รศ.นพ.ภาวิน พัวพรพงษ์
ปัญหาการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ มีตั้งแต่ปัญหาทางด้านร่างกาย ตัวอย่างเช่น มารดามีหัวนมบอด ทารกมีภาวะลิ้นติด ปัญหาทางด้านจิตใจ ตัวอย่างเช่น มารดามีภาวะเครียด หรือภาวะซึมเศร้าหลังคลอด ปัญหาทางด้านครอบครัวและสังคม ตัวอย่างเช่น ปู่ย่าตายายจะให้ทารกกินน้ำ หรือมารดาต้องกลับไปทำงานเร็วเพื่อช่วยในการหารายได้ให้กับครอบครัว จะเห็นว่าปัญหามีความหลากหลายและจะมีความแตกต่างในมารดาและทารกในแต่ละคู่ที่ไม่เหมือนกัน การให้คำปรึกษามารดาและครอบครัวจึงต้องยึดหลักดังนี้
ให้คำปรึกษาให้ตรงประเด็นกับปัญหาที่มีความจำเพาะ สำหรับปัมารดาและทารกในแต่ละคู่
คำปรึกษาที่ให้ต้องอยู่บนพื้นฐานของความเป็นจริง ในบริบทของมารดา1
ให้ทางเลือกที่มีประสิทธิภาพในการแก้ปัญหา สองหรือสามทางเลือก เพื่อให้มารดาได้เลือกตัดสินใจในการแก้ปัญหาด้วยตนเอง
เคารพการตัดสินใจของมารดา ยอมรับและไม่กล่าวโทษมารดาในกรณีที่มารดาปฏิบัติไปแล้วไม่ประสบความสำเร็จ ควรให้กำลังใจว่ามารดาได้ทำดีที่สุดแล้ว เสริมพลัง และเสนอทางออกหรือทางเลือกใหม่ให้มารดาในการให้การสนับสนุนการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ต่อไป
เอกสารอ้างอิง
Doherty T, Horwood C, Haskins L, et al. Breastfeeding advice for reality: Women’s perspectives on primary care support in South Africa. Matern Child Nutr 2020;16:e12877.
รศ.นพ.ภาวิน พัวพรพงษ์
ปัญหาการให้นมลูกในมารดาที่มีน้ำหนักเกินหรืออ้วน เกิดจากมารดาที่มีน้ำหนักเกินหรืออ้วนจะมีความเสี่ยงที่มีภาวะแทรกซ้อนในระหว่างการฝากครรภ์และในระยะคลอดเพิ่มขึ้น ได้แก่ การมีภาวะเบาหวานระหว่างการตั้งครรภ์ การมีภาวะความดันโลหิตสูงระหว่างการตั้งครรภ์ การคลอดยาก ซึ่งทำให้มีโอกาสที่จะได้รับการผ่าตัดคลอดสูง ซึ่งทำให้การเริ่มต้นการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่เริ่มต้นได้ช้า นอกจากนี้มารดาที่มีน้ำหนักเกินหรืออ้วน จะมีน้ำนมมาช้า โดยหากมารดามีเต้านมที่ใหญ่ด้วย การจัดท่าให้นมลูกจะยาก ดังนั้น จึงต้องมีการให้ความรู้และฝึกอบรมให้บุคลากรทางการแพทย์สามารถเลือกให้คำแนะนำที่เหมาะสมในการแก้ปัญหาที่มักพบในมารดากลุ่มนี้1 จะช่วยเพิ่มอัตาการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ในมารดาที่มีน้ำหนักเกินหรืออ้วนได้
เอกสารอ้างอิง
Piro SS, Ahmed HM. Impacts of antenatal nursing interventions on mothers’ breastfeeding self-efficacy: an experimental study. BMC Pregnancy Childbirth 2020;20:19.
รศ.นพ.ภาวิน พัวพรพงษ์
ข้อมูลนี้ไม่เป็นความจริง ขนาดของเต้านมไม่ได้สัมพันธ์กับการประสบความสำเร็จในการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ เนื่องจากการสร้างน้ำนมขึ้นอยู่กับต่อมน้ำนมที่จะมีอยู่คล้ายคลึงในมารดาที่มีเต้านมใหญ่และเต้านมเล็ก แต่ที่แตกต่างกันคือปริมาณไขมันที่สะสมอยู่บริเวณเต้านม ดังนั้น หากมีการเปลี่ยนแปลงหรือพัฒนาการของเต้านมได้อย่างเป็นปกติ การสร้างน้ำนมของมารดาที่มีเต้านมเล็กหรือใหญ่ก็ไม่แตกต่างกัน จะขึ้นอยู่กับการกระตุ้นการสร้างน้ำนมที่ถูกวิธี ก็คือ การให้ลูกดูดกระตุ้นน้ำนมบ่อย ๆ และดูดจนเกลี้ยงเต้า นอกจากนี้ในมารดาที่มีเต้านมขนาดใหญ่ มักพบในมารดาที่มีน้ำหนักเกินหรืออ้วน ขนาดเต้านมที่ใหญ่อาจจะมีผลทำให้การจัดท่าให้นมที่เหมาะสมยากกว่า และในมารดากลุ่มนี้อาจพบมีน้ำนมมาช้า มีภาวะแทรกซ้อนระหว่างการตั้ง ครรภ์และคลอดสูงกว่า ทำให้มีโอกาสที่จะผ่าตัดคลอดมากกว่า1 ซึ่งจะมีผลทำให้การเริ่มต้นการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ทำได้ช้า จะเห็นว่า การที่ขนาดเต้านมใหญ่ไม่ได้มีข้อดีเหนือกว่าขนาดเต้านมปกติ ซึ่งการมีขนาดเต้านมที่มีความพอดีเหมาะสมสำหรับขนาดทารกของมารดาเอง จะเป็นการดีที่สุด
เอกสารอ้างอิง
Chang YS, Glaria AA, Davie P, Beake S, Bick D. Breastfeeding experiences and support for women who are overweight or obese: A mixed-methods systematic review. Matern Child Nutr 2020;16:e12865.
