รศ.นพ.ภาวิน
พัวพรพงษ์
การสังเกตการดูดนมที่ไม่มีประสิทธิภาพ1
สังเกตได้จาก
- ไม่ได้ยินเสียงกลืนนมของทารก
- การดูดนมของทารกจะมีลักษณะที่ขยับถี่
ๆ คือจะสั้นและเร็ว
- แม่อาจรู้สึกเจ็บปวด
สำหรับข้อควรระวัง หากมีผู้ช่วยที่จะช่วยมารดาในการเข้าเต้ามือของผู้ช่วยควรประคองศีรษะ
คอและไหล่ ในลักษณะที่อยู่ใต้ท้ายทอยของทารก เพราะหากอยู่เหนือท้ายทอย
เวลาเคลื่อนทารกเข้าเต้า แรงที่เคลื่อนทารกจะไปกดศีรษะให้ก้ม ทำให้การเข้าเต้าที่เหมาะสมของทารกทำได้ยาก1
เอกสารอ้างอิง
1. Naylor AJ, Wester RA. Lactation management self-study
modules, level 1,
fourth edition. In: International
W, ed.2014.
รศ.นพ.ภาวิน
พัวพรพงษ์
หากทารกเข้าเต้าได้ไม่ดีหรือไม่เหมาะสม1
จะสังเกตเห็น
- ริมฝีปากของทารกเม้มแน่น
- จะพบช่องว่างระหว่างคางทารกกับเต้านมมารดา
- จะพบช่องว่างระหว่างจมูกของทารกและเต้านมมารดา
- ริมฝีปากล่างของทารกจะม้วนเข้าด้านใน
- แม่อาจรู้สึกเจ็บปวด
- หัวนมมารดาจะแบนลงหลังจากให้นม
- อาจพบหัวนมมารดาถลอกหรือแตก
เอกสารอ้างอิง
1. Naylor AJ, Wester RA. Lactation management self-study
modules, level 1,
fourth edition. In: International
W, ed.2014.
รศ.นพ.ภาวิน
พัวพรพงษ์
หากทารกมีการเข้าเต้าได้ดีหรือถูกต้อง1
จะสังเกตเห็น
- ริมฝีปากของทารกจะปลิ้นออก
- ปากของทารกจะอ้ากว้าง
- คางของทารกจะชิดเต้านม
- มองเห็นลานนมของมารดาเหนือริมฝีปากบนมากกว่าด้านล่างของริมฝีปากล่างหากมารดามีลานนมขนาดใหญ่ โดยลักษณะการเข้าเต้าลักษณะนี้จะเรียกว่า “การเข้าเต้าแบบไม่สมมาตร (asymmetrical latch)”
เอกสารอ้างอิง
1. Naylor AJ, Wester RA. Lactation management self-study
modules, level 1,
fourth edition. In: International
W, ed.2014.
รศ.นพ.ภาวิน
พัวพรพงษ์
ขั้นตอนในการนำทารกเข้าเต้า
เริ่มจากกระตุ้น รูทติ้งรีเฟล็กซ์(rooting reflex) โดยการสัมผัสริมฝีปากบนของทารกด้วยหัวนมของมารดา
จากนั้น เคลื่อนทารกเข้าหาเต้านมขณะที่ทารกอ้าปากกว้างเพื่อที่จะอมหัวนมและลานนม1
หากทารกมีการเข้าเต้าได้ดีหรือถูกต้อง
จะสังเกตเห็น
- ริมฝีปากของทารกจะปลิ้นออก
- ปากของทารกจะอ้ากว้าง
- คางของทารกจะชิดเต้านม
- มองเห็นลานนมของมารดาเหนือริมฝีปากบนมากกว่าด้านล่างของริมฝีปากล่างหากมารดามีลานนมขนาดใหญ่ โดยลักษณะการเข้าเต้าลักษณะนี้จะเรียกว่า “การเข้าเต้าแบบไม่สมมาตร (asymmetrical latch)”
แสดงดังรูปที่ 1-5 ตามลำดับ
เอกสารอ้างอิง
1. Naylor AJ, Wester RA. Lactation management self-study
modules, level 1,
fourth edition. In: International
W, ed.2014.
รศ.นพ.ภาวิน พัวพรพงษ์
ตำแหน่งการทำงานของลิ้นขณะที่ทารกเข้าเต้ามีความสำคัญ
ซึ่งขณะที่ทารกเข้าเต้านั้น การวางตำแหน่งที่เหมาะสมของลิ้นของทารกจะต้องมีการกดหัวนมและลานนมเข้ากับเพดานแข็งในปากทารก
จากนั้นการมีการขยับลงบริเวณด้านหลังของลิ้นและเพดานอ่อนทำให้เกิดสุญญากาศ โดยความดันภายในช่องปากที่ลดลงนี้
จะส่งผลให้น้ำนมจากลานนมไหลเข้าไปในปากทารก ซึ่งจะไปกระตุ้นการดูดและการกลืนในรูปแบบที่เป็นจังหวะของทารก
อย่างไรก็ตาม
มารดาควรมีการประเมินการเข้าเต้าว่าปฏิบัติได้อย่างเหมาะสมก่อนอนุญาตให้มารดากลับบ้าน
สำหรับการให้ความช่วยเหลือมารดาในการเรียนรู้วิธีการเข้าเต้าอย่างมีประสิทธิภาพเป็นสิ่งสำคัญมากในการป้องกันปัญหาและประสบความสำเร็จในการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่
หมายเหตุ:
ควรทำการสังเกตการให้นมบุตรทุกครั้งก่อนเข้าไปขัดจังหวะและแนะนำการรักษา
เพราะมารดาและทารกอาจทำได้ดีอยู่แล้วและอาจต้องการเพียงกำลังใจเท่านั้น1
เอกสารอ้างอิง
1. Naylor AJ, Wester RA. Lactation
management self-study modules, level 1, fourth edition. In: International W,
ed.2014.
แหล่งความรู้ เกี่ยวกับสูติ-นรีเวช (Obstetrics-Gynecology)