รศ.นพ.ภาวิน พัวพรพงษ์
กลุ่มอาการถุงน้ำจำนวนมากในรังไข่ หรือในภาษาอังกฤษใช้คำว่า Polycystic ovarian syndrome เป็นกลุ่มอาการที่จะมีความผิดปกติของฮอร์โมน ซึ่งจะเกิดจากมีอินซูลินที่สูง1 มีผลต่อฮอร์โมนอื่น ได้แก่ แอนโดรเจน เอสโตรเจน และโปรเจสเตอโรน ไม่สมดุล ทำให้คือ ความผิดปกติของระบบต่อมไร้ท่อ ทำให้ผู้ป่วยมีระดับฮอร์โมนเอสโตรเจน โปรเจสเตอโรน แอนโดรเจน และอินซูลินอยู่ในภาวะที่ไม่สมดุล เกิดถุงน้ำขนาดเล็กจำนวนหลายใบอยู่ในรังไข่ ส่งผลให้สตรีไม่มีการตกไข่ ประจำเดือนมาไม่ปกติ สิวขึ้น ขนดก หรือมีบุตรยากได้ โดยทั่วไป สตรีที่มี กลุ่มอาการกลุ่มอาการถุงน้ำจำนวนมากในรังไข่มักจะมาพบแพทย์ด้วยอาการประจำเดือนผิดปกติ เกิดจากไข่ไม่ตก ทำให้มีบุตรยาก สตรีที่อยู่ในกลุ่มอาการนี้ มักอ้วน มีสิว ผิวมัน และขนดก 2 ซึ่งหลักในการรักษา คือ การให้มารดาควบคุมน้ำหนักให้อยู่ในเกณฑ์ปกติ ร่วมกับการออกกำลังกายที่สม่ำเสมอ โดยมักแนะนำการปฏิบัติตัวร่วมกับการใช้ยา
สตรีในกลุ่มนี้ เมื่อให้การรักษาอย่างเหมาะสมแล้ว การตกไข่และประจำเดือนจะมาปกติ สตรีจะตั้งครรภ์ได้ ซึ่งในระยะหลังคลอด มารดาที่อยู่ในกลุ่มอาการนี้อาจพบมีน้ำนมมาน้อย ไม่เพียงพอสำหรับการเลี้ยงทารกได้ อย่างไรก็ตาม ส่วนใหญ่ของมารดาที่อยู่ในกลุ่มอาการนี้จะมีน้ำนมมาปกติ หากได้รับกระตุ้นการดูดนมและมีการจัดท่าให้นมที่เหมาะสม แต่ในกลุ่มมารดาที่มีน้ำนมน้อยที่อยู่ในกลุ่มอาการนี้จะให้ประวัติเกี่ยวกับการมีบุตรยาก การขยายของเต้านมในระหว่างการตั้งครรภ์น้อย และมีการตึงคัดเต้านมหลังคลอดน้อย เมื่อกลุ่มมารดาที่มีน้ำนมน้อยมาขอคำปรึกษาเรื่องการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ จึงมีความจำเป็นต้องมีการตรวจฮอร์โมนเพื่อยืนยันความผิดปกติและใช้ติดตามในการรักษา และควรมีการสังเกตมารดาในขณะให้นมลูกว่ามารดามีการให้ทารกกระตุ้นดูดนมเหมาะสมหรือไม่ก่อนเสมอ โดยหากพบปัญหาของการที่มีน้ำนมน้อยเกิดจากอะไร การแก้ไขก็จะแก้ไปตามนั้น มารดาในกลุ่มอาการนี้จะมีความสำเร็จในการให้ลูกกินนมแม่ได้ หากมีความตั้งใจ อดทน และได้รับคำปรึกษาในการดูแลรักษาที่เหมาะสม
เอกสารอ้างอิง
Urbanska E, Hirnle L, Olszanecka-Glinianowicz M, Skrzypulec-Plinta V, Skrzypulec-Frankel A, Drosdzol-Cop A. Is polycystic ovarian syndrome and insulin resistance associated with abnormal uterine bleeding in adolescents? Ginekol Pol 2019;90:262-9.
Zeng X, Xie YJ, Liu YT, Long SL, Mo ZC. Polycystic ovarian syndrome: Correlation between hyperandrogenism, insulin resistance and obesity. Clin Chim Acta 2019.
รศ.นพ.ภาวิน พัวพรพงษ์
เมื่อลูกป่วย การให้ลูกได้กินนมแม่จะยิ่งเกิดประโยชน์ เนื่องจากจะช่วยเรื่องภูมิคุ้มกันแล้ว นมแม่ยังเป็นอาหารที่ย่อยง่าย และให้พลังงานที่ดีแก่ทารกแรกเกิด 1 ดังนั้น หากลูกป่วยโดยโรคทั่วไป ไม่จำเป็นต้องหยุดการให้นมลูก แต่หากลูกมีความเจ็บป่วยบางโรคที่จำเป็นต้องงดน้ำงดอาหาร หรือมีความจำเป็นต้องได้รับการผ่าตัด จะมีความจำเป็นต้องให้ลูกหยุดกินนมแม่ชั่วคราว จนเมื่อแพทย์อนุญาตให้ทารกเริ่มอาหารได้ มารดาก็สามารถกลับมาให้ทารกกินนมแม่ต่อได้ แต่ระหว่างที่มีการเว้นระยะหยุดกินนมแม่ มารดาควรบีบหรือปั๊มนม เพื่อให้เต้านมยังคงมีการสร้างน้ำนมอย่างต่อเนื่อง สำหรับน้ำนมที่บีบหรือปั๊ม มารดาสามารถเก็บรักษาโดยแช่เย็นหรือแช่แข็ง และนำกลับมาใช้หากมารดามีความจำเป็นต้องแยกจากทารกในกรณีอื่น ๆ
เอกสารอ้างอิง
ภาวิน พัวพรพงษ์. รอบรู้เรื่องการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่. นครนายก: ซี.ที. ดอทคอม; 2558.
รศ.นพ.ภาวิน พัวพรพงษ์
หากมารดาบังเอิญเจ็บป่วยในระหว่างที่ให้นมลูก ต้องหยุดให้นมลูกหรือไม่ คำถามนี้หากจะตอบให้ละเอียดต้องดูว่ามารดาป่วยเป็นอะไร โดยปกติหากมารดาไม่มีโรคประจำตัว โรคที่มักเจ็บป่วยก็มักจะเป็นหวัด เจ็บคอ หลอดลมอักเสบ ปวดหัว ปวดท้อง ท้องเสีย เสียด แน่นท้อง อาหารไม่ย่อย แสบร้อนท้อง หรือมีอาการของโรคกระเพาะ โรคที่พบบ่อยเหล่านี้ โชคดีที่วิธีการรักษาของโรครวมทั้งการรักษาด้วยยา ไม่มีผลเสียทารกที่กินนมแม่ 1 ดังนั้น ไม่มีความจำเป็นต้องหยุดการให้นมลูก อย่างไรก็ตาม หากมารดาจำเป็นต้องใช้ยา อาจจะจากร้านขายยา หรือได้รับยาจากคลินิกหรือโรงพยาบาล มารดาควรแจ้งแก่เภสัชกรหรือแพทย์ว่า ตนเองให้นมบุตรอยู่ เพื่อให้บุคลากรทางการแพทย์ที่ให้การดูแล มีความระมัดระวังในเรื่องการใช้ยายิ่งขึ้น และแนะนำการใช้ยาที่เหมาะสม หากมารดาต้องเว้นระยะการให้นมลูกเป็นเวลานานแค่ไหนในโรคบางโรค และต้องมีการติดตามระมัดระวังอะไรบ้างในทารก เช่น การที่มารดาเป็นวัณโรคปอด การให้การรักษามารดาให้พ้นจากระยะที่จะมีการติดต่อ หรือแพร่เชื้อได้ และมารดามีการใช้ยาอะไรบ้าง มีความเสี่ยงที่ต้องติดตามดูอาการหรือการตรวจทางห้องปฏิบัติการใดต่อในทารก เมื่อเป็นเช่นนี้ ในกรณีที่มารดามีความเจ็บป่วยที่จำเพาะ ไม่ใช่โรคที่เจ็บป่วยกันบ่อย ๆ ทั่วไป การรับข้อมูลที่ถูกต้องเหมาะสมจากแพทย์มีความจำเป็น เพื่อให้การปฏิบัติตัวเกี่ยวกับการดูแลเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ ทำได้อย่างเหมาะสม
เอกสารอ้างอิง
ภาวิน พัวพรพงษ์. รอบรู้เรื่องการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่. นครนายก: ซี.ที. ดอทคอม; 2558.
รศ.นพ.ภาวิน พัวพรพงษ์
ขณะที่มารดาตั้งครรภ์มักมีการบำรุงครรภ์โดยรับประทานอาหารมากเกินไป ทำให้มารดามีน้ำหนักเพิ่มขึ้นในระหว่างการตั้งครรภ์ไม่เหมาะสมคือ น้ำหนักที่เพิ่มเกินกว่าที่ควร นอกจากจะไม่เกิดประโยชน์ใด ๆ แก่ทารกแล้ว ยังเพิ่มความเสี่ยงที่จะเกิดภาวะแทรกซ้อนในระหว่างการตั้งครรภ์และการคลอดอีกด้วย โดยจะเพิ่มความเสี่ยงในการเกิดโรคเบาหวานระหว่างการตั้งครรภ์ ทารกตัวโต คลอดยาก เพิ่มความเสี่ยงในการผ่าตัดคลอด การตกเลือดหลังคลอด ซึ่งหากมารดามีน้ำหนักขึ้นที่พอดี หลังคลอดหากมารดาเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ น้ำหนักของมารดาจะลดลงเร็ว และมีน้ำหนักเท่ากับก่อนการตั้งครรภ์ในระยะเวลา 3-6 เดือนหลังคลอด ไม่ต้องมาทุกข์ระทม หรือวิตกกังวลเกี่ยวกับน้ำหนักและรูปร่างที่เปลี่ยนแปลงไปหลังคลอด ดังนั้น หากมารดาต้องการลดน้ำหนัก การเลี้ยงลูกด้วยนมแม่เป็นวิธีการหนึ่งที่จะช่วยลดน้ำหนักอยู่แล้ว1 การควบคุมอาหารและออกกำลังกายในระหว่างการให้นมลูกสามารถทำได้ อย่างไรก็ตาม หากมีการควบคุมอาหารมากจนเกินไปจนร่างกายมารดาได้รับสารอาหารไม่เพียงพอ อาจมีผลต่อสารอาหารในนมแม่ในระยะยาวได้ การลดน้ำหนักในมารดาหลังคลอด แนะนำการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่และดูแลลูกด้วยตนเองก่อน ร่วมกับการควบคุมอาหารและออกกำลังกายแต่พอดี จะทำให้มารดายังสามารถคงการให้นมแม่ได้ มีรูปร่างที่ดี และสุขภาพที่แข็งแรง
เอกสารอ้างอิง
ภาวิน พัวพรพงษ์. รอบรู้เรื่องการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่. นครนายก: ซี.ที. ดอทคอม; 2558.
รศ.นพ.ภาวิน พัวพรพงษ์
ไม่มีอาหารใดที่เป็นประโยชน์ที่ห้ามในมารดาที่ให้นมบุตรในมารดาและบุตรที่ปกติ แต่ก็อย่างที่ทราบกันแล้วว่า “แม่กินอะไร ลูกก็ได้อย่างนั้น” แม่ที่กินอาหารที่มีประโยชน์ ลูกก็จะได้รับสารอาหารที่มีประโยชน์ แม่กินอาหารที่เป็นพิษต่อร่างกาย ลูกก็จะได้รับสารพิษนั้นด้วย การกินอาหารที่ถูกสุขลักษณะและครบห้าหมู่จะเป็นประโยชน์แก่มารดาที่ให้นมบุตร และแม่ที่ให้นมบุตรควรรับประทานอาหารเพิ่มเพื่อใช้ในการสร้างน้ำนมโดยปริมาณอาหารที่เพิ่มราว 500 กิโลแคลอรีต่อวัน สำหรับข้อสงสัยที่ว่า แม่กินอาหารรสจัดหรือเผ็ดได้ไหม คำตอบคือกินได้ แต่ก็ไม่ควรมากเกินพอดี เพราะหากเผ็ดมากไปจนระคายเคืองกระเพาะและทางเดินอาหาร แม่เกิดอาการผิดปกติก็จะเกิดผลเสียต่อการให้นมลูกด้วย1
เอกสารอ้างอิง
ภาวิน พัวพรพงษ์. รอบรู้เรื่องการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่. นครนายก: ซี.ที. ดอทคอม; 2558.
เรื่องนำทาง
แหล่งความรู้ เกี่ยวกับสูติ-นรีเวช (Obstetrics-Gynecology)