รศ.นพ.ภาวิน พัวพรพงษ์
? ? ? ? ? ? ?การที่มีน้ำนมจะขังอยู่ที่ส่วนใดส่วนหนึ่งของเต้านม มักเกิดจากภาวะ ?ท่อน้ำนมอุดตัน? เมื่อมีน้ำนมขังอยู่ที่ส่วนใดส่วนหนึ่งของเต้านม สิ่งที่จะเกิดขึ้นคือการอักเสบของเต้านม โดยในช่วงแรกจะเป็นการอักเสบของเต้านมชนิดที่ไม่มีการติดเชื้อ (non-infective mastitis) ซึ่งต่อมาจะตามมาด้วยการอักเสบของเต้านมชนิดที่มีการติดเชื้อ (infective mastitis)
อุบัติการณ์ของเต้านมอักเสบพบร้อยละ 10-33 ขึ้นอยู่กับเกณฑ์ในการวินิจฉัย1-3 ท่อน้ำนมอุดตันและเต้านมอักเสบเกิดได้จากการจัดท่าให้นมที่ไม่เหมาะสมหรือการให้นมไม่บ่อยพอ4 เกิดการขังของน้ำนมและเกิดการอุดตัน อาจเป็นจากการที่ทารกตื่นไม่ดี การพลาดการสังเกตอาการแสดงที่บ่งบอกว่าทารกหิว หรือมารดายุ่ง การให้นมจากส่วนใดส่วนหนึ่งของเต้านมได้ไม่เต็มที่ และเกิดจากมีแรงกดบนเต้านม ซึ่งสาเหตุอาจจะเกิดจากเสื้อผ้าที่แน่นเกินไป การนอนทับบนเต้านม แรงกดจากนิ้วมือที่กดบนเต้านมไม่เหมาะสม หรือการบาดเจ็บของเต้านม2,3 นอกจากนี้ ปัจจัยเสี่ยงของการเกิดเต้านมอักเสบ ได้แก่ หัวนมแตก การใช้เครื่องปั๊มนมที่ออกแรงปั๊มด้วยมือ5 การใช้ยาปฏิชีวนะ การที่น้ำนมมาช้า การแยกมารดาและทารก การใช้ครีมทาหัวนมหรือการใช้ยาฆ่าเชื้อรา และประวัติการมีเต้านมอักเสบในครรภ์ก่อน6
หนังสืออ้างอิง
- Kvist LJ. Re-examination of old truths: replication of a study to measure the incidence of lactational mastitis in breastfeeding women. Int Breastfeed J 2013;8:2.
- Tang L, Lee AH, Qiu L, Binns CW. Mastitis in Chinese breastfeeding mothers: a prospective cohort study. Breastfeed Med 2014;9:35-8.
- Amir LH, Forster DA, Lumley J, McLachlan H. A descriptive study of mastitis in Australian breastfeeding women: incidence and determinants. BMC Public Health 2007;7:62.
- Jahanfar S, Ng CJ, Teng CL. Antibiotics for mastitis in breastfeeding women. Cochrane Database Syst Rev 2013;2:CD005458.
- Foxman B, D’Arcy H, Gillespie B, Bobo JK, Schwartz K. Lactation mastitis: occurrence and medical management among 946 breastfeeding women in the United States. Am J Epidemiol 2002;155:103-14.
- Mediano P, Fernandez L, Rodriguez JM, Marin M. Case-control study of risk factors for infectious mastitis in Spanish breastfeeding women. BMC Pregnancy Childbirth 2014;14:195.