษณะของการหิวหรือไม่

? ? ? ? ?-การตอบสนองของมารดาและครอบครัวต่ออาการหิวของทารก

เอกสารอ้างอิง

  1. Cadwell K, Turner-Maffei C. Pocket guide for lactation management. 2nd?ed. Burlington: Jones & Bartlett Learning 2014.

การหาสาเหตุที่ทารกไม่ยอมนอนตอนกลางคืน

IMG_0693

 

รศ.นพ.ภาวิน พัวพรพงษ์

? ? ? ? ? ? มารดาควรได้รับการสอบถามประวัติโดยละเอียดถึงลักษณะของการที่ทารกไม่ยอมนอนตอนกลางคืน อายุของทารก การกินนมของทารกและการดูแลของทารกในช่วงกลางวัน จากนั้น บุคลากรทางการแพทย์ควรมาทบทวนดูถึงสาเหตุที่พบบ่อยได้แก่ ลักษณะของการดูแลทารกที่ไม่เหมาะสม โดยทบทวนว่า ทารกได้รับนมเพียงพอระหว่างช่วงกลางวันหรือไม่ หากทารกได้รับนมไม่เพียงพอ การตื่นหรือไม่ยอมนอนในเวลากลางคืน อาจเกิดจากความต้องการของทารกที่ต้องการกินนม ในช่วงเวลากลางวัน ทารกบางคนอาจนอนหลับนาน ในขณะที่บางคนอาจสนใจสิ่งเร้ารอบด้าน ทำให้กินนมได้น้อย การแนะนำช่วยเหลือ อาจให้มารดาสังเกตทารกที่บ่งบอกถึงความหิวของทารก ซึ่งอาจสังเกตได้แม้เมื่อทารกหลับ โดยพบมีการขยับตัว กระสับกระส่าย กรอกตาหรือหันศีรษะไปมา การให้ทารกกินนมได้มากขึ้นในช่วงกลางวัน และก่อนการนอนในช่วงกลางคืน จะทำให้ทารกหลับได้นานขึ้น

? ? ? ? ? ?ในช่วงเวลากลางวัน ในชีวิตประจำวันจะมีสิ่งเร้าที่หลากหลาย เสียงทีวี วิทยุ เสียงรถยนต์ หรือเสียงดนตรี ทารกที่ได้รับสิ่งเร้าที่ชวนให้ทารกสนใจจะทำให้ทารกกินนมได้น้อย หากสาเหตุเกิดจากสิ่งเร้า อาจต้องหาที่ที่เงียบสงบ บรรยากาศอบอุ่น มีเสียงรบกวนน้อยในการให้นมทารก ทารกก็จะกินนมได้มากขึ้น สำหรับในช่วงเวลากลางคืน มารดาควรให้บรรยากาศในห้องนอนสงบเงียบ อบอุ่น และมีเสียงรบกวนน้อยเช่นกัน เนื่องจากการที่มีสิ่งเร้ามาก เมื่อทารกตื่นขึ้นมาเวลากลางคืน อาจใช้เวลานานกว่าจะนอนหรือไม่ยอมนอนจากการสนใจสิ่งเร้าได้

? ? ? ? ? ? ?อย่างไรก็ตาม บางครั้งทารกอาจมีความเจ็บป่วยหรือไม่สบายตัวจากสาเหตุอื่นๆ ก็สามารถทำให้ทารกไม่ยอมนอนได้ ดังนั้น ในกรณีที่ทารกไม่ยอมนอนในเวลากลางคืน และมีอาการไม่สบายตัว ร้องไห้ หงุดหงิด ไม่ค่อยยอมกินนม มารดาอาจจำเป็นต้องปรึกษาแพทย์เพื่อช่วยหาสาเหตุซึ่งอาจเป็นจากการเจ็บป่วย โดยสาเหตุของความเจ็บป่วยที่พบบ่อย ได้แก่ การติดเชื้อทางเดินหายใจส่วนบน การอักเสบของหูชั้นกลาง อาการท้องเสียและลำไส้อักเสบ

เอกสารอ้างอิง

  1. Cadwell K, Turner-Maffei C. Pocket guide for lactation management. 2nd?ed. Burlington: Jones & Bartlett Learning 2014.

คำถามที่ใช้สำหรับทารกไม่ยอมนอนตอนกลางคืน

IMG_0690

รศ.นพ.ภาวิน พัวพรพงษ์

? ? ? ? ? ?การที่ทารกไม่ยอมนอนในตอนกลางคืน อาจพบเป็นปัญหาเมื่อสิ่งนี้ไม่ได้เป็นที่คาดหวังของมารดาและครอบครัว การที่ทารกตื่นและไม่นอนในช่วงกลางคืน บุคลากรทางการแพทย์ควรสอบถามว่า

? ? ? ?-ทารกขณะนี้อายุเท่าไหร่

? ? ? ?-อาการที่ทารกไม่ยอมนอนตอนกลางคืนเป็นมานานแค่ไหนแล้ว

? ? ? ?-ลักษณะที่ทารกไม่ยอมนอนตอนกลางคืนเป็นอย่างไร

? ? ? ?-ทารกนอนช่วงกลางคืนนานกี่ชั่วโมง และนอนช่วงกลางวันนานกี่ชั่วโมง

? ? ? ?-ทารกง่วงหลับระหว่างกลางคืนเมื่อไร

? ? ? ?-ทารกตื่นมากินนมเมื่อไร

? ? ? -ทารกน้ำหนักขึ้นตามเกณฑ์หรือไม่

? ? ? ?จากนั้น บุคลากรควรมาทบทวนดูถึงสาเหตุที่ทำให้ทารกไม่ยอมนอนในช่วงเวลากลางคืน จะทำให้สามารถแนะนำการแก้ปัญหาได้อย่างเหมาะสม?

เอกสารอ้างอิง

  1. Cadwell K, Turner-Maffei C. Pocket guide for lactation management. 2nd?ed. Burlington: Jones & Bartlett Learning 2014.

ทารกที่ปฏิเสธขวดนมหรือการป้อนจากถ้วย

DSC00123

 

รศ.นพ.ภาวิน พัวพรพงษ์

? ? ? ? ? ? ในทารกที่เริ่มต้นด้วยการกินนมแม่และกินนมแม่ได้ดี การให้กินนมจากขวดนมหรือป้อนนมจากถ้วย บางครั้งทารกจะปฏิเสธ เนื่องจากขณะที่กินนมแม่ ทารกจะได้สัมผัสกับอกมารดา ความอบอุ่นและกลิ่นที่คุ้นเคย จะทำให้ทารกสงบและรู้สึกปลอดภัย ทำให้ทารกกินนมได้อย่างอิ่มทั้งใจและอิ่มทั้งกาย

? ? ? ? ? ? ในกรณีที่ทารกปฏิเสธการป้อนนมจากถ้วยหรือจากขวดนมในกรณีมีความจำเป็นต้องให้ บุคลากรทางการแพทย์ควรสอบถามว่า

? ? ? ? -การป้อนนมนั้นใครเป็นคนป้อน มารดา บิดา ปู่ย่าตายาย หรือพี่เลี้ยงเด็ก

? ? ? ? -ป้อนนมอะไรให้แก่ทารก นมแม่ที่บีบเก็บไว้ นมผสม หรืออาหารอื่นๆ

? ? ? ? -การป้อนนมป้อนในที่ใด ที่บ้าน นอกบ้าน ที่โรงพยาบาลหรือสถานที่อื่นๆ

? ? ? ? -ป้อนนมเมื่อไร ป้อนนมเมื่อทารกมีอาการบ่งบอกถึงการหิวหรือไม่

? ? ? ? -เหตุผลในการที่ต้องป้อนนมด้วยถ้วยหรือขวดนม

? ? ? ? ?เมื่อสอบถามถึงรายละเอียดของปัญหาแล้ว การสังเกตขณะให้การป้อนนมมีความสำคัญ เพื่อจะช่วยให้สามารถเข้าใจสภาวการณ์ที่เกิดกับทารกได้ โดยที่ไม่ควรมีความเชื่อว่า การปล่อยให้ทารกหิวมากๆ ทารกก็จะยอมกินเอง เนื่องจากทารกบางคนอาจจะอ่อนเพลียและอ่อนแรงจนไม่สามารถกินนมได้ตามที่ต้องการและอาจเกิดอันตรายได้

เอกสารอ้างอิง

  1. Cadwell K, Turner-Maffei C. Pocket guide for lactation management. 2nd?ed. Burlington: Jones & Bartlett Learning 2014.

 

มารดาบีบเก็บน้ำนมได้น้อยควรทำอย่างไร

hand expression11

รศ.นพ.ภาวิน พัวพรพงษ์

? ? ? ? ? ? ? โดยทั่วไป นมแม่จะเพียงพอสำหรับทารกในแต่ละช่วงเวลา การให้นมแม่ตามความต้องการของทารกจะดีที่สุด แต่ในกรณีที่มารดาต้องไปทำงานนอกบ้าน การบีบน้ำนมเก็บไว้ให้ทารกอาจมีความจำเป็น การบีบเก็บน้ำนมตั้งแต่ในระยะแรกหลังคลอดสามารถทำได้ แต่มารดาไม่ควรคาดหวังว่าจะสามารถบีบน้ำนมเก็บได้เต็มแก้วหรือเต็มขวดในครั้งแรก นมแม่เมื่อได้รับการกระตุ้นบ่อยๆ และให้ทารกดูดหรือบีบออกจนเกลี้ยงเต้า น้ำนมจะผลิตเพิ่มขึ้น

? ? ? ? ? ? ?หากในช่วงหลังคลอดใหม่ มารดาให้ทารกกินนมแล้ว บีบเก็บน้ำนมได้น้อย ทารกยังเจริญเติบโตตามเกณฑ์ ขับถ่ายปกติ ไม่ควรวิตกกังวลเรื่องการบีบเก็บน้ำนมได้น้อย การบีบเก็บน้ำนม ควรเริ่มต้นด้วยการบีบน้ำนมด้วยมือก่อนในระยะแรกหลังคลอด โดยอาจบีบน้ำนมในเต้านมข้างที่ทารกไม่ได้ดูดนมขณะเดียวกันกับให้ทารกดูดเต้านมอีกข้าง การดูดนมของทารกจะกระตุ้นฮอร์โมนออกซิโตซินที่จะช่วยให้น้ำนมไหลได้ดีขึ้น เมื่อน้ำนมไหลได้ดี การปั๊มนมจากเต้าทั้งสองพร้อมกันในระหว่างมื้อของการให้นมทารก จะให้ได้น้ำนมมากขึ้นโดยใช้เวลาในการปั๊มน้อยลง ยิ่งกระตุ้นบีบน้ำนมเก็บบ่อยๆ น้ำนมก็ยิ่งผลิตมากขึ้น อย่างไรก็ตาม ?มารดาควรระลึกไว้เสมอว่า การให้นมจากเต้าที่สดใหม่ย่อมดีกว่าการให้น้ำนมที่บีบเก็บหรือแช่เย็นไว้ และการให้นมแม่ที่แช่เย็นไว้ก็ยังดีกว่าการให้นมผสม?

เอกสารอ้างอิง

  1. Cadwell K, Turner-Maffei C. Pocket guide for lactation management. 2nd?ed. Burlington: Jones & Bartlett Learning 2014.