รศ.นพ.ภาวิน พัวพรพงษ์
แม้ว่าจะมีหลักฐานสนับสนุนประโยชน์ของการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่อย่างเดียวหกเดือนจากคำแนะนำขององค์การอนามัยโลก แต่เมื่อมารดาได้รับอนุญาตให้กลับบ้านหลังคลอด กลับไปอยู่ในชุมชน ค่านิยม ธรรมเนียมปฏิบัติ ความเชื่อ คำแนะนำจากปู่ย่าตายาย สมาชิกในครอบครัว เพื่อน ล้วนมีผลต่อการคงการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่อย่างเดียวในช่วงหกเดือนแรก ซึ่งหากเป็นความเชื่อ ค่านิยม หรือคำแนะนำที่ผลเสีย หรือเป็นอุปสรรคต่อการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่อย่างเดียว ตัวอย่างที่พบบ่อย ได้แก่ การให้ลูกกินน้ำล้างปาก หรือกินน้ำเพื่อลดอาการหิวหรือกระหายน้ำ มีการศึกษาพบว่า คำแนะนำที่ถูกต้องจากบุคลากรทางการแพทย์จะสามารถช่วยเพิ่มการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่อย่างเดียว1 ดังนั้น บุคลากรทางการแพทย์หรือสถานพยาบาลควรใส่ใจหรือให้ความสำคัญกับการให้คำแนะนำของการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่อย่างเดียวอย่างต่อเนื่อง
เอกสารอ้างอิง
Gasparin VA, Strada JKR, Moraes BA, Betti T, Pitilin EB, Santo L. Factors associated with the maintenance of exclusive breastfeeding in the late postpartum. Rev Gaucha Enferm 2020;41:e20190060.
รศ.นพ.ภาวิน พัวพรพงษ์
ปัจจุบันการค้นหาข้อมูลต่าง ๆ มักมีการค้นหาผ่านเครื่องมือค้นหาออนไลน์ในอินเตอร์เน็ตกันมากขึ้นรวมทั้งข้อมูลในเรื่องการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ ตั้งแต่ ประโยชน์ วิธีการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ การให้นมแม่ในแต่ละมื้อ ความถี่ในการให้นมแม่ ปัญหาหัวนมและเต้านมในการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ การปั๊มนม การเก็บรักษานมแม่ ประสบการณ์ในการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ และคำถามที่พบบ่อย มารดาที่ค้นหาข้อมูลการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ออนไลน์นั้น มักจะค้นหาคำถาม ปัญหาหรือประสบการณ์ที่มารดาพบเจอ เพื่ออาศัยข้อมูลจากออนไลน์มาใช้ในการช่วยการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ หรือแก้ปัญหาในกรณีที่ปัญหาที่เกิดกับมารดามีความคล้ายคลึงกันกับประสบการณ์ที่มีข้อมูลออนไลน์1 ข้อสำคัญคือ ข้อมูลที่มีอยู่ออนไลน์มีความหลากหลาย และระดับความน่าเชื่อถือของข้อมูลมีความแตกต่างกันมาก ตั้งแต่ข้อมูลที่ไม่เป็นจริง ข้อมูลที่มีความน่าเชื่อถือน้อยจนถึงข้อมูลที่มีความน่าเชื่อถือมาก การคัดกรองความน่าเชื่อถือของข้อมูลออนไลน์จึงเป็นสิ่งที่ควรมีการให้ความรู้แก่มารดาและครอบครัวให้มีความพร้อมในการรับความเปลี่ยนแปลงของการรับรู้ข้อมูลข่าวสารที่ควรมีการแนะนำ จากการศึกษาในระบบและการอบรมจากบุคลากรทางการแพทย์
เอกสารอ้างอิง
Lebron CN, St George SM, Eckembrecher DG, Alvarez LM. “Am I doing this wrong?” Breastfeeding mothers’ use of an online forum. Matern Child Nutr 2020;16:e12890.
เรื่องนำทาง
แหล่งความรู้ เกี่ยวกับสูติ-นรีเวช (Obstetrics-Gynecology)