รศ.นพ.ภาวิน พัวพรพงษ์
??????????????? หลังคลอดเมื่อมีการชั่งประเมินน้ำหนักทารกในแต่ละวัน โดยทั่วไปจะพบว่าทารกมีน้ำหนักลดลง เนื่องจากในขณะเกิด การชั่งน้ำหนักทารกหลังคลอด ทารกได้แช่อยู่ในน้ำคร่ำก่อนการชั่ง สัดส่วนน้ำในร่างกายต่อน้ำหนักจะมาก ต่อมาเมื่อมีการระเหยของน้ำจากผิวหนังของทารก และการขับถ่ายที่เพิ่มขึ้น จึงทำให้น้ำหนักทารกลดลง ซึ่งมักจะเกิดขึ้นเป็นปกติใน 2-4 วันแรกหลังคลอด จากนั้นน้ำหนักทารกจึงเริ่มเพิ่มขึ้น และจะเริ่มน้ำหนักเกินน้ำหนักแรกคลอดในวันที่ 10-14 หลังคลอด ดังนั้น หากไม่มีการเตรียมให้มารดาและครอบครัวมีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับน้ำหนักของทารกที่ลดลงหลังคลอด มารดาอาจถูกกดดันหรือมีความเครียดจากการที่ทารกมีน้ำหนักลดและนำไปสู่การเลือกใช้นมผงดัดแปลงสำหรับทารก สิ่งนี้จึงเป็นเรื่องจำเป็นที่ต้องมีการเตรียมมารดาตั้งแต่ก่อนการคลอดและทบทวนอีกครั้งในระยะหลังคลอด อย่างไรก็ตาม หากทารกยังมีน้ำหนักต่ำกว่าน้ำหนักแรกเกิดหลังคลอดสองสัปดาห์ ควรมีการดูแลและติดตามอย่างใกล้ชิด
เอกสารอ้างอิง
- The American of Obstetricians and Gynecologist, American Academy of Pediatrics. Breastfeeding handbook for physician. 2nd edition. 2014.
รศ.นพ.ภาวิน พัวพรพงษ์
??????????????? มีคำถามว่า บุคลากรทางการแพทย์ต้องเข้าไปดูแลสนับสนุนการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่หลังคลอดตั้งแต่เมื่อไร คำตอบคือ ต้องเริ่มทันทีหลังคลอด โดยเริ่มการให้ลูกดูดนมแม่ภายในครึ่งถึงหนึ่งชั่วโมงแรก ร่วมกับการโอบกอดลูกเนื้อแนบเนื้อต่อเนื่องกันอย่างน้อย 1 ชั่วโมง โดยมีหลักการที่สำคัญที่ควรต้องปฏิบัติดังนี้
- กระบวนการใดของการดูแลที่ส่งเสริมการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ควรสนับสนุนและกระบวนการหรือขั้นตอนใดที่ขัดขวางการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ควรหลีกเลี่ยง
- คัดแยกมารดาที่มีปัญหาน้ำนมไม่พอ เพื่อการให้คำแนะนำแก้ไขปัญหาที่เป็นสาเหตุ
- คงให้มารดามีการสร้างน้ำนมอย่างต่อเนื่อง หากมีความจำเป็นต้องแยกทารกจากมารดา
- ในกรณีที่มารดาและทารกมีปัญหาต่อเนื่อง ควรพิจารณาส่งต่อให้ผู้เชี่ยวชาญ
? ? ? ? ? ? ? ?หลักที่สำคัญของการสนับสนุนหลังคลอด คือ เน้นให้เริ่มต้นการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ตั้งแต่ในระยะแรก และสนับสนุนให้มารดามีน้ำนมเพียงพอและต่อเนื่อง
เอกสารอ้างอิง
- The American of Obstetricians and Gynecologist, American Academy of Pediatrics. Breastfeeding handbook for physician. 2nd edition. 2014.
รศ.นพ.ภาวิน พัวพรพงษ์
??????????????? หลังการประเมินมารดาและทารกจากประวัติและการตรวจร่างกายหลังคลอด บุคลากรทางการแพทย์ควรทราบแนวทางสำหรับการแนะนำการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่เบื้องต้น ดังนี้
- แนะนำให้ให้นมทารกตามความต้องการ ซึ่งราว 8-12 ครั้งต่อวัน และให้นมจนเกลี้ยงเต้า
- ระหว่าง 24-48 ชั่วโมงแรกหลังคลอด ทารกบางคนอาจสนใจในการกินนมแม่น้อย โดยอาจเป็นผลมาจากการคลอดที่ลำบาก
- หากทารกไม่ยอมตื่นกินนม ควรกระตุ้นหรือปลุกทารกตื่นกินนมทุก 4 ชั่วโมง
- หลีกเลี่ยงการใช้จุกนมหลอก โดยอธิบายถึงความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นได้
- ทบทวนให้มารดาทราบถึงกลไก ขั้นตอนในการให้นมทารก และลักษณะการขับถ่ายที่เป็นปกติ
? ? ? ? ? ? จะเห็นว่า หลักที่สำคัญในการแนะนำการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ คือ การให้นมทารกตามความต้องการและให้นมให้เกลี้ยงเต้าเพื่อกระตุ้นการสร้างน้ำนมให้เพียงพอ
เอกสารอ้างอิง
- The American of Obstetricians and Gynecologist, American Academy of Pediatrics. Breastfeeding handbook for physician. 2nd edition. 2014.
รศ.นพ.ภาวิน พัวพรพงษ์
??????????????? จากข้อมูลที่ได้จากการประเมินการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ บุคลากรทางการแพทย์จำเป็นต้องตรวจมารดาและทารกในรายละเอียดต่อไปนี้
- ตรวจน้ำหนักทารกและประเมินอายุครรภ์
- ประเมินพฤติกรรมและความพร้อมของระบบประสาทของทารก
- คำนวณน้ำหนักของทารกที่เพิ่มขึ้นหรือลดลงหลังการคลอด
- สังเกตพฤติกรรมมารดาและทารกขณะทารกกินนมแม่
- ตรวจเต้านมมารดา
- ตรวจทารกโดยเฉพาะอย่างยิ่งการทำงานของกล้ามเนื้อและความผิดปกติในช่องปาก
- ประเมินภาวะขาดน้ำของทารก
- ประเมินภาวะตัวเหลืองของทารก
? ? ? ? ? ? ? จะเห็นว่า หลักที่สำคัญในการตรวจเพื่อส่งเสริมการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ ต้องตรวจเต้านม ตรวจช่องปากและการทำงานของกล้ามเนื้อโดยละเอียดเพื่อประเมินความพร้อมในการเข้าเต้า และสังเกตมารดาและทารกขณะกินนมแม่ สิ่งนี้เป็นขั้นตอนที่ควรให้ความสำคัญที่ไม่ควรมองข้ามในการสนับสนุนการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่
เอกสารอ้างอิง
- The American of Obstetricians and Gynecologist, American Academy of Pediatrics. Breastfeeding handbook for physician. 2nd edition. 2014.
รศ.นพ.ภาวิน พัวพรพงษ์
??????????????? การประเมินการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่เป็นสิ่งที่จำเป็น แต่ในทางปฏิบัติมีทั้งการปฏิบัติที่ไม่ถูกต้อง ไม่เหมาะสม หรือขาดความครบถ้วนในการให้การดูแล รายละเอียดที่ต้องประเมินสำหรับการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ มีดังนี้
- ทบทวนประวัติฝากครรภ์ ประวัติการคลอด และการดูแลทารกหลังเกิดใหม่
- พูดคุยกับมารดาถึงเวลาและกระบวนการที่มารดาให้นมลูกครั้งแรกหลังคลอด
- สอบถามมารดาว่า เคยมีการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่มาก่อนหรือไม่
- มารดาปฏิบัติอย่างไรในการให้นมลูก และรู้สึกอย่างไรกับการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่
- ทารกจำเป็นต้องกระตุ้นหรือปลุกให้ตื่นเพื่อกินนมหรือไม่
- ทารกเข้าเต้าง่ายหรือกระตือรือร้นที่จะกินนมหรือไม่
- ทารกได้รับการเข้าเต้าเพื่อให้นมกี่ครั้งใน 24-48 ชั่วโมงแรก
- ทารกได้รับการเสริมด้วยอาหารอื่นใดนอกจากนมแม่หรือไม่
- จำนวนครั้งในการเปลี่ยนผ้าอ้อมที่เปียกแฉะใน 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา
- จำนวนครั้งที่ถ่ายอุจจาระของทารกใน 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา
- มารดารู้สึกสบายในการให้นมหรือมีการเจ็บเต้านมหรือหัวนม
- มารดารับประทานยาอะไรเป็นประจำหรือไม่
- สมาชิกในครอบครัวรู้สึกอย่างไรกับการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่
? ? ? ? ? ?จะเห็นว่า หากบุคลากรทางการแพทย์ให้การประเมินการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่อย่างครบถ้วน โดยเฉพาะความตั้งใจและขั้นตอนในการให้นมลูกซึ่งเป็นจุดที่สำคัญ จะทำให้มีข้อมูลที่จะให้คำแนะนำมารดาและครอบครัวได้อย่างถูกต้องและเหมาะสม
เอกสารอ้างอิง
- The American of Obstetricians and Gynecologist, American Academy of Pediatrics. Breastfeeding handbook for physician. 2nd edition. 2014.
แหล่งความรู้ เกี่ยวกับสูติ-นรีเวช (Obstetrics-Gynecology)