รศ.นพ.ภาวิน พัวพรพงษ์
ความเสี่ยงในการให้ยาลดอาการปวดระหว่างการคลอด มีดังนี้
-การคลอดยาวนานขึ้น
-มีการใช้หัตถการสูงขึ้น
-ทำให้การให้ทารกแรกเกิดได้สัมผัสกับหน้าอกของมารดาและการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่เริ่มช้าลง
-ทำให้เกิดการแยกมารดาจากทารกหลังคลอด
-ทำให้ทารกง่วงซึมและยากที่จะปลุกตื่น
-ลดกลไกการดูดนมของทารก
-น้ำนมลดลง ทำให้ทารกเสี่ยงต่อการเกิดอาการตัวเหลือง ภาวะน้ำตาลในเลือดต่ำ และน้ำหนักตัวขึ้นน้อย
การให้การช่วยเหลือหรือใช้เวลาที่มากขึ้นอาจจำเป็นในการเริ่มการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่และการสร้างความสัมพันธ์ของมารดากับทารกเมื่อมีการใช้ยาลดอาการปวด
ควรมีการพูดคุยอภิปรายกับมารดาถึงวิธีการรับมือกับอาการไม่สบายตัวและความเจ็บปวดระหว่างการคลอดในระหว่างช่วงฝากครรภ์ ซึ่งความต้องการการใช้ยาลดอาการปวดจะมีผลมาจากความเครียด การขาดการสนับสนุนและให้กำลังใจ และปัจจัยอื่นๆ ในห้องคลอด
หนังสืออ้างอิง
1.????? WHO/UNICEF. BFHI Section 3: Breastfeeding promotion and support in a baby-friendly hospital ? 20-hour course. ?2009
?
รศ.นพ.ภาวิน พัวพรพงษ์
????????? บุคลากรทางการแพทย์ ควรจะเสนอการลดความเจ็บปวดจากการคลอดด้วยวิธีการที่ไม่ใช้ยาก่อน ซึ่งมีหลายวิธีดังนี้
??????????? -การให้การสนับสนุนจากเพื่อนที่อยู่เฝ้าระหว่างการคลอด
??????????? -การเดินจงกลม การเดินไปรอบๆ หรือการเคลื่อนไหวเปลี่ยนท่า
??????????? -การนวด
??????????? -การใช้น้ำอุ่น
??????????? -การให้กำลังใจโดยภาษากายหรือการพูด
??????????? -สิ่งแวดล้อมที่เงียบสงบ แสงไฟที่ไม่จ้าเกินไป และมีคนน้อยที่สุดที่เป็นไปได้
??????????? -ท่าในระหว่างการรอคลอดและขณะคลอด ควรมีทางเลือกให้มารดาได้เลือก
หนังสืออ้างอิง
1.????? WHO/UNICEF. BFHI Section 3: Breastfeeding promotion and support in a baby-friendly hospital ? 20-hour course. ?2009
รศ.นพ.ภาวิน พัวพรพงษ์
บทบาทของบุคคลที่อยู่เป็นเพื่อน ควรทำหน้าที่ให้การสนับสนุนมารดาที่คลอด ดังนี้
??????? กระตุ้นให้มารดาเดินหรือเคลื่อนไหวขณะรอคลอด
??????? เสนออาหารว่างและน้ำแก่มารดา
??????? สร้างความเชื่อมั่นให้กับมารดาโดยให้มารดามุ่งความสนใจไปที่กระบวนการของการคลอดที่กำลังดำเนินไปด้วยดี
??????? แนะนำวิธีการที่จะจัดการกับความเจ็บปวดและความวิตกกังวล
??????? นวด จับมือ หรือใช้ผ้าเย็นช่วย
??????? ใช้คำพูดเชิงบวก
หนังสืออ้างอิง
1.????? WHO/UNICEF. BFHI Section 3: Breastfeeding promotion and support in a baby-friendly hospital ? 20-hour course. ?2009
รศ.นพ.ภาวิน พัวพรพงษ์
??????????? การให้การสนับสนุนโดยการมีเพื่อนอยู่ระหว่างการคลอด จะส่งผลในเรื่อง
??????? เพิ่มการตื่นตัวของทารกจากการที่มารดาได้รับยาแก้ปวดลดลง
??????? ลดอาการตัวเย็น (hypothermia) และภาวะน้ำตาลต่ำของทารกเนื่องจากทารกมีความเครียดน้อยกว่าจึงใช้พลังงานน้อยกว่า
??????? ช่วยการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ในระยะแรกและช่วยในการให้นมแม่ได้บ่อยขึ้น
??????? ช่วยให้มารดามีความสัมพันธ์กับทารกง่ายขึ้น
บุคคลที่อยู่เป็นเพื่อนอาจจะเป็นมารดา พี่สาว น้องสาว เพื่อน สามี สมาชิกในครอบครัว หรือบุคลากรทางการแพทย์ที่มีความใกล้ชิดสนิทสนมกันก็ได้ บุคคลที่อยู่เป็นเพื่อนจำเป็นต้องเฝ้าอยู่อย่างต่อเนื่องตั้งแต่รอคลอดจนกระทั่งมารดาเสร็จสิ้นการคลอด
หนังสืออ้างอิง
1.????? WHO/UNICEF. BFHI Section 3: Breastfeeding promotion and support in a baby-friendly hospital ? 20-hour course. ?2009
รศ.นพ.ภาวิน พัวพรพงษ์
?????? -การสนับสนุนให้มีเพื่อนอยู่ด้วยระหว่างการรอคลอดและคลอด จะมีประโยชน์โดยสามารถ
??????? ลดความเจ็บปวดที่รุนแรงจากการคลอด
??????? ช่วยสนับสนุนในการเคลื่อนไหวของมารดา
??????? ลดความเครียด
??????? ช่วยให้การรอคลอดและการคลอดเร็วขึ้น
??????? ลดความจำเป็นในความต้องการในการใช้หัตถการทางการแพทย์
??????? เพิ่มความมั่นใจในตนเองของมารดาในด้านร่างกายและในด้านความสามารถในการคลอดและการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่
หนังสืออ้างอิง
1.????? WHO/UNICEF. BFHI Section 3: Breastfeeding promotion and support in a baby-friendly hospital ? 20-hour course. ?2009
แหล่งความรู้ เกี่ยวกับสูติ-นรีเวช (Obstetrics-Gynecology